บท 1

เทอมนี้เพิ่งเริ่มต้น มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งย้ายมาเข้าชั้นเรียนของเรา จ่าเหมาเห็นแล้วก็ทำตัวไม่อยู่เลย ทุกวันมันพูดติดหูผมว่า "ดูสิ ชินเหวยเหวยสวยขนาดไหน เธอคือนางฟ้าในดวงใจฉันเลยนะ"

ชินเหวยเหวยสวยจริงๆ นั่นแหละ แต่งตัวทันสมัย ใบหน้าเป็นแบบน่ารักๆ มีพวงแก้มอวบนิดๆ ดวงตาคู่สวยใต้ผมหน้าม้าตรงนั้นกะพริบวิบวับ ราวกับจะดึงหัวใจคุณออกมาได้ ในเมืองทางเหนือที่แห้งแล้งของพวกเรา ผิวของเธอดูขาวนุ่มเป็นพิเศษ เด็กผู้หญิงในอำเภอเล็กๆ ของพวกเรา แต่งตัวสู้เธอไม่ได้เลย เธอชอบใส่กระโปรงมาเรียน ขาขาวๆ สองข้างนั้นแกว่งไปมา ทำเอาพวกผู้ชายในห้องตาแดงกันไปหมด

โดยเฉพาะจ่าเหมา หลังจากชินเหวยเหวยมา ไอ้นี่ไม่เคยขาดเรียนเลยสักคาบ ขยันเป็นบ้า มันเขินที่จะไปคนเดียว เลยต้องลากผมไปด้วยทุกวัน พยายามหาที่นั่งข้างๆ ชินเหวยเหวยให้ได้

ได้ยินว่าเพียงแค่ครึ่งเดือนที่ชินเหวยเหวยมา เธอได้รับจดหมายรักไปกว่ายี่สิบฉบับแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าเธอคบกับใครเลย

วันนี้อาจารย์มาช้า ในห้องเรียนเลยคึกคักมาก

จ่าเหมาเอาหัวมาชิดๆ แล้วบอกว่า "ฉันอยากเขียนจดหมายรักให้ชินเหวยเหวย นายว่าไง?"

ผมไม่เกรงใจเลยสักนิด บอกว่า "ไอ้หน้าตาอัปลักษณ์อย่างแกยังจะเขียนจดหมายรักอีกเหรอ น้องๆ ในโรงเรียนเราที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวพวกนั้น แกก็พอจะเอาอยู่หรอก"

จ่าเหมาไม่พอใจ บอกว่าไม่แน่นะ บางทีเธออาจจะชอบผู้ชายแบบมันก็ได้

ผมมองดูมันอย่างจริงจัง แล้วก็ส่ายหน้าตามความเป็นจริง

จ่าเหมารบเร้าผมไม่หยุด "ช่วยฉันหน่อยเถอะน่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผู้ชายน่ะ เรื่องแบบนี้ต้องลองดูสักตั้ง"

ผมเป็นคนที่เขียนเรียงความเก่งมาตั้งแต่เด็ก สมัยมัธยม มีคนมาขอให้ช่วยเขียนจดหมายรักเยอะแยะ ทั้งผู้ชายผู้หญิง จ่าเหมาเรียนห้องเดียวกับผมตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมัธยมปลาย ไอ้นี่พ่อแม่ไม่รู้คิดยังไง ตั้งชื่อให้มันว่า อวี้เหวินจ่า ผมเลยเรียกมันว่าจ่าเหมาตลอด พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังอยู่ด้วยกัน พวกเราสองคนสนิทกันมาก

คิดดูแล้วก็ใช่ ทำไปเลยดีกว่า จะได้ให้มันหมดหวังไปเลย

อีกอย่าง นี่ก็เทอมสองปีหนึ่งแล้ว ผมยังไม่ได้แสดงความสามารถพิเศษของผมเลย มือก็เริ่มคันๆ แล้ว

พูดถึงทำก็ทำเลย ผมชำเลืองมองมันแล้วพยักหน้า

จ่าเหมาหยิบกระดาษจดหมายที่เตรียมไว้แล้วออกมา ผมหัวเราะนิดหน่อยแล้วบอกว่า "ไอ้เวร แกมีใจคิดโจรกรรมมานานแล้วสินะ" มันยืนถูมือหัวเราะฮิๆ อยู่ข้างๆ

การเขียนจดหมายรักนี่ สำหรับผมมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

ผมเขียนอย่างคล่องแคล่ว ไม่ต้องลอกใคร คิดบทกวีรักสองสามประโยคขึ้นมาเอง พอเขียนลงไป รู้สึกเลยว่าระดับของผมโดดเด่นกว่าพวกนักศึกษามหาวิทยาลัยเถื่อนพวกนี้เยอะ

จ่าเหมาแอบมองไปทางชินเหวยเหวย พลางถือจดหมายรักของผมอ่านด้วยตาเป็นประกาย ดูพอใจมาก หลังจากทำเสร็จ ผมก็เริ่มแอบอ่านนิยายของผมต่อ

ไม่คิดว่าตอนนั้นเอง ห้องเรียนที่เสียงดังอึกทึกจู่ๆ ก็เงียบลง

ผมรีบซ่อนนิยายเข้าไปในโต๊ะอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว

ผมรู้ว่าอาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาแล้ว

มหาวิทยาลัยเถื่อนของพวกเรา จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เข้มงวดอะไร หลายคนแค่มาเรียนเพื่อให้ได้วุฒิอนุปริญญาเท่านั้น ดังนั้นตอนที่อาจารย์ที่ปรึกษามา คาบเรียนก็ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว

แต่ไม่เข้มงวดก็คือไม่เข้มงวด คุณไม่สามารถทำอะไรแปลกๆ ต่อหน้าเขาได้นะ

ตอนนี้จ่าเหมาอยู่ในสภาพแบบนั้นเลย ดวงตาเล็กๆ คู่นั้นจดจ่อ มือถือจดหมายรักอย่างเคลิบเคลิ้ม พึมพำไปเรื่อย ตอนที่อาจารย์ที่ปรึกษาเดินเข้ามา มันยังไม่ทันรู้ตัวเลย

จนกระทั่งอาจารย์ที่ปรึกษาฉวยจดหมายรักไปจากมือ ไอ้นี่ถึงได้รู้สึกตัว สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ร้องโอ๊ยออกมา พยายามจะแย่งจดหมายคืน

อาจารย์ที่ปรึกษามองมันอย่างขบขัน ดมกระดาษจดหมายแล้วพูดล้อเล่นว่า "หอมดีนี่ เขียนให้ใครเหรอ ให้อาจารย์ดูหน่อย"

ใบหน้าของจ่าเหมาแดงขึ้นทันที พูดอึกอักว่า "ไม่ใช่ๆ"

อาจารย์ที่ปรึกษาถือจดหมายรัก เดินกลับไปที่แท่นบรรยาย ไขว่ห้างแล้วอ่านออกมาจริงๆ

"ถึงชินเหวยเหวย นางฟ้าที่รัก"

พอประโยคนี้ออกมา ทั้งห้องก็หัวเราะกันใหญ่

ผมก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงกับโต๊ะแล้วหัวเราะ

ส่วนชินเหวยเหวยที่อยู่อีกฝั่ง ตาเธอเบิกกว้าง จ้องมองมาทางจ่าเหมาอย่างดุๆ ท่าทางนั้นน่ารักสุดๆ

ไม่คิดว่าไอ้จ่าเหมานี่ จะแข็งคอบอกว่า "อาจารย์เฉิง นี่ไม่ใช่ผมเขียนนะครับ นี่จางหยางเขียน เขาให้ผมเอาไปส่งให้ชินเหวยเหวย"

เฮ้ย เชี่ย!

ผมอึ้งไปทันที

แล้วสายตาทุกคู่ก็หันมามองผม

ชินเหวยเหวยยิ่งมองผมด้วยสายตาโกรธๆ

บทถัดไป
บทก่อนหน้าบทถัดไป