บทที่ 9 My New Swag [2] จบตอน
[พาร์ท : สมิง]
ไอ้เหี้ยบุหรี่ บอกแล้วไงว่ากูเจอก่อน กูต้องได้ก่อน
ผมคีบบุหรี่จากเก๊ะรถราคาแพงระยับที่ยืมมาจากบริษัทพ่อมาดูดอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากที่ไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเป็นคนได้ไปส่งอีปูน้อยข้ามหน้าข้ามตาคนที่ทำคะแนนได้สุดโต่งอย่างผม ผมก็ขับตามมันไปแบบห่างๆ อย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน
เวรเอ้ย คนอย่างมันแม่งดูความคิดไม่ค่อยออกซะด้วย หวังว่าคงไม่คิดห่าไรพิเรนทร์ๆ กับยัยนั่นหรอกนะ
แต่ยังไม่ทันระแวงได้จบดี ก็เห็นว่าพวกมันกอดกันกลมจนคนที่มองห่างๆ อย่างผมอดไม่ได้ที่จะเลือดขึ้นหน้าสัสๆ โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน อีกอย่างนมยัยเด็กนั่นมันแนบหลังแม่งไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
ผมซี๊ดบุหรี่แล้วพ่นควันออกทางจมูกตอนที่เลี้ยวตามมันเข้ามาในซอยที่คุ้นเคยดี กวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่จะต้องสบถออกมาเสียงดังลั่นรถคันหรู แล้วตบพวงมาลัยอย่างแรงจนรถสั่น
“ไอ้เวรบุหรี่ ไอ้โสโครก!!”
ถามว่าสบถไปทำไม?
ไม่น่าถาม ก็แม่งอาศัยจังหวะขับเร็วจนยัยเด็กนั่นกลัวไม่กล้ามองไปทางอื่น แล้วพาเธอเลี้ยวเข้าเครือข่ายที่ญาติมันที่เคยติดคุกสร้างม่านรูดไว้แถวนั้นอ่ะดิ
มันจะหลอกอีปูน้อยมาแดกไง ไอ้เหี้ยเอ้ย
ผมเบรกรถดังเอี๊ยดเมื่อเห็นว่ามันหยุดรถในตึกๆ ที่ตรงกับความคิดที่คิดไว้ก่อนหน้านั้น ก่อนที่มันจะคุยอะไรสักอย่างกับยัยปูน้อย จนเด็กนั่นดูลนลานจะลงจากรถ แต่ลงไม่ได้จนมันต้องช้อนตัวอุ้มแบบไม่อาศัยจังหวะได้ตั้งตัว แล้วเดินตรงเข้าไปในม่านรูด
ผมตบพวงมาลัยรถอย่างแรงอีกครั้ง ก่อนที่จะเปิดกระจกรถดีดบุหรี่ทิ้งไปด้านนอก แล้วตั้งท่าจะขับเข้าไปชนรถบิ๊กไบค์แม่งให้ล้มสักหน่อย
แต่ว่า!
“กล้วยแขกมั้ยลูก” มีอีป้าคนนึงถือวิสาสะมาเคาะกระจกรถราคาแพงระยับของผม แล้วยื่นหน้าเข้ามาในจังหวะที่กำลังจะกดปิดกระจกรถ
“ไม่แดก ถอยไปป้า!” ผมตะคอกลั่นรถ แล้วตบแตรใส่อย่างเหี้ยๆ เพราะตอนนี้แม่งโคตรหงุดหงิดไม่ทันใจ แล้วก็เห็นว่าป้าทำหน้าเศร้า
“ไม่รู้จะขายให้ใครแล้ว รถแถวนี้ก็ไม่ค่อยผ่าน มีแต่รถหนุ่มผ่านอยู่คันเดียว”
“แล้วบอกผมทำไม บอกให้ถอยไง!” ตะคอกลั่นรถอีก ก่อนที่จะตวัดสายตาไปมองที่ตึกระฟ้าตรงหน้าอีกไม่กี่เมตร มันพาอีเด็กนั่นเข้าไปแล้ว ถ้าช้ากว่านี้มีหวังโดนคาบไปแดกแน่นอน
“นะ ซื้อป้าสักห่อ...”
“เออๆๆๆ! เอามาให้หมด” แต่สงสัยลูกตื้อจะเป็นสันดานทั่วไปของพวกขายของ ป้าเลยตื้อไม่เลิกแบบนั้น ผมเบื่อขี้หน้าเลยครางรับส่งๆ อย่างรำคาญ แล้วล้วงเงินเท่าที่มีในกระเป๋ากางเกงส่งให้ป้า “สามหมื่นคงพอนะป้า”
“ตายๆ เยอะขนาดนี้ป้าไม่เอาหรอกลูก มันเกินค่ากล้วยแขก”
“งั้นก็เอาไปโปรยทิ้งที่คลองแสนแสบให้ปลาแดกเล่นละกัน ผมไปล่ะ ถอย!!” พูดแล้วก็เหยียบคันเร่งแบบไม่สนโลกจนเกือบเหยียบตีนป้า เหยียบจนมิดแล้วบิดแบบโคตรแรง พุ่งตรงไปที่รถบิ๊กไบค์ที่ไอ้บุหรี่แม่งโคตรจะหวงแหน
กูจะทำให้รู้ว่าการมาแอ้มผู้หญิงก่อนกูมันต้องเจอกับอะไร!!
โครม!!!
[จบพาร์ท : สมิง]
โครม!!!
สะ เสียงอะไรอ่ะ!
หนูกับพี่บุหรี่สะดุ้งพร้อมกับหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงกำยำจะรู้ในทันทีว่าเป็นอะไร เขารีบพุ่งออกจากลิฟต์แล้วตรงเข้าไปที่ห้อง 84G ตามที่พนักงานประชาสัมพันธ์บอกทันที
“ปะ ปล่อยน้องนะ!!”
ส่วนหนู ทันทีที่รู้สึกตัวก็หวีดเสียงแหลมเล็กแล้วทุบหลังเขาอย่างแรง กัดเสื้อเขาดึงไปมาจนเป็นรอยยับ แต่พี่บุหรี่ก็ไม่สะทกสะท้าน เขาแตะคีย์การ์ดที่ล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วพาหนูเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูแล้วล็อกกลอน
แต่ในระหว่างที่เขากำลังจะก้าวเข้าไป หนูใช้จังหวะนั้นกัดคอเขาอย่างแรงจนพี่บุหรี่ตกใจเพราะความเจ็บปวดจนเผลอปล่อยมือออก หนูรีบเด้งตัวกระโดดลงบนพื้น แล้วตั้งท่าจะชกหน้าเขา
หมับ!
หมัดที่ถูกเหวี่ยงออกไปกระทบเข้ากับฝ่ามือ พี่บุหรี่รับหมัดของหนูไว้ได้ในท่าเดียวกันกับสมิง ก่อนที่หนูจะใช้เท้าถีบหน้าท้องของเขา แต่เขาก็จับขาหนูไว้ได้อีก
ทะ ทำยังไงดี ขยับขาไม่ได้เลย
“ดื้อ” เขากระซิบเสียงหนัก ก่อนที่จะพุ่งเข้ามาประชิดตัวแล้วช้อนตัวหนูขึ้นอุ้มอีกครั้ง แต่คราวนี้อุ้มแบบท่าแบกกระสอบแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องนอน
“โอ้ย!”
ทั้งตัวหนูถูกโยนลงเตียง พยายามกระเถิบถอยหนีแต่ไม่ทันมือหนาของเขา พี่บุหรี่ฉกข้อเท้าหนูได้ก็ลากลงมากลางเตียงทันที หนูดิ้นอย่างแรงและพยายามใช้ทั้งมือทั้งเท้าปัดเขาออก แต่ร่างสูงใช้แค่มือเดียวกำรอบข้อมือทั้งสองข้างของหนูเอาไว้ เขาหยุดอาการต่อต้านของหนูได้อย่างรวดเร็วด้วยการขึ้นคร่อมแล้วกดน้ำหนักส่วนล่างมาที่ขาทั้งสองข้างของหนู
ถ้าพูดในฐานะคู่ต่อสู้ ท่านี้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบมาก ขยับส่วนไหนไม่ได้เลย ประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มเข้ามาใกล้ เขาไม่มีสีหน้าเจ็บปวด ไม่มีสีหน้าเหมือนว่าการกักหนูไว้ใต้ร่างเป็นอะไรที่ลำบากเลย
“ขะ... ขอร้อง อย่านะคะ” หนูกลั้นปากให้สั่นจนฟันกระทบกันดังแก่กๆๆ ไม่ไหว รีบขอร้องเขาเท่าที่สมองในตอนนี้จะคิดหาทางรอดจากท่าล่อแหลมแบบนี้ออกมาได้ “กะ การจะมีอะไรกันต้องใช้เวลาดูใจอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี บวกกับคบกันเป็นแฟนอีกสามปีถึงจะทำได้ค่ะ!”
เขาหลุดยิ้มมุมปากออกมาเมื่อหนูตะโกนประโยคนั้นออกไป พี่บุหรี่ใช้มือข้างหนึ่งมากดริมฝีปากหนูเอาไว้ แล้วเอนหน้ามากระซิบใกล้ๆ หูด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่
“ผิดแล้ว”
“...”
“วันเดียว ก็ทำได้”
จะ จริงดิ!
เผลอคล้อยตามไปแบบนั้น จนมารู้สึกอีกทีก็เห็นว่าเขากำลังปลดกระดุมชุดของหนูลงอย่างรวดเร็วเหมือนชำนาญมาก เขาใช้มือข้างเดียวเอง
“อะ น้องหนาว อย่าถอดเลยค่ะ!” หนูที่คิดอะไรไม่ออกแล้ว สั่นสุดๆ เพราะกลัวบวกกับความรู้สึกแปลกๆ ที่ถูกกระตุ้นเมื่อเขาใช้ฟันงับเข้าที่ชายเสื้อของหนูแล้วจะเปิดออกจนเห็นชุดชั้นในลายกระต่ายน้อยที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเดือนก่อนที่ซุปเปอร์มาเก็ตกับแม่ “ยะ อย่าน้า!”
อย่านะ ลายชั้นในแบบนี้มันไม่เซ็กซี่เลยนะคะ! อุแง
แคว่ก!
แต่คงเพราะดิ้นแรงไปด้วย พี่บุหรี่จึงเผลอทำชุดนักศึกษาขาดคาปาก หนูหยุดดีดดิ้นทันทีแล้วเบิกตากว้างช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
เสื้อนักศึกษาตัวนี้ แม่เป็นคนซื้อให้หนู!
“เสื้อน้อง! ฮึก” หนูเผลอน้ำตาคลอเบ้าออกมาเพราะนึกสภาพตัวเองกำลังจะโดนแม่ตีด้วยไม้หวายทันทีที่ไปบอกว่าทำเสื้อนักศึกษาราคาแพงขาด และทันทีที่พี่บุหรี่เห็นน้ำตาของหนู เขาก็ชะงัก แล้วผละออกไป คายส่วนที่ขาดของชายเสื้อลงบนฝ่ามือตัวเอง
หนูตกใจที่เขายอมล่าถอยไปเร็วมาก แล้วค่อยๆ ผุดลุกขึ้นนั่งพับเพียบ เอามือดึงเสื้อมาปกปิดชุดชั้นในลายน่าอายนั่นไว้ แล้วพยายามมองว่าเขาเป็นอะไร
แล้วหนูก็เห็นว่าเขามีสีหน้า... รู้สึกผิด?
“ขอโทษ” เขากระซิบน้ำเสียงโทนต่ำ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นสบตาหนูที่น้ำตาร่วงผล็อยเพราะพอหยัดตัวตรงแล้วองศาการไหลมันง่ายขึ้น
“... คะ?”
“ทำรุนแรงไป” เขากระซิบอีก แล้วทำหน้าหงอยใส่หนู “ขอโทษ”
เอ่อ ที่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นซะหน่อย
แต่จะไปบอกเขาว่าที่ร้องไห้ออกมาเมื่อกี้เพราะกลัวแม่ตี ก็จะดูไม่สมกับเป็นสาวน้อยที่กำลังจะโดนคุกคามไปหน่อยเนอะ
“มะ ไม่เป็นไร...” แต่ทันทีที่หนูทำท่าจะตอบ เขาก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ทันทีแบบไม่รอฟัง แล้วจูบปากหนูเบาๆ แทรกลิ้นเข้ามาตอนที่หนูเผลออ้าปากค้างอย่างตกใจ แล้วรัวลิ้นกับปลายลิ้นเล็กๆ ของหนู จนในใจหล่นวูบไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ
วะ... หวาน
จนเขาผละริมฝีปากออกมา หนูได้แต่เบิกตากว้างจ้องหน้าพี่บุหรี่อย่างช็อคๆ จนเขาที่รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองก็กระตุกยิ้มออกมา ก่อนที่จะเอื้อมมือมาลูบต้นขาของหนูที่กระโปรงพลีทเลิกขึ้นสูงอย่างอ้อยอิ่ง
“ดะ...”
“เปลี่ยนเป็นทำเบาๆ ก็ได้”
เดี๋ยวก่อน!!
“อื้อ” หนูหลับตาปี๋เมื่อร่างสูงโปร่งขยับเข้ามาใกล้ๆ ตอนที่จังหวะตัวเองกำลังจะร้องห้าม พี่บุหรี่กดจูบลงที่ซอกคอของหนูอย่างอ้อยอิ่ง แล้วแลบปลายลิ้นร้อนๆ เลียซอกคอหนูจนรู้สึกสยิวแปลกๆ
ยะ... อยู่ดีๆ ก็ขยับไม่ได้
มือหนาของเขาลูบวนที่ต้นขา รั้งกระโปรงขึ้นสูงอย่างน่าอาย หัวใจหนูแทบหล่นวูบเมื่อพี่บุหรี่กดจูบเบาๆ ที่หลังมือที่กุมชายเสื้อไว้แน่นไม่ยอมเปิดให้เขาเห็นชั้นในลายกระต่ายน้อยเหมือนจะเป็นการประโลมให้คลายมือลง
ตึกตัก
หัวใจหนูเต้นแรงมาก ไม่รู้ทำไมที่ตัวเองไม่มีแรงต่อต้าน อาจเพราะพอเขากดจูบลงมาที่ผิวกาย ก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา พอจะเข้าใจคนที่ไม่เคยสกินชิปกับผู้ชายหน้าตาดีมากๆ มาก่อนมั้ยคะ มันเป็นแบบนั้นเลย หนูในตอนนี้อ่อนปวกเปียกสุดๆ ทั้งที่เขาแค่พรมจูบเบาๆ เท่านั้นเอง
พี่บุหรี่ค่อยๆ ดันหนูลงไปนอนกับเตียง ค่อยๆ กักขังร่างกายหนูอย่างละมุนละม่อม แล้วดูดเม้มต้นคอหนูแรงๆ จนหนูต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บแสบ มือที่กุมชายเสื้อไว้เผลอคลายออกนิดหน่อย
“ยอมเถอะ” เขากระซิบเสียงหนัก หนูเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อจะหลุดร้องเสียงน่าอายออกมา ก่อนที่จะเบิกตาโตเมื่อเขาค่อยๆ บีบข้อมือหนูข้างที่กุมชายเสื้อไว้ออกอย่างง่ายดายเพราะจังหวะนั้นหนูเผลอไผล
ละ แล้วบีบขยำหน้าอกที่พอดีมือเขาอย่างหนักหน่วง
“อื้อ!” หนูทำท่าจะร้องอะไรออกไปดังๆ เพื่อที่จะต่อต้าน แต่กลับถูกกดริมฝีปากลงมาอย่างแนบแน่น พี่บุหรี่ดูดริมฝีปากของหนูดังจ๊วบจ๊าบ เป็นเสียงน่าอายเมื่อเขาทั้งจูบปากอย่างดูดดื่ม ทั้งขยำหน้าอกหนูด้วยมือหนาแค่เพียงมือเดียว
จนเขาผละริมฝีปากหยักลึกออกมา หนูหอบแฮ่กโกยออกซิเจนเข้าปอด รู้สึกเหมือนตัวเองถูกมอมเมา รู้สึกเหมือนมีอะไรหวานๆ อยู่ในริมฝีปากของเขาแล้วถูกส่งต่อมาโดยปลายลิ้น
หนูรู้สึกบ้าคลั่ง รู้สึกเหมือนร้อนผ่าวไปทั้งตัวจนต้องเผลอแอ่นหน้าอกขึ้นเมื่อเขากดจูบลงมาที่เนินเนื้อหน้าอก หัวใจที่อยู่ใกล้ใบหน้าของเขาเต้นตึกตักจนเจ็บหน้าอกไปหมด
พี่บุหรี่กดจูบมาจนถึงใจกลางหน้าอก หนูสั่นสะท้านเมื่อยิ่งแอ่นตัว ร่างสูงก็สอดมือเข้ามาใต้แผ่นหลังได้มากขึ้น แล้วหนูก็ไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นการเปิดเผยให้เขาได้ปลดตะขอบราง่ายขึ้น
“อ๊ะ อย่านะคะ” เสียงที่หนูเปล่งออกไปทั้งหวานและหวามไหว แรงห้ามแทบไม่มี แถมดูเหมือนจะคล้อยตามเขาด้วยซ้ำ
แล้วเหมือนร่างสูงจะรู้ เขาช้อนสายตาคมกริบขึ้นมามอง แล้วกดปลายนิ้วลงมาบนตะขออย่างอ้อยอิ่ง
มะ... ไม่นะ
พลั่ก!!
“ไอ้เหี้ยบุหรี่!!”
ตะ... แต่ทว่า!
ยังไม่ทันที่พี่บุหรี่จะปลดปลายตะขอบราออกจากกันจนหน้าอกหนูสล้างออกมา ประตูห้องที่อยู่ห่างจากเตียงนอนไม่ไกลนักก็ถูกกระแทกเปิดออกด้วยใครบางคนที่มีน้ำเสียงที่คุ้นเคย หนูพร่ามัวจนมองอะไรไม่เห็น อาจเพราะเหมือนได้กลืนอะไรลงไปผ่านปากพี่บุหรี่
มะ... มันคืออะไร ทำไมตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเลย
“มาทำไม” หนูได้ยินเสียงพี่บุหรี่ดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ผละออกไปจากร่างกายของหนู ในขณะที่หนูรู้สึกได้ว่าผู้ชายอีกคนที่เข้ามาจะมีท่าทางฉุนเฉียวตอนที่เข้าปะทะตัวร่างสูง
“มึงคิดจะทำอะไรอีปูน้อยข้ามหน้าข้ามตากูวะ!!”
หนูกระพริบตาปริบๆ เห็นว่าคนที่เข้ามาใหม่คือสมิง เขากำลังกระชากคอเสื้อของพี่บุหรี่เขย่าไปมาอย่างหงุดหงิด
“ทำไม เป็นห่วง?” พี่บุหรี่เอียงคอถามอย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วสมิงก็ปฏิเสธแทบจะทันที
“ไม่!”
“งั้นเป็นอะไร”
“มึงควรจะชวนกู อีกอย่าง กูบอกแล้วไงว่ากูขอก่อน หลังจากนั้นค่อยเป็นตาของมึง เคนะไอ้เวร?” หนูเผยอปากค้างน้อยๆ ทันทีที่ได้ยิน
ที่โมโหฟาดงวงฟาดงานัก ก็เพราะแบบนี้เองเหรอ
ละ... เลวจัง แต่รู้สึกร้อนยังไงไม่รู้
“ไม่” พี่บุหรี่สวนกลับไปทันที “คนนี้ถูกใจ กูต้องได้ก่อน”
“มึงชุบมือเปิบไอ้เวรบุหรี่ บัตรคิวอ่ะหัดซื้อบ้างไอ้สัส”
“เหอะ” ร่างสูงที่ยังคงทำสีหน้าตายสนิทอยู่เช่นเดิมแค่นหัวเราะออกมาอย่างสังเวชเพื่อนรักของเขา พร้อมกับเลิกคิ้ว “แล้วไง?”
“ไอ้...!!”
“พะ... พอได้แล้ว!” จนหนูที่ร้อนรุ่มมากๆ จนทนฟังพวกเขาสองคนเถียงกันต่อไม่ไหวอีกต่อไปต้องตะคอกขึ้นมาเสียงดังลั่นห้อง ทั้งพี่บุหรี่และสมิงชะงัก เขาหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วหันมามองหนูที่หยัดตัวลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง แถมยังหอบหายใจอย่างหื่นกระหาย “มะ... ไม่ต้องแย่งกันค่ะ”
ทันทีที่พูดจบคำนั้น หนูก็ค่อยๆ ถอดเสื้อนักศึกษาที่หลุดลุ่ยออกจากตัว ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลบนเตียงที่ติดสปริง พร้อมกับพยายามถอดกระโปรงพลีทและซับในออกจากตัว จนทั้งตัวมีแค่ชั้นในลายกระต่ายน้อยสีชมพู
หนูเห็นว่าพวกเขาทั้งคู่จ้องมองเรือนร่างของหนูไม่วางตา มองทุกอิริยาบถจนหนูมารู้สึกตัวอีกที ตัวเองก็อ้าแขนออกไปเหมือนรอต้อนรับ
พร้อมกับเอ่ยคำว่า
“ไม่ต้องแย่ง... ก็ได้เอน้องกันทุกคนอยู่แล้วค่ะ”
[พาร์ท : สมิง]
“ไม่ต้องแย่ง... ก็ได้เอาน้องกันทุกคนอยู่แล้วค่ะ”
ผมเบิกตากว้าง เมื่อทันทีที่พุ่งเข้าชนรถบิ๊กไบค์คันงามของไอ้บุหรี่จนยับไปหน่อย รวมทั้งรถของพ่อผมที่หน้ากระโปรงรถบุบ ชนิดที่ว่าค่าซ่อมน่าจะเฉียดแสน
แต่พอดีว่าผมมันลูก สส. ที่มีหน้ามีตา แค่ไม่กี่แสนพ่อผมทำงานวันเดียวก็ได้แล้ว เลยเดินผิวปากอย่างสบายอารมณ์เข้าไปหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ที่พนักงานมีท่าทางแตกตื่น
ผมฉีกยิ้ม พร้อมกับวางกระดาษเป็นปึกลงบนหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อบอกทางสายตาว่าช่วงเวลาทั้งหมดของไอ้บุหรี่ในตอนนี้ ผมจะซื้อมันมาด้วยกระดาษก้อนนี้
กระดาษง่อยๆ ที่เรียกกันว่า... เงินสด
ทันทีที่ฟาดเงินใส่หน้าพนักงานที่คิดว่าจะจงรักภักดีไอ้บุหรี่ยิงชีวิต มันรีบบอกเลขที่ห้องด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ผมจึงกรีดยิ้มร่า แล้วเดินล้วงกระเป๋ากระดิกตีนขึ้นลิฟต์ไป
จะให้มันเล้าโลมอีเด็กนั่นอีกสักแปป หลังจากนั้นอย่างหวังจะได้มีโอกาส
จนถึงหน้าห้อง ผมสูดลมหายใจหนัก แล้วถีบประตูเข้าไป เพราะเอาจริงๆ ก็เดาอารมณ์ตัวเองในตอนนี้ไม่ได้ว่ามันโกรธจัด หรือเป็นห่าอะไร
แต่เท่าที่รู้ก็คือ
ผมคิดถูกแล้วที่เข้ามาในจังหวะที่ไอ้บุหรี่ส่ง ‘ไอ้นั่น’ เข้าปากเธออย่างพอดิบพอดี
ภาพตรงหน้าช่างหฤหรรษ์สุดๆ ยัยเด็กปูน้อยที่ดูจะไม่มีประสบการณ์ตั้งแต่แรกผุดลุกขึ้นมาแล้วถอดเสื้อนักศึกษาออกด้วยสีหน้ายั่วยวนแบบสุดๆ ก่อนที่จะหยัดกายขึ้นยืนเต็มตัวแล้วถอดกระโปรงออกจนทั้งตัวเหลือแค่ชั้นในที่สดใหม่
ผมเผลอนึกทึ่งในความสามารถของสิ่งนั้น แต่ที่น่าทึ่งกว่าคือกล้ามหน้าท้องที่เรียงสวยของเธอ จนต้องเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่ต้องแย่ง... ก็ได้กินน้องกันทุกคนอยู่แล้วค่ะ”
ไอ้คำพูดแบบนั้นน่ะ
กระตุกอารมณ์กำหนัดได้ดีจนน่าเหลือเชื่อเลยว่ะ
