บทที่ 9 ตอนที่ 9

“ไอ้ความโกรธในดวงตาของเธอ...มันก็คือการแสดงใช่ไหม อิสซาเบล”

หล่อนยืนช็อกนิ่งงัน ก่อนจะรู้สึกอ่อนยวบยาบไปทั้งจิตวิญญาณ หล่อนต้องนอนกับผู้ชายคนนี้

“ชะ ใช่...”

ลีโอนาโดเอียงคอเล็กน้อย พิศมองหญิงสาวในอ้อมแขน ก่อนจะผลักหล่อนออกห่าง และจ้องมองเต็มๆ ตา

“อย่าขยับ...ยืนให้ฉันมอง”

เขาสั่งเสียงแหบพร่า แปร่งไปจากทุกประโยคที่เคยออกจากปากของเขา

พิมนรายืนนิ่งไม่กล้าขยับ ยกมือขึ้นกอดอกเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่าผ้าขนหนูจะร่วงหลุด

“ขาของเธอสวยนะ”

เขาเอ่ยชม สายตาอ้อยอิ่งอยู่ที่เรียวขาของหล่อน

“คู่นอนของฉันคนหนึ่งมีเรียวขาแบบนี้ และหล่อนก็เป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยยามอยู่บนตัวของฉัน”

“คุณ...คุณพูดอะไร”

“เวลามีเซ็กซ์ ฉันชอบใช้หลายท่า และท่าโปรดที่ฉันต้องให้คู่นอนทำก็คือขี่ม้า...”

“ขี่ม้า?”

นัยน์ตาของลีโอนาโดเป็นประกาย รู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่เห็นเหลือเกิน วินาทีแรกที่เขาเห็นหล่อนไม่ได้ต้องตาสักเท่าไหร่ แต่พอได้มองนานๆ พิศมองอย่างละเอียดลออ ผู้หญิงคนนี้กลับตรึงใจอย่างแปลกประหลาด หล่อนมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ถูกใจเขาเป็นที่สุด

นางเอก นางงาม หรือผู้หญิงที่เคยขึ้นเตียงด้วยจางหายไปจากสมองทันที ยามนี้ภาพในหัวมีแค่ภาพของเขากับหล่อนเพียงเท่านั้น ให้ตายเถอะ เขาอยากจะกระชากผ้าผืนนี้ออก ดันร่างของหล่อนให้ชิดผนัง จากนั้นก็จ้วงโจนเข้าใส่ซอกหลืบแสนหวานของหล่อน ฝังลึกอยู่ในนั้นให้คลายกระหายอยาก

“ใช่ ขี่ม้า...”

“คุณจะให้ฉันไปขี่ม้าที่ไหน”

“นี่ก็แสดงละครอีกใช่ไหม”

เขาถามกลับมาและหล่อนก็ยังไม่เข้าใจคำว่าขี่ม้าของเขาอยู่ดี แต่ก็จำต้องหาทางรอด

“ชะ...ใช่...ฉันแสดงละคร”

หล่อนเสหลบสายตาคมกริบที่มองมาอย่างหื่นกระหายของผู้ชายตรงหน้า ความตึงเครียดแล่นพล่านไปทุกอณู

“เธอแปลกไปจากคู่นอนคนอื่นของฉันนะอิสซาเบล เธอดูซื่อๆ ในบางเวลา แต่บางครั้งก็ลึกลับจนฉันรู้สึกแคลงใจ”

แคลงใจ? ตาบ้านี่แคลงใจอะไรหล่อนกันนะ ไม่ได้แล้ว หล่อนต้องรีบ ไม่อย่างนั้นคืนนี้อาจจะพลาด แล้วชะตาของหล่อนก็จะต้องขาดตลอดกาล

“ลึกลงลึกลับอะไรกันคุณ ฉันก็แค่อีตัวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ” หล่อนเสหลบสายตา

“เอาเป็นว่าคุณอาบน้ำไปนะ เดี๋ยวฉันไปนอนรอบนเตียง”

“ไม่เอา” เขาส่ายหน้าเดินเข้ามาหา “ต้องอาบด้วยกัน”

“แต่ฉัน...ฉันอยากมีเซ็กซ์บนเตียง”

“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าจะมีเซ็กซ์ในห้องน้ำสักหน่อย ก็แค่นัวเนียกันใต้ฝักบัว จากนั้นค่อยไปบรรเลงของจริงกันบนเตียง”

คำพูดของเขาทำให้หล่อนช็อกค้าง หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา และเขาก็ยิ้มใส่ดวงตาของหล่อน ร่างกายของหล่อนอุ่นวาบขึ้นมาในทันที ยอดอกชูชันอยู่ใต้ผ้าขนหนูจนน่าละอาย

“คุณ...อุ๊ย...ว้ายยย...”

หล่อนร้องตกใจเมื่อเขายื่นมือมากระชากผ้าขนหนูติดมือออกไป ตอนนี้หล่อนเหลือแต่ตัวเปล่าเปลือย

หล่อนช็อก พยายามปกปิดตัวเองด้วยการหันหลังให้เขา แต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงหายใจแรงๆ จากเขาได้อย่างชัดเจน

“คุณ...ไม่ควรทำกับฉันแบบนี้นะ”

ลีโอนาโดชะงักงัน จ้องมองบั้นท้ายอวบงอนงามของสตรีที่ยืนหันหลังให้ตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง เขาไม่เคยเห็นบั้นท้ายของผู้หญิงคนไหนสวยเท่านี้มาก่อน มันงอนงามจนสามารถร่วมเพศได้โดยไม่ต้องกดให้หล่อนก้มลงเลยสักนิดเดียว

บ้าชิบ เจ้าหนูของเขาแข็งชันและต้องการจะออกมาจากกางเกงโดยเร็วที่สุด มือใหญ่ปลดเข็มขัด รูดซิป และสลัดกางเกงขายาวออกไปอย่างรีบร้อน บ๊อกเซอร์ตัวจิ๋วตามติดไปอีกตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน

“ฉันควรทำมากกว่านี้ต่างหาก”

เขาเดินเข้ามาหยุดด้านหลังแล้ว หล่อนรับรู้ได้ถึงไอร้อนจากเรือนกายทรงพลัง

“อ๊ะ...อื้อ...อย่าเพิ่งสิคะ”

“ทำไมต้องรอด้วย ในเมื่อฉัน...อยากเอาเธอจะแย่อยู่แล้ว”

ตอนนี้หล่อนรู้แล้วล่ะว่าเขาเปลือยเปล่าไม่ต่างจากตัวเองเลยสักนิด แถมไอ้บางอย่างที่แข็งราวกับท่อนเหล็กยังดุนดันอยู่ที่บั้นท้ายด้วยกิริยาคุกคาม

หล่อนสั่นเทาไปทั้งตัว ตอนนี้ตัวเองเปราะบางจนไม่อาจควบคุมแม้แต่ลมหายใจเอาไว้ได้ หล่อนสั่นระริกมากขึ้นเมื่อมือใหญ่ตวัดโอบมาสวมกอด หล่อนรีบกอดอกแน่นทันที เพื่อไม่ให้แขนกำยำสัมผัสกับทรวงอกใหญ่ของตัวเอง

“เรา...ต้องอาบน้ำก่อน” หล่อนต่อรองตะกุกตะกัก

เขาหัวเราะเบาๆ กระซิบชิดใบหูของหล่อน “ฉันรอไม่ไหวแล้ว ไม่เห็นหรือว่าฉันแข็งไปหมดแล้ว อิสซาเบล” และเขาก็ถูไถท่อนเหล็กร้อนจัดซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจกับร่างกายของหล่อน

“อ๊ะ...อย่า...”

“คำว่าอย่าของเธอ กระตุ้นความใคร่ของฉันให้ตื่นตัวเหลือเกิน       อิสซาเบล ตอนนี้ฉันทนรอไม่ได้แล้วแม้แต่วินาทีเดียว”

“ว้ายยยย...”

หล่อนร้องอุทาน ตัวลอยขึ้นสูงเมื่อถูกเขาช้อนร่างขึ้น แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ

“แต่...ตัวฉันเหม็น คุณจะหมดอารมณ์เสียเปล่าๆ”

หล่อนรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างทันทีเมื่อเขาวางร่างของหล่อนลงบนเตียง มองเขาที่หน้าตาแดงก่ำ แดงไปจนถึงใบหูเลยทีเดียว

ลีโอนาโดที่ยืนแก้ผ้าเป็นชีเปลือยอยู่หัวเราะร่วน มองผู้หญิงที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่มทำตัวเป็นมัมมี่อย่างขบขัน

“บางทีการแสดงละครมากเกินไปมันก็น่าเบื่อนะ อิสซาเบล”

“เอ่อ...”

เขาขยับมาหยุดใกล้มากๆ จนอาวุธคู่กายของเขาแทบจะชนกับร่างของหล่อนอยู่แล้ว หล่อนรีบหันหน้าหนี แต่เขาจับปลายคางของหล่อนเอาไว้ บังคับให้หันมาจ้องมองท่อนชายอย่างเผด็จการ

“มองดูมันสิ”

“คนบ้า ทำไมจะต้องบังคับให้มองด้วยล่ะ” หล่อนหลับตาปี๋

“ก็เธอจะได้รู้ไง ว่าคำพูดของฉันในรถไม่ได้โอ้อวดเกินจริง”

ในที่สุดหล่อนก็จำใจต้องลืมตาขึ้น และก็จ้องมองมัน

“โอ้ แม่เจ้า!”

หล่อนอุทานตกใจ มองท่อนชายที่กำลังตื่นตัวสลับกับท่อนแขนของตัวเอง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป