บทที่ 2

เดอร์มอตรีบถาม “ดร. ไคท์ปรากฏตัวเมื่อไหร่?”

“ผมได้ยินข่าวเมื่อเช้านี้ครับ”

เดอร์มอตสั่ง “ส่งคนไปจัดการเรื่องนี้ทันที คราวนี้ ไม่ว่าเธอจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน พวกนายต้องหาเธอให้เจอ!”

เพื่อนของเดอร์มอตป่วย มีเพียง ดร. ไคท์เท่านั้นที่รักษาเธอได้ เขาจึงตามหาตัว ดร. ไคท์มาเป็นเวลานานแล้ว

ทอดด์พยักหน้า “ครับ คุณดอยล์”

ณ โรงพยาบาลมอริส

เช้าตรู่ โรงพยาบาลเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบคาดเดา

“พวกเธอคิดว่ารองผู้อำนวยการคนใหม่เป็นใคร? ผู้ชายหรือผู้หญิง? จะเข้ากับคนง่ายไหมนะ?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ? คนคนนี้อยู่ๆ ก็โผล่มาเป็นรองผู้อำนวยการเลย ใครก็ตามที่ทำแบบนั้นได้ ไม่เป็นเทพด้านเทคนิคก็คง...” คนหนึ่งหัวเราะหึๆ อย่างมีความหมายแฝง

“ฉันได้ยินมาว่ายังสาวอยู่เลยนะ น่าจะเป็นพวกมีเส้นสายมากกว่า”

“ฉันก็ว่างั้น”

เพราะในวงการแพทย์ ประสบการณ์สำคัญอย่างยิ่ง หลายคนใช้เวลาหลายสิบปียังไปไม่ถึงตำแหน่งรองผู้อำนวยการเลย นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาต่างอยากรู้เกี่ยวกับคนใหม่ที่เพิ่งมาถึง

ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทา พยาบาลสาวคนหนึ่งวิ่งเหยาะๆ เข้ามา “เธอมาแล้ว! สวยมากเลย!”

ทุกคนประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาเดินไปยังแผนกประสาทศัลยศาสตร์ กระตือรือร้นอยากจะเห็นหน้ารองผู้อำนวยการคนใหม่

ระหว่างทางจากห้องผู้อำนวยการไปยังห้องทำงานของตัวเอง เอเวลินตกอยู่ภายใต้สายตาอยากรู้อยากเห็นของคนอื่นๆ เมื่อเข้าไปข้างใน เธอก็ปิดประตูและนั่งลงทำงานทันทีโดยไม่หยุดพักแม้แต่น้อย

ในตอนแรก เธออยากอยู่ต่างประเทศมากกว่าอยู่ในเมืองมอริส เพราะเธอเคยใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและสร้างชื่อเสียงไว้ที่นั่นแล้ว

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลมอริสสามารถติดต่อเธอได้ โดยหวังว่าเธอจะอยู่ต่อ

การดูแลด้านประสาทศัลยศาสตร์ในเมืองมอริสมีจำกัด พวกเขาจึงขอร้องอ้อนวอนให้เธออยู่ต่อ โดยหวังว่าเธอจะสามารถช่วยพวกเขาให้รักษาชีวิตคนได้มากขึ้น เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด เอเวลินก็ลังเล

สุดท้าย เธอก็อยู่ต่อเพราะเอเดนและไนออลก็ต้องการให้เธออยู่เช่นกัน

“เธอยังเด็กมาก! อายุถึงสามสิบหรือยังเนี่ย?” ใครคนหนึ่งอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ

“ได้ยินมาว่าอายุแค่ยี่สิบหกเอง”

“เป็นไปได้ยังไง?” ผู้คนต่างประหลาดใจ

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ?” ใครคนหนึ่งโต้กลับ “อย่าตัดสินคนแค่เพราะเห็นว่ายังสาว ฉันได้ยินมาว่าเธอจบปริญญาเอกนะ”

“พวกคุณไม่เคยได้ยินชื่อ ดร. ไคท์เหรอ?” มาริน่า ปีเตอร์สัน ไม่อยากเชื่อในความไม่รู้ของพวกเขา คนพวกนี้นี่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

ฝูงชนดูงุนงง พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อ ดร. ไคท์มาก่อน

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา มาริน่าก็กลอกตา “ก็แค่ไปหาข้อมูลในเน็ตดูสิ พวกไม่รู้อะไรเลยเอ๊ย”

พูดจบ เธอก็วิ่งเหยาะๆ ไปที่ห้องทำงานของเอเวลิน เคาะประตู แล้วรอจนกระทั่งได้รับอนุญาตให้เข้าไป

“ดร. ไคท์ สวัสดีค่ะ หนูชื่อมาริน่า ปีเตอร์สัน เป็นอินเทิร์นค่ะ ผู้อำนวยการให้หนูมาช่วยงานคุณหมอ มีอะไรให้หนูช่วยบอกได้เลยนะคะ” เธอกล่าว ดวงตาเปล่งประกายด้วยความชื่นชม

เอเวลินเป็นไอดอลของเธอมาโดยตลอด เธอได้ยินมาว่าเอเวลินเป็นอัจฉริยะที่เรียนข้ามชั้นและจบปริญญาเอกตั้งแต่อายุยี่สิบสอง

หลายคนใฝ่ฝันที่จะมีโอกาสได้ทำงานเคียงข้างกับดาวเด่นในวงการเช่นนี้!

เอเวลินไม่รู้ความคิดของมาริน่าและไม่มีเวลามาคาดเดา “ขอบคุณค่ะ”

“ไม่มีปัญหาเลยค่ะ!” มาริน่าส่ายหน้า ดูมีความสุขกับหน้าที่ของเธออย่างชัดเจน

“ถ้างั้น รบกวนช่วยเอาเวชระเบียนของแผนกประสาทศัลยศาสตร์ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?” เอเวลินถาม ก่อนที่มาริน่าจะทันตอบ เธอก็เสริมว่า “แล้วก็รายละเอียดของคนไข้ที่รอรับการผ่าตัดทางประสาทศัลยศาสตร์ด้วยค่ะ”

เนื่องจากเพิ่งมาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เอเวลินจึงจำเป็นต้องทำความคุ้นเคยกับทุกอย่างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” เอเวลินเงยหน้าจากงานเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ

มาริน่ารู้สึกถึงแรงกดดัน แม้ว่าเอเวลินจะมีท่าทางอ่อนโยน แต่เธอกลับแผ่รังสีความน่าเกรงขามออกมา

“ไม่มีปัญหาเลยค่ะ! หนูจะรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ!” มาริน่ารีบตอบ

เอเวลินพยักหน้าแล้วกลับไปทำงานต่อ ในขณะที่มาริน่าออกไปรวบรวมข้อมูลตามที่ขอ

ตลอดช่วงเช้า เอเวลินจมอยู่กับกองเวชระเบียน และมาริน่าซึ่งเป็นห่วงสุขภาพของเธอก็ได้นำอาหารกลางวันมาให้

เอเวลินกินข้าวไปพลางตรวจเวชระเบียนไปพลาง โดยไม่ทันสังเกตว่ามาริน่ายังคงยืนอยู่ในห้อง

“ดร. ไคท์คะ คุณหมอ... ทำงานแบบนี้ตลอดเลยเหรอคะ?” มาริน่าอดถามไม่ได้

“หมายความว่ายังไงคะ?” เอเวลินเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง

“หนูหมายถึง... ทำงานยุ่งจนลืมกินข้าวกินปลาน่ะค่ะ”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ” เอเวลินยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

“คุณหมอไม่ควรทำแบบนี้นะคะ สุขภาพ...”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ เสียงไซเรนรถพยาบาลก็ดังขัดจังหวะขึ้น

เอเวลินขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เธอ “ไปดูคนไข้หน่อยค่ะ ว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือไหม”

“ได้ค่ะ!”

ภายในห้านาที มาริน่าก็รีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องทำงานของเอเวลิน “ดร. ไคท์คะ ไปกับหนูหน่อยค่ะ คนไข้บาดเจ็บสาหัสมาก”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป
บทก่อนหน้าบทถัดไป