


ค่ายพักแรม
พอรถบรรทุกจอดสนิท อเล็กเซียก็คลานออกจากเบาะหน้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
"จะบอกพ่อกับแม่ไหม" ลูก้าถามน้องสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง อเล็กเซียไม่สามารถเอ่ยคำใดได้ เธอส่ายหน้า ดวงตามองออกไปไกลลิบลิ่ว ห่างไกลออกไป
ลูก้าพยักหน้าราวกับคาดเดาคำตอบนั้นได้อยู่แล้ว "โอเค เดี๋ยวพี่จัดการเอง" เธอเดินลากเท้าขึ้นบันไดบ้านฝูงเข้าไปในห้องของตัวเอง กลับมาถึงได้ด้วยความเคยชินของร่างกายเท่านั้น
เธอตรงไปที่เตียงแล้วกุมหน้าอก โลกทั้งใบของเธอกำลังแตกสลายต่อหน้าต่อตา ทนความเจ็บปวดไม่ไหว เธอหลับตาแน่นเท่าที่จะทำได้
สองวันผ่านไป อเล็กเซียออกจากห้องแค่ตอนกินข้าว เธอไม่มีอารมณ์จะเข้าสังคม ไม่ได้สนใจกรุ๊ปแชทด้วยซ้ำ น้ำตาเหือดแห้งไปแล้ว เธอนอนอยู่บนเตียงครุ่นคิด ส่วนหนึ่งคิดว่าเธอควรจะบุกเข้าไปในห้องนั้นแล้วประกาศสิทธิ์ในคู่แท้ของเธอ อีกส่วนคิดว่าเธอควรจะก้าวต่อไปและลบประสบการณ์นั้นออกจากความทรงจำ เธอไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอีกครั้ง ลูก้าก็เดินสบายๆ เข้ามาในห้อง "ลุกขึ้น" เขาบอก
เธอซุกหัวใต้หมอน ผมเผ้ายุ่งเหยิงแผ่กระจายและเริ่มจับเป็นก้อนเพราะไม่ได้ดูแล "ปล่อยฉันอยู่คนเดียว" เธอพูด เสียงอู้อี้เพราะหมอน
"ไม่ เธอน่ะต้องลุกขึ้นแล้วเก็บของ เราจะไปตั้งแคมป์กัน" พี่ชายยืนกราน กอดอกแน่น
"ฉันสบายดีอยู่ตรงนี้ ขอบคุณมาก" เธอบอกอย่างไม่มีใจจะขยับออกจากถ้ำของตัวเอง
"ไม่สบายดีแน่ๆ ฟังจากปริมาณเพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์ที่ดังออกมาจากห้องนี้น่ะ เธอไม่โอเคหรอก" ลูก้าพูดอย่างรู้ทัน
อเล็กเซียสูดหายใจลึกแล้วลุกขึ้นนั่ง "ทำไมเราต้องไปตั้งแคมป์ด้วย"
"ง่ายๆ เลย เธอต้องออกจากห้องนี้ แต่พี่ว่าเธอคงไม่อยากเจอผู้คน อีกอย่าง เราเป็นหมาป่านะ ป่ามันดีต่อพวกเรา" เขายักไหล่
เธอวางแผนว่าจะจมอยู่กับความสมเพชตัวเองต่อในคืนนี้ แต่การตั้งแคมป์ก็อาจจะดีเหมือนกัน "ก็ได้" ในที่สุดเธอก็ยอมตกลง
"เราจะออกในสามสิบนาที เก็บกระเป๋าซะ พี่บอกพ่อกับแม่แล้ว ไม่ต้องห่วง" ลูก้าพูดข้ามไหล่ขณะเดินออกไป
สองพี่น้องฝาแฝดเดินป่ากันเกือบทั้งวัน อากาศบนภูเขาทำให้อเล็กเซียหัวสมองปลอดโปร่ง พวกเขายืนอยู่ที่ขอบหน้าผา มองลงไปยังหุบเขาเบื้องล่าง
"ว่าไงบ้าง" ลูก้าถามขณะที่พวกเขาทอดสายตาออกไป
อเล็กเซียซึมซับภาพตรงหน้าก่อนจะพูด "ดีใจที่ฉันมา ขอบใจนะ..."
"อย่าเพิ่งขอบใจสิ พี่มีเซอร์ไพรส์..." เขาพูดพลางทำหน้ามีความลับ
"อะไรเหรอ" เธอถาม สีหน้าประหม่า
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากหัวมุม เป็นเสียงที่เธอจำได้เสมอ "ว่าไงแก๊ง" คริสนั่นเอง โอ้ คริส พร้อมกับโธมัส ทาบิธา และเฮเซลตามมาติดๆ
เจ้าตัวตลกทำให้มุมปากอเล็กเซียยกยิ้มเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน
"บอกแล้วว่าเรามาถูกทาง!" โธมัสพูด
"ฉันว่าเราเลี้ยวผิดไปหลายรอบเลยนะ" ทาบิธาสวน
"เงียบไปเลยทั้งคู่" เฮเซลขัดจังหวะพลางเดินเข้ามากอดอเล็กเซีย เธอกอดเพื่อนไว้แล้วพูดว่า "หนึ่งเดียวเพื่อทุกคน และทุกคนเพื่อหนึ่งเดียว"
"เอ็ดมันด์ฝากความคิดถึงมา แต่เขากำลังจมอยู่กับกองเอกสารน่ะ" ลูก้าเสริม
กลุ่มเพื่อนเดินป่ากันต่ออีกหน่อยจนกระทั่งตัดสินใจตั้งแคมป์ พวกเขากินสิ่งที่พวกผู้ชายล่ามาได้ ปรุงมันเหนือไฟกองเล็กๆ
พวกเขาคุยกันแต่เรื่องเบาๆ เล่าเรื่องตลก หรือแม้กระทั่งร้องเพลงเพี้ยนๆ กัน ในที่สุดก็ตัดสินใจแยกย้ายพักผ่อน ทุกคนมุดเข้าถุงนอนของตัวเอง คริสเดินไปจูบหัวเพื่อนๆ ในแก๊งทุกคน เรียกเสียงหัวเราะคิกคัก "ฝันดีนะเพื่อนซี้ ไปนอนได้แล้ว ไปเสริมสวยกันหน่อย พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าลูก้าบางคนต้องการมันมาก" เขาพูดกับทุกคนพร้อมรอยยิ้มประจำตัว
"ฝันดีคริส!" พวกเขาร้องตอบพร้อมกัน
"เฮ้ย!" ลูก้าประท้วง
รุ่งสาง กลุ่มเพื่อนก็ตื่นนอน ดับไฟที่ก่อไว้เมื่อคืน พวกเขากล่าวคำอำลาแล้วแยกเป็นสองกลุ่มเพื่อเดินทางกลับบ้าน
อเล็กเซียวิ่งกลับบ้าน เธอรู้สึกมีพลังใจเต็มเปี่ยมจากการเดินทางครั้งนี้ เธอยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเรื่องแคสเปียน แต่เธอจะเผชิญหน้ากับมันตรงๆ
เมื่อกลับถึงบ้านฝูง เธอตรงไปที่ห้องทันที เปิดหน้าต่างให้อากาศบริสุทธิ์ถ่ายเทเข้ามา แล้วเริ่มทำความสะอาดห้อง เธอซักผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าสกปรก จัดห้องนอนและห้องน้ำให้เป็นระเบียบ เธอยังปัดฝุ่น เปิดเพลงเต้นรำไปด้วยขณะทำงาน เมื่อทำเสร็จ ห้องของเธอก็สะอาดเอี่ยม
เธอกำลังสำรวจผลงานของตัวเองเมื่อมีเสียงเคาะประตู "เข้ามาเลย" เธอร้องบอกเสียงสดใส
มอร์แกนเดินเข้ามานั่งบนเตียง "คือ... แม่กับฉันกำลังคิดว่าจะไปซื้อชุดเดรสใหม่กัน เลยอยากรู้ว่าเธออยากไปด้วยไหม"
"ทำไมต้องซื้อชุดใหม่เหรอ" อเล็กเซียถาม
มอร์แกนมองเธออย่างงงๆ "ก็เพื่องานเต้นรำไง แน่นอนอยู่แล้ว"
"งานเต้นรำอะไรเหรอ จัดเมื่อไหร่" อเล็กเซียถาม พยายามนึกถึงงานเต้นรำในตาราง
"หมายความว่าไงงานเต้นรำอะไร ก็งานที่ทุกคนพูดถึงกันอยู่นี่ไง พระราชาทรงจัดงานเต้นรำให้พวกอัลฟ่ากับครอบครัวก่อนที่การฝึกอบรมผู้นำจะเริ่มน่ะ ฉันเดาว่าคงเหมือนงานฉลองอะไรสักอย่าง ไม่รู้สิ ไม่สนใจด้วย เอาเป็นว่ามีงานเต้นรำ แล้วเราก็จะไปกัน นี่เธอไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมารึไง ทำไมถึงไม่รู้เรื่องนี้"
อืม ไม่ใช่ก้อนหินหรอก แต่เป็นหมอนต่างหาก อเล็กเซียคิดในใจ
ท้องของอเล็กเซียปั่นป่วนไปหมด เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีทางหลีกเลี่ยงเขาได้ และเมื่อเจอหน้ากัน พวกเขาก็จะต้องคุย 'เรื่องนั้น' กัน
เธอแกล้งป่วยก็ได้ แต่เธอจะต้องไปอยู่ที่วังเป็นเดือนๆ ยังไงก็ต้องเจอเขาอยู่ดี เผชิญหน้าตรงๆ เธอคิดกับตัวเอง เผชิญหน้ากับเขาตรงๆ และต้องดูสวยเริ่ด
ใช่ เธอจะเผชิญหน้ากับเขาในงานเต้นรำในสภาพที่ดูดีที่สุด เธอจะสวยและกล้าหาญ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
"อืม งั้นฉันคงต้องหาชุดเดรสสักชุดแล้วล่ะ" ในที่สุดอเล็กเซียก็พูดออกมา