


บท 2
ฉันกำลังมองพวกเขาในภาพสโลว์โมชัน ซึมซับทุกข้อมูลที่ค่อยๆ คลานเข้ามาในสมอง เฟืองเก่าๆ ในหัวที่ขึ้นสนิม ในที่สุดก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเริ่มหมุน แสงไฟริบหรี่กะพริบวาบขึ้น
อ้อ นี่เองสินะที่เขาไม่ตอบข้อความฉัน
ก่อนที่ใครคนใดคนหนึ่งในสองคนนั้นจะทันสังเกตเห็นฉัน ฉันก็ถลันออกจากประตูราวกับลูกบิดมันร้อนลวกมือ ความคลื่นไส้และอาการแสบร้อนกลางอกตีตื้นขึ้นมาจุกที่คอ แผดเผาจนแสบไปหมด
การมาปาร์ตี้นี้กลายเป็นความคิดที่แย่ที่สุดในชีวิตฉันขึ้นมาทันที ฉันเลยเริ่มเดินโซซัดโซเซไปทางบันไดอย่างสิ้นเรี่ยวสิ้นแรง
โอลิเวอร์... เขาเป็นเพื่อนสนิทของฉันมาหลายปี เขารู้เรื่องของฉันมากกว่าคนส่วนใหญ่ บางครั้งก็มากกว่าแม่ฉันเสียอีก
แล้วฉันก็บอกเขา...บอกเขาไปว่าฉันไม่อยากคบกับเขา แม้ตอนที่เขาขอฉันคบ ฉันอยากจะเก็บเพื่อนสนิทคนนี้ไว้ ไม่อยากเสียเขาไป
แต่โอลิเวอร์ก็เปลี่ยนใจฉันได้ เขาบอกว่าความเป็นเพื่อนจะทำให้ความรักของเราแข็งแกร่งขึ้น... ตลกสิ้นดี
ตาร้อนผ่าวขณะที่ฉันเดินลงบันได เมื่อปีใหม่มาถึง ปาร์ตี้ก็กำลังสนุกสุดเหวี่ยง ถ้าก่อนหน้านี้พวกเขาแค่เสียงดังโหวกเหวก ตอนนี้มันคือความโกลาหล ความโกลาหลที่ดูดกลืนฉันเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนดาวเคราะห์น้อยที่ถูกดึงดูดเข้าหาดาวเคราะห์ดวงใหญ่ ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะเบียดเสียดผู้คนออกไปทางประตูได้ ทุกคนเต้นรำโยกย้ายส่ายสะโพก กลิ่นอายของความสุขและเหล้าราคาถูกคละคลุ้งไปทั่ว มันทำให้ฉันอยากจะอาเจียน
ขอให้ฉันหนีไปได้ที...ให้ฉันออกไปที—
และในที่สุดฉันก็ได้สมความปรารถนา...ในแบบที่เลวร้ายที่สุด
ใครบางคนผลักฉันจากด้านหลัง หลังข้อเท้าฉันไปเกี่ยวกับเท้าของอีกคน ไม่มีใครคว้าฉันไว้ทัน ฉันเลยล้มใส่โต๊ะตัวหนึ่ง
ฉันมองไม่เห็นว่าบนนั้นมีอะไร แต่มันคงเต็มไปด้วยอาหาร น้ำหนักตัวฉันคงเป็นฟางเส้นสุดท้าย โต๊ะแอ่นลง แล้วทันใดนั้นทุกอย่างก็ถล่มลงมาทับฉัน
"อ๊าก!"
เศษขนมปังร่วงกราวใส่แขนขณะที่ฉันพยายามป้องหน้า ครีมรสหวานเลี่ยนป้ายเปรอะเส้นผม ฉันรู้สึกถึงอะไรนิ่มๆ เละๆ ที่หลัง
คัพเค้ก
หน้า ผม เสื้อผ้า...ทุกอย่างที่ฉันพยายามแต่งให้ดูดี เปรอะเปื้อนไปด้วยคัพเค้กปีใหม่
หน้าอกฉันเจ็บแปลบไปหมด ฉันพยายามหายใจเข้าทางจมูกสลับกับปากเหมือนที่เคยเห็นในเน็ต แต่มันยากเหลือเกิน จนฉันหายใจหอบและตาพร่ามัวเพราะแสงไฟในงานปาร์ตี้
แต่แล้ว ฉันก็เริ่มเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่รอบตัว ภาพมันพร่าเลือน...เจ็บจัง ฉันกำลังร้องไห้เหรอ?
ฉันสูดหายใจเฮือก พยายามให้ปอดขยายตัว และเงาเหล่านั้นก็กลายเป็นรูปร่างคน
พวกเขาคือคน คือแขกในงานปาร์ตี้ เหมือนดาวเคราะห์ที่มองลงมายังก้อนดินแตกๆ ก้อนหนึ่ง
พวกเขากำลังจ้องมองลงมาที่ฉัน บ้างก็สงสัย บ้างก็หงุดหงิด ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเลย เสียงของพวกเขาดังอื้ออึงอยู่เบื้องหลังเหมือนคลื่นรบกวน
แล้วสายตาฉันก็จับจ้องไปที่คนคู่หนึ่ง คนสองคนที่เดินแหวกฝูงชนเข้ามาดูภาพอุบาทว์ของฉันอย่างสบายอารมณ์
นั่นโอลิเวอร์ โอลิเวอร์ที่รัก แสงนำทางของฉัน
แขนเขาโอบรอบตัวผู้หญิงคนที่อยู่กับเขาบนเตียง ทั้งคู่แต่งตัวลวกๆ เธอกำลังซบไหล่โอลิเวอร์ขณะที่เขาพูด
“ซินเธีย? เธอมาทำอะไรที่นี่?” เขาเหลือบมองรอบๆ ตัวฉัน “พระเจ้า เละเทะชะมัด...”
…นี่คือวิธีที่นายพูดกับแฟนตัวเองตอนที่เธอนอนจมกองเค้กอยู่บนพื้นเหรอ?
ตาร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม เมื่อนิ้วของเขาสอดประสานกับนิ้วของหญิงอื่น
ฉันมันโง่เง่า เป็นตัวตลกดีๆ นี่เอง
ฉันไม่ตอบเขา แต่พยายามจะคลานสี่ขาหนีไป
แต่ไอซิ่งมันลื่นเกินไป รองเท้าฉันลื่นไถลไปบนพื้นจนทรงตัวไม่อยู่ แล้วฉันก็ล้มคะมำไปข้างหน้า ไหล่กระแทกพื้น ยิ่งเปรอะเปื้อนไปด้วยเค้กกับไอซิ่ง และความเจ็บปวด เจ็บปวด เจ็บปวด
ใครบางคนพ่นลมหัวเราะออกมา แล้วคนสองสามคนก็หัวเราะตาม พอฉันเงยหน้าขึ้น กล้องมือถือหลายตัวก็จ้องมาที่ฉันเหมือนดวงตาที่ทิ่มแทง น้ำดีตีขึ้นมาจุกคอ
“เฮ้ พวกนาย—” โอลิเวอร์เริ่มพูด ฉันมองลอดหน้าม้า เห็นเขาพูดกับคนอื่นๆ พยายามจะให้พวกเขาเก็บมือถือ
เขาหยุดเมื่อผู้หญิงคนนั้นดึงเขากลับไปใกล้ๆ จ้องมองฉันเหมือนฉันเป็นแค่ขี้หมา
“นายรู้จักยัยนี่ด้วยเหรอ ออลลี่?”
“อ๋อ รู้สิ” โอลิเวอร์ยิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่สดใส จนตาหยีในแบบที่ฉันไม่ได้เห็นมาสักพักแล้ว “เพื่อนฉันเอง”
…อืม เพื่อนสินะ
เขาพูดแบบนั้นได้สบายเลยใช่ไหมล่ะ ก็เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราคบกันอยู่
เสียงสะอื้นติดค้างในลำคอฉันอย่างไม่ตั้งใจ ทันทีที่รู้สึกถึงมือข้างหนึ่งกำรอบต้นแขน
“โอเค โอเค เอาน่า สนุกกันพอแล้วพวก” โอลิเวอร์พูดอย่างร้อนรน มีบางคนโห่ใส่เขาเล่นๆ “นี่ ให้ฉันไปส่งบ้านนะ โอเคไหม”
นิ้วของเขาจิกลึกลงไปในเนื้อแขนฉัน ความรู้สึกนั้นพาย้อนกลับไปสู่ที่มืดมิด มือฉันชาดิก แต่ทำได้แค่พยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนเมื่อเขาดึงฉันขึ้น ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเขาปฏิบัติต่อฉันอย่างหยาบคายแค่ไหน...หรือบางทีพวกเขาอาจจะไม่สนใจ
ฉันรู้ว่าโอลิเวอร์สนใจสิ เขาสนใจมากเลยล่ะ ก็ฉันอาจจะทำลายเดตวันปีใหม่ของเขาได้เลยนี่นา
เขาไม่อยากให้ฉันบอกความจริงกับทุกคน แต่การทำแบบนั้นมันจะมีประโยชน์อะไรขึ้นมาล่ะ
ทุกคนจะเชื่อใครกัน ระหว่างปีกซ้ายฮอกกี้ดาวรุ่งพุ่งแรงกับเด็กสาวโนเนมที่ทำลายปาร์ตี้
มันเจ็บปวดเหลือเกิน ทุกสิ่งที่ฉันเคยเชื่อเกี่ยวกับเขามันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น
นี่มันเหมือนกับพ่อไม่มีผิดเลยใช่ไหม
โอลิเวอร์...ฉันเคยคิดว่า... แต่เขา...
ฉันไม่รู้ว่าเรามาถึงประตูได้เมื่อไหร่หรืออย่างไร แต่ตัวฉันแข็งทื่อเกินกว่าจะขยับไปไหนได้อีก
รู้สึกเหมือนมีใครบางคนนั่งทับอยู่บนอก มือของพวกเขากำลังบีบคอฉัน ฉันพยายามหอบหายใจ แต่ไม่มีอากาศเข้าไปเลย น้ำลายเอ่อล้นในปาก ไหลซึมออกจากมุมปาก
“...เธอเมาแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งบ้านเอง”
แต่ฉัน... ฉันไม่... ฉันไม่ต้องการ...
ฉันพูดอะไรไม่ออก มัวแต่กำลังจะตายอยู่แล้ว
ประตูหน้าเปิดออก ส่งผลให้ลมเย็นปะทะร่างที่เปรอะเปื้อนไปด้วยไอซิ่งของฉัน ดวงตาพยายามปรับโฟกัส ทั้งที่ยังร้อนผ่าวอยู่ในกะโหลกศีรษะ
ไม่ใช่โอลิเวอร์ที่เป็นคนเปิดประตู แต่เป็นอเล็กซ์ เขาสวมชุดเดียวกับที่ร้านอาหาร กำลังเปิดประตูค้างไว้ระหว่างเดินเข้ามา แต่เขาก็หยุดอยู่ตรงนั้น มองดูพวกเรานิ่ง
“โอ้ เฮ้ อเล็กซ์ เอ่อ ขอโทษด้วยนะที่มันเละเทะไปหน่อย” ฉันได้ยินเสียงโอลิเวอร์ลอดผ่านความอื้ออึงในหู “เดี๋ยวพวกเราจะหลีกทางให้”
แววตาที่อเล็กซ์มองมายังพวกเรามันยากจะบรรยาย สายตาฉันยังพร่ามัวเกินกว่าจะบอกได้
มือของโอลิเวอร์ที่จับแขนฉันอยู่บีบแน่นขึ้น ฉันกลั้นเสียงร้องไห้ เขาเริ่มลากฉันไปยังที่ไหนสักแห่ง...
แต่แล้ว มือใหญ่ข้างหนึ่งก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมืออีกข้างของฉัน เป็นมือที่คุ้นเคย
หูฉันยังคงอื้ออึงขณะที่สายตาเลื่อนลงไปยังจุดที่อเล็กซ์จับตัวฉันไว้
“โอ้ เอ่อ ใช่ ขอโทษทีนะอเล็กซ์ จะว่าอะไรไหมถ้าพวกเรา เอ่อ ขอหลบไปหน่อย”
ดวงตาสีเขียวของเขาทะลุทะลวงเข้ามาในดวงตาฉัน ราวกับสามารถมองผ่านม่านน้ำตาที่สั่นระริกซึ่งฉันกลั้นไว้ได้
“...อันที่จริง ผมก็ค่อนข้างจะติดใจนะ”
โอลิเวอร์ชะงัก “ทำไมล่ะ เรากำลังจะหลีกทางให้นายนะ ไม่ได้ตั้งใจจะลบหลู่อะไร แต่ช่วยปล่อยเธอได้ไหม”
แต่แทนที่จะตอบเขา อเล็กซ์กลับจ้องมองฉันอีกครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยปาก
“นี่ เธออยากกลับบ้านไปกับเขาหรือเปล่า”
...โอ้ เขา... เขากำลังพูดกับฉัน ไม่ได้เมินเฉยฉัน เขามองฉันจริงๆ แม้หลังจากเรื่องแย่ๆ ที่ฉันพูดกับเขาไปก่อนหน้านี้
“ซินเธีย”
น้ำเสียงของโอลิเวอร์ฟังดูตึงเครียด ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังละสายตาจากอเล็กซ์ไม่ได้ในตอนนี้ ร่างกายแข็งทื่อเกินกว่าจะขยับไหว ปอดของฉันแสบร้อน
“ซินเธีย... —นี่ ปล่อยนะ— ซินเธีย ขอเวลาฉันแป๊บเดียวนะ โอเคไหม ฉันอธิบายระหว่างทางกลับบ้านได้”
ดวงตาฉันหนักอึ้งราวกับตะกั่วขณะกลอกมองเขา แต่เพียงชั่วครู่เดียว สายตาฉันก็กลับไปจับจ้องที่อเล็กซ์อีกครั้ง
ใบหน้าเขาปราศจากความห่วงใยฉัน ไม่มีความสำนึกผิด ไม่มีความรู้สึกผิด มีเพียงความอับอาย ขณะที่เขามองกลับไปยังกลุ่มคนที่กำลังดูการเผชิญหน้าของเราที่ประตูหน้า
...เขาจะบอกอะไรฉันกันนะ
จะเป็นเรื่องราวน่าสงสารว่าเขาถูกบังคับให้มานอกใจฉันอย่างนั้นหรือ หรือจะเป็นเรื่องที่ฉันทำอะไรบางอย่างจนผลักไสเขาไป หรือเขาจะโยนความผิดมาให้ฉัน
เขากับพ่อผู้เป็นแค่เจ้าของสเปิร์มของฉันอ่านคู่มือเล่มเดียวกันมาหรือไง ทำเรื่องเลวๆ ร้องไห้อ้อนวอนแล้วบอกว่าจะเปลี่ยนตัวเอง ได้รับการให้อภัยหลังครุ่นคิดอยู่นาน แล้วก็ทำซ้ำอีก
นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการเหรอ
...ฉันพูดไม่ออก หน้าอกฉันมันแน่นเกินไป ความพยายามทั้งหมดของฉันคือการทำให้แน่ใจว่าปอดจะไม่แฟบลง
แทนที่จะทำอย่างนั้น ฉันพลิกมือแล้วกำนิ้วรอบข้อมือของอเล็กซ์ กระตุกเบาๆ อย่างเก้ๆ กังๆ
ได้โปรด
ได้โปรดเถอะ
ฉันขอโทษนะอเล็กซ์ ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่พูดไป
ได้โปรดพาฉันออกไปจากที่นี่ที