บทที่ 10 ตอนที่ 10

นี่มันใหญ่กว่าท่อนแขนของหล่อนจริงๆ ด้วย แล้วแบบนี้...คืนนี้หล่อนจะมีชีวิตรอดไหม

หล่อนรีบเงยหน้าขึ้นมองคนที่อะไรก็ใหญ่โตไปหมดอย่างหวาดหวั่น

“เคย...เคยมีผู้หญิงของคุณได้รับ...เอ่อ...ฉันหมายถึง ได้รับบาดเจ็บบ้างไหมคะ”

“บาดเจ็บ?”

“ใช่ค่ะ ก็แบบว่า...หลังจากทำอะไรกันเสร็จแล้วต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อไปเย็บอะไรแบบนี้น่ะค่ะ”

เขาหัวเราะก๊ากเลยทีเดียว ใบหน้าหล่อจัดแหงนเงยไปด้านหลัง และเปล่งเสียงขบขันออกมาอย่างไม่สนใจใครอีกเลย หล่อนนั่งนิ่งงงกับเสียงหัวเราะของเขา

“ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ”

“ไม่ผิดหรอก...”

ลีโอนาโดพยายามที่จะหยุดหัวเราะ

“แต่มันเกินจริงไปน่ะ”

แล้วเขาก็ยื่นมือมาจับบ่าทั้งสองข้างของหล่อนเอาไว้ “ผู้หญิงกับผู้ชายถูกสร้างมาเพื่อให้ความสุขแก่กันและกัน ดังนั้นไม่มีทางที่เธอจะฉีกขาดไปได้หรอก อิสซาเบล”

“แต่ว่าฉัน...”

“นอกจากเธอจะเป็นสาวบริสุทธิ์เท่านั้นแหละ ถึงจะได้รับบาดเจ็บน่ะ”

หญิงสาวเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ หล่อนพยายามขบคิด หรือว่าหล่อนควรจะบอกเขาไปว่าตัวเองยังไม่เค้ยไม่เคย

“คุณ...ฉันมีเรื่องจะบอก”

“ว่ามาสิ”

คนที่ยืนรูดท่อนชายไปมาอยู่ตรงหน้าเอียงคอตอบ “แต่เร็วหน่อยนะ ฉันกำลังจะเริ่มเอาเธอแล้ว”

ไอ้หื่น!

หล่อนด่าผู้ชายตรงหน้าในใจ

“ฉันยังไม่เคยเรื่องอย่างว่า”

แทนที่เขาจะเชื่อกลับหัวเราะร่วน “ตกลงว่าเธอจะแสดงละครต่อจนถึงตอนจบของเซ็กซ์เลยสินะ”

“ฉันไม่ได้แสดงละครนะ นี่มันคือเรื่องจริง”

“ถ้าฉันบอกว่าเชื่อ แล้วฉันจะได้เอาเธอทันทีใช่ไหม”

ดูสิ ดูอีตาบ้านี่มันพูดสิ หล่อนพูดเรื่องจริงก็มาทำเป็นเรื่องล้อเล่นไปได้

“นี่ฉันพูดจริงๆ นะ”

“โอเค เธอเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง และไม่เคยทำอาชีพโสเภณีมาก่อน พอใจแล้วนะ”

เขาทำหน้าเบื่อหน่าย

หล่อนพยักหน้ารับ ภาวนาให้เขาเข้าใจหล่อนอย่างแท้จริง

“ใช่ค่ะ”

“อืม ฉันรับทราบ”

“งั้นคุณต้อง...ถนอมฉันหน่อยได้ไหมคะ”

หล่อนวิงวอน หน้าตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“คือฉัน...ไม่อยากไปให้หมอเย็บน่ะค่ะ ฉันกลัวเข็ม และก็กลัวเจ็บด้วย”

“เอาเป็นว่าฉันจะทะนุถนอมเธอให้มากกว่าผู้หญิงคนอื่นก็แล้วกัน พอใจแล้วนะ”

“เอ่อ ค่ะ”

“งั้นก็มาเริ่มกันเลย ฉันแข็งรอมานานแล้ว”

คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย

พิมนรารีบหันไปมองนาฬิกาที่ผนังห้อง เมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยไปสี่ทุ่มกว่าแล้ว หล่อนจึงรู้ว่ายื้อเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว

“เริ่ม...เริ่มเลยค่ะ”

“เดี๋ยวๆ ๆ คุณ...” จู่ๆ หล่อนก็ผลักไสเขา

คนที่กำลังจะก้มหน้าลงมาจูบชะงัก และถามอย่างขัดใจระคนเอือมระอา

“อะไรอีกล่ะแม่คุณ นี่ฉันตั้งท่าจะจูบเธอมาหกรอบแล้วนะ แต่เธอก็ขัดซะทุกรอบเชียว”

หล่อนยิ้มหน้าเจื่อน รู้สึกสั่นเทาไปทั้งตัว

“คือว่าฉัน...ฉัน...”

“ฉันอะไรอีกล่ะ”

หน้าตาหล่อเหลาถูกความเบื่อหน่ายครอบงำจนมืดมิด

“ฉันปวดฉี่”

หล่อนได้ยินเขาสบถด้วยภาษาที่ฟังไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะพลิกร่างออกไปจากตัวของหล่อน

“รีบไป...รีบไปฉี่ซะ”

กรามแกร่งคมเข้มขบกันแน่น

“และสาบานเลยว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะคล้อยตามละครงี่เง่าของเธอ อิสซาเบล”

หล่อนเบิกตากว้าง รีบกระวีกระวาดลงจากเตียง และเผ่นเข้าห้องน้ำไปทั้งๆ ที่เปลือยเปล่าทั้งตัว

“โอ๊ย...จะทำยังไงดี กลัว...กลัว...”

หล่อนเดินกลับไปกลับมาในห้องน้ำนานหลายนาที จนคนที่รออยู่บนเตียงตะโกนเรียก

“ต้องให้ฉันเข้าไปตามไหม แม่คุณ”

“เอ่อ...ไม่ต้องค่ะ”

หล่อนรีบตอบ แต่ยังไม่ยอมก้าวออกไป พลางมองเนื้อตัวเปลือยเปล่าของตัวเองผ่านกระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้า พลันความอดสูก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

“ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้นะ ทำไม…”

หัวสมองกำลังหมุนติ้วๆ แต่เสียงห้วนกระด้างดังแทรกเข้ามาเสียก่อน หล่อนถอนหายใจพรืดใหญ่

“เพื่อรักษาชีวิต จำต้องสละพรหมจรรย์”

“กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”

ในที่สุดก็จำต้องก้าวออกมาจากห้องน้ำ สายตาคมกริบที่มองมาทำให้หล่อนต้องยกมือขึ้นกอดอกเพื่อปิดบังความอวบอัดของเต้างามเอาไว้ โดยที่ส่วนล่างไม่อาจปกปิดได้ หล่อนจำต้องรีบก้าวเร็วๆ เพื่อจะได้ขึ้นไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม

“ฉัน...ฉันขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ”

หล่อนขึ้นมาซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว และมองเขาอย่างวิงวอน

“อะไรของเธออีกล่ะ” เขาคำรามใส่หน้าอย่างโมโห “ตั้งแต่มีเซ็กซ์มา เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ทำให้ฉันเบื่อหน่ายจนจะหดหมดแล้ว  อิสซาเบล”

หล่อนได้ยินคำพูดของเขาแล้วก็อดหรี่ตามองที่ท่อนชายของคนพูดไม่ได้

“ก็ไม่เห็นหดเลยนี่คะ”

“นี่เธอ...เลิกทำเป็นตลกร้ายได้แล้ว จะขออะไรก็รีบขอมา ฉันจะได้เอาเธอให้สิ้นเรื่องสิ้นราวสักที”

ดูตาบ้านี่พูดสิ ทำราวกับว่าเรื่องเซ็กซ์มันเป็นเรื่องง่ายๆ ปกติธรรมดาอย่างนั้นแหละ

“ปิด...ปิดไฟได้ไหมคะ”

เขาส่ายหน้าทันที “ไม่ปิด ฉันต้องมองนมเธอ มองก้นเธอ และมอง...” สายตาคมกริบหรี่แคบต่ำลงมามองที่หน้าขาของหล่อน และถึงแม้จะมีผ้าห่มคลุมอยู่ แต่หล่อนกลับร้อนฉ่าขึ้นมาจนรู้สึกชุ่มฉ่ำ หล่อนรีบคว้าหมอนใบใหญ่มาปิดทับอีกชั้น

“อย่ามามองแบบนี้นะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป