


บท 4
"เฮ้ย! นาย...นาย...ไอ้ลามก ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ปล่อยนะ!" สาวสวยไม่คิดว่าจ้าวซานจิ่นจะดื้อดึงขนาดนี้ พูดดีๆไม่ได้ก็จะใช้กำลัง ใบหน้าเธอแดงระเรื่อด้วยความอับอาย เธอด่าเขาพร้อมดิ้นรนสุดกำลัง
แต่ทั้งหมดนั้นก็ไร้ประโยชน์
จ้าวซานจิ่นลูบฝ่าเท้าของเธอไปมาเพียงเล็กน้อย เมื่อหาจุดที่ต้องการได้แล้ว เขาจึงจัดนิ้วมือให้เป็นรูปดาบ แล้วกดเบาๆ ลงบนจุดนั้น
"อ๊ะ!"
เกือบจะในทันที สาวสวยร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
หญิงสาวอีกคนถามด้วยความเป็นห่วง "พี่ รู้สึกยังไงบ้าง?"
"รู้สึก..." สาวสวยมองน้องสาว แล้วเหลือบตาไปจ้องชายหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตานวดเท้าให้เธอ ปากอ้าค้าง พูดอะไรไม่ออก
แม้ปากเธอจะไม่พูด แต่ในใจกลับเกิดคลื่นความรู้สึกมหาศาล
ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อจ้าวซานจิ่นกดลงบนจุดที่ฝ่าเท้าของเธอ ตอนแรกรู้สึกเหมือนถูกเข็มแทง เจ็บนิดหน่อย แต่หลังจากนั้น กระแสความอบอุ่นพลันไหลออกมาจากนิ้วมือของเขา ผ่านจุดนั้นเข้าสู่ฝ่าเท้าของเธอ แล้วไหลย้อนขึ้นไป ไม่นานก็แผ่ซ่านไปทั่วน่องและต้นขา รวมตัวกันบริเวณรอบๆ แผลที่เอวของเธอ ทุกที่ที่กระแสนั้นผ่านไป ให้ความรู้สึกเหมือนได้รับการนวดจากหมอนวดมืออาชีพ ช่างสบายเหลือเกิน
ความรู้สึกสบายแบบนั้น เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต ไม่นานเธอก็จมดิ่งอยู่ในความรู้สึกนั้น เลิกดิ้นรน และเริ่มลอบเพลิดเพลินไปกับมัน ฟันขบริมฝีปากแน่น โดยไม่รู้ตัวเธอถึงกับส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาจากซอกฟัน
สังเกตเห็นความผิดปกติของพี่สาว น้องสาวจึงถามอย่างแปลกใจ "พี่ ยังเจ็บอยู่มั้ย?"
"ไม่... ไม่เจ็บแล้ว" สาวสวยส่ายหน้า แก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ
"เป็นไงล่ะ พี่ทหารเก่งใช่มั้ยล่ะ?" น้องสาวเชิดคางอย่างภาคภูมิใจ "พี่ ดูท่าทางพี่สิ เคลิ้มจนหน้าแดงไปหมดแล้ว"
"บ้าน่า"
ใบหน้าของสาวสวยแดงเหมือนไฟลน หัวใจเต้นรัว เมื่อมองไปที่จ้าวซานจิ่นอีกครั้ง สายตาของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อน คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้มาจากไหนกันแน่? แค่ให้เขานวดเท้า ทำไมถึงรู้สึกดีไปทั้งตัว ความเจ็บที่เอวหายไปหมด ราวกับไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน
ประมาณห้านาทีผ่านไป จ้าวซานจิ่นจึงปล่อยมือ สูดลมหายใจลึกๆ แล้วพูดว่า "พิษถูกขับออกหมดแล้ว เอายานี้ไปทาที่แผลของพี่สาวคุณ ภายในสามวันน่าจะหายสนิท..."
พูดจบ จ้าวซานจิ่นก็หยิบห่อยาจากกระเป๋าสะพายหลังส่งให้น้องสาว แล้วลุกขึ้นเดินจากไป
น้องสาวอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วขวางทางไว้ "เอ๊ะ พี่ทหาร อย่าเพิ่งไปสิ"
"มีอะไรอีกหรือ?"
"พี่ช่วยชีวิตพี่สาวฉันไว้ คุณเป็นผู้มีพระคุณของทั้งครอบครัวเรา ฉันยังไม่รู้เลยว่าพี่ชื่ออะไร"
"จ้าวซานจิ่น"
"จ้าวซานจิ่น จ้าวซานจิ่น..." น้องสาวท่องชื่อซ้ำสองครั้ง แล้วยิ้ม "ชื่อพี่ทหารไพเราะจังเลย ฉันชื่อหลิวเจี้ยวเจี้ยว พี่สาวฉันชื่อหลิวอิ่งอิ่ง นี่ค่ะ นามบัตรของพี่สาวฉัน"
จ้าวซานจิ่นรับนามบัตรมาดู เห็นเขียนไว้ชัดเจนว่า: หลิวอิ่งอิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสมุนไพรจีนหลิวจำกัด เมืองเจียงไห่
กรรมการผู้จัดการ?
จ้าวซานจิ่นขมวดคิ้ว คิดในใจว่าน่าแปลกที่สาวสวยชื่อหลิวอิ่งอิ่งคนนี้ดูเด็ดเดี่ยวนัก ที่แท้เธอเป็นหญิงเก่งในวงการธุรกิจ และพี่น้องทั้งสองก็นามสกุลหลิว บริษัทสมุนไพรหลิวคงเป็นธุรกิจของครอบครัวพวกเธอ มองในแง่นี้ พวกเธอคงเป็นทายาทคนรวย ลูกสาวตระกูลใหญ่
ก็ถูกของเขา ถ้าไม่ใช่คนรวยจากที่อื่น ใครจะขับ BMW X5 ได้?
สิ่งเดียวที่จ้าวซานจิ่นสงสัยคือ ทำไมพวกเธอถึงมาที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้โดยไม่มีเหตุผล? หรือว่ามาเยี่ยมญาติ?
ขณะที่เขากำลังใจลอย หลิวเจี้ยวเจี้ยวก็ทายาให้หลิวอิ่งอิ่งเสร็จแล้ว หลิวอิ่งอิ่งพยายามลุกขึ้นยืน แต่น่าหงุดหงิดตรงที่หลังจากจ้าวซานจิ่นนวดเท้าขับพิษให้ แม้แผลที่เอวจะไม่เจ็บแล้ว แต่กระดูกทั้งตัวกลับรู้สึกอ่อนระทวย เธอไม่สามารถก้าวเดินได้
"ไม่นึกเลยว่าในโลกนี้จะมีวิชานวดกระดูกรักษาโรคจริงๆ!" เมื่อเห็นความจริงตรงหน้า หลิวอิ่งอิ่งก็อดเชื่อไม่ได้
หลิวอิ่งอิ่งดูแลกิจการสมุนไพรหลิว ทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพร สำนวนว่าพ่อค้าย่อมแสวงหากำไร เมื่อเงยหน้ามองจ้าวซานจิ่น สมองของเธอก็เกิดความคิดกล้าหาญขึ้นมาทันที: "ถ้าผสมผสานวิชานวดกระดูกรักษาโรคของจ้าวซานจิ่นเข้ากับยาสมุนไพรจีน แล้วนำออกสู่ตลาด ประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ แน่นอนว่าจะสร้างผลกระทบทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล อย่างนั้นไม่เพียงช่วยให้บริษัทสมุนไพรหลิวหลุดพ้นจากวิกฤตปัจจุบัน แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยและวงการแพทย์อีกด้วย นับเป็นการได้ประโยชน์ทั้งสามฝ่าย!"
เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้น หลิวอิ่งอิ่งก็ตัดสินใจทันทีว่าจะต้องพยายามโน้มน้าวจ้าวซานจิ่นให้ร่วมมือกับเธอให้ได้
"คุณจ้าวซานจิ่นใช่ไหม?" หลิวอิ่งอิ่งกระแอมเบาๆ วางท่าทีกรรมการผู้จัดการและนิสัยหยิ่งผยองลง พูดอย่างสำนึกผิด "เมื่อกี้ฉันเข้าใจผิดคิดร้ายกับคุณ หวังว่าคุณจะไม่ถือสา"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จ้าวซานจิ่นและหลิวเจี้ยวเจี้ยวสบตากัน ทั้งคู่อึ้งไป
ขอโทษ?
จ้าวซานจิ่นบังคับนวดเท้าให้หลิวอิ่งอิ่ง เขาคิดว่าเธอจะลุกขึ้นมาตบเขาเสียอีก แต่เธอกลับพูดเช่นนี้ออกมา ทำให้จ้าวซานจิ่นคาดไม่ถึง
หลิวเจี้ยวเจี้ยวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยื่นมือไปแตะหน้าผากของพี่สาว แล้วถามอย่างแปลกใจ "พี่ นี่พี่โดนงูกัดที่เอว แล้วเอวไม่เป็นไร แต่สมองเสียหรือเปล่า?"