


บท 1
น้าสาวของฉันแก่กว่าฉันหกปี เธอเป็นน้องสาวต่างมารดาของพ่อฉัน เป็นลูกติดที่ย่าคนใหม่พามาเมื่อคุณปู่แต่งงานใหม่
ปีที่น้าสาวและย่าคนใหม่ย้ายมาอยู่บ้านเรา ฉันอายุสิบขวบแล้ว
แต่เมื่อตอนอายุเก้าขวบ ฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ขาขวาพิการและตาบอดสนิท ต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต ฉันจึงไม่เคยเห็นหน้าน้าสาวเลย
น้าสาวออกไปเรียนหนังสือนอกบ้านสี่ปี และแต่งงานเข้าเมืองไปเมื่อสามปีก่อน ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราแทบไม่ได้พบกันเลย
ความทรงจำที่ฉันมีต่อน้าสาวหยุดอยู่แค่ตอนอายุสิบขวบ เสียงหัวเราะไพเราะของเธอ และความรู้สึกนุ่มละมุนของมือน้อยๆ คู่นั้นตอนที่เธอล้างหน้าให้ฉัน
เมื่อสองวันก่อน แม่ฉันป่วย ต้องไปรักษาตัวในเมือง พ่อเป็นห่วงว่าฉันจะดูแลตัวเองไม่ได้ จึงพาฉันเข้าเมืองด้วย เมื่อน้าสาวทราบข่าว ก็ชวนให้ฉันไปพักที่บ้านเธออย่างกระตือรือร้น
ระหว่างที่พ่อพาฉันไปบ้านน้าสาว เพราะรถเมล์กระดอนขึ้นลง ดวงตาของฉันก็กลับมามองเห็นได้อย่างปาฏิหาริย์
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะบอกเรื่องนี้กับพ่อ พ่อก็รีบจากไปเพราะมีโทรศัพท์ด่วน เหลือเพียงฉันไว้ที่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์น้าสาว
เมื่อฉันเปิดประตูบ้านน้าสาวและเห็นเธอ ฉันถึงกับตะลึงงัน เพราะน้าสาวช่างงดงามเหลือเกิน ไม่แพ้ดาราภาพยนตร์และทีวีเลยแม้แต่น้อย
"น้องหราน มาแล้วเหรอ" น้าสาวลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินส่ายสะโพกน้อยๆ มาหา
"น้าสาวครับ" ฉันทักทายอย่างเขินอาย แต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่อกของน้าสาว
เธอสวมชุดกระโปรงสีขาว แม้จะไม่ใช่แบบรัดรูป แต่ด้วยรูปร่างอวบอิ่มของเธอ ทำให้หน้าอกดูเต็มอิ่ม ยิ่งแสดงเสน่ห์ของหญิงสาวที่เติบโตเต็มที่
ที่สำคัญคือ เธอไม่ได้สวมชุดชั้นใน มีจุดนูนเล็กๆ สองจุดที่หน้าอกทำให้ฉันรู้สึกคอแห้งผาก
ภาพนี้ สำหรับฉันที่ไม่ได้เห็นผู้หญิงมาสิบปีและกำลังอยู่ในวัยหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน นับเป็นการยั่วยวนไม่น้อย จิตใจฉันเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่
น้าสาวไม่รู้หรอกว่าฉันกำลังคิดอะไร แม้แต่สายตาของฉัน เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอเข็นรถเข็นของฉันเข้าไปข้างใน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะในสายตาเธอ ฉันยังเป็นคนตาบอดอยู่
"น้องหราน เข้ามานั่งรอก่อนนะ น้าจะไปรินน้ำให้"
พูดจบ น้าสาวก็พาฉันเข้าไปในห้องนั่งเล่น แล้วเดินไปที่เครื่องกรองน้ำ
แต่ตอนนี้ฉันกลับใจลอย
รูปร่างของน้าสาวดีเกินไป แม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่ความรู้สึกจริงๆ เมื่อครู่ก็ทำให้ฉันคิดฟุ้งซ่าน
"เอ๊ะ ทำไมเครื่องกรองน้ำไม่ทำงานล่ะ?"
เสียงของน้าสาวดึงฉันกลับสู่ความเป็นจริง ฉันมองตามเสียงไปที่น้าสาว และตาเบิกกว้าง
ชุดกระโปรงของน้าสาวยาวแค่ต้นขา เนื่องจากเครื่องกรองน้ำมีปัญหา น้าสาวจึงต้องก้มตัวลงหันหลังให้ฉัน เพื่อดูว่าเกิดปัญหาอะไร
เธอยื่นก้นงอนๆ ออกมาเล็กน้อย กระโปรงสั้นแทบจะปกปิดได้แค่ขอบเท่านั้น ส่วนอื่นๆ เห็นได้หมด
ลูกไม้สีแดงที่มีจุดดำเล็กๆ แทรกอยู่ ผิวต้นขาขาวนวลและเนียนนุ่ม
ภาพนี้ทำให้ฉันสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ คอแห้งผากทันที
"เอ้า ได้แล้ว"
ทันใดนั้น น้าสาวก็หันกลับมามองฉัน
ฉันตกใจรีบจะเบนสายตา แต่แล้วก็ยั้งตัวเองไว้ทัน
ถ้าตอนนี้เบนสายตาไป น้าสาวต้องสงสัยแน่ ฉันจึงจ้องมองน้าสาวต่อไป
น้าสาวดูเหมือนจะสงสัยเล็กน้อย เธอรีบดึงกระโปรงลงมา แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น ใช้มือโบกไปมาตรงหน้าตาฉัน
ฉันกลัวจะถูกจับได้ จึงแกล้งทำเป็นนิ่ง รีบพูดว่า "ไม่เป็นไรครับน้า ผมไม่กระหาย ไม่ต้องลำบากแล้ว"
"เดินทางมาตั้งไกล จะไม่กระหายได้ยังไง ดูสิ ผอมกว่าตอนเด็กๆ อีก"
พูดจบ น้าสาวก็รินน้ำใส่แก้ว ใส่ใบชาลงไปนิดหน่อย แล้วส่งให้ฉัน
ฉันเห็นว่าน้าสาวไม่สงสัยแล้ว จึงถอนหายใจโล่งอก รับแก้วน้ำมาจิบ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาช่วยให้จิตใจที่กำลังวุ่นวายค่อยๆ สงบลง
"น้องหราน พักผ่อนก่อนนะ เดี๋ยวน้าจะทำอาหารให้"
น้าสาวพูดพลางเปิดโทรศัพท์มือถือข้างๆ ฉัน
ฉันพยักหน้า นั่งเรียบร้อยบนโซฟา
แต่ไม่นาน สายตาฉันก็ถูกดึงดูดไปที่สิ่งที่อยู่บนโทรศัพท์มือถือของน้าสาว
ไฟที่เพิ่งสงบลงในตัวฉันก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง...