บทที่ 8 หายไป

สิบนาทีต่อมา…

“ฉันชนะ”

บัดซบ…

“เธอเป็นแฟนมันจริงเหรอวะ ฮึ น่าสนุกจริง ๆ”

ไม่แปลกที่เสือพยัคฆ์จะถามแบบนั้น เพราะฉันเองก็ยังตอบไม่ได้ว่าตกลงแล้วฉันเป็นแฟนกับอัคคีจริง ๆ หรือเปล่า แต่ฉันก็ไม่โทษอัคคีหรอก การที่เขาไม่มาไม่ได้แปลว่าเขาไม่ใส่ใจฉัน เขาอาจจะติดพันบางอย่างอยู่ก็ได้

“พอใจแล้วใช่ไหม ขอโทรศัพท์คืนด้วย” ฉันแบมือตรงหน้า เสือพยัคฆ์หลุบตามอง ริมฝีปากหนายกยิ้มชั่วร้าย เห็นแล้วน่าต่อยชะมัด

“เธอแพ้แล้ว เธอต้องไปกับฉัน”

“อย่ามาบ้าไปหน่อยเลย ถ้าหิวนักก็ไปหาที่อื่น ฉันไม่ใช่เหยื่อโง่ ๆ ของนายหรอกนะ อย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะสนใจนายสิ”

นับเป็นประโยคแรกที่ฉันพูดกับเขาเยอะที่สุด และกระตุ้นเขาได้ดีที่สุดด้วย ใบหน้าหล่อเหลาสาดประกายความอันตรายออกมา ฉันถอยหลังหนึ่งก้าว

เอาล่ะ… ฉันล้ำเส้นเสือพยัคฆ์เข้าแล้ว

“ก็ถูก ถ้าเธอเป็นเหยื่อโง่ ๆ เหมือนที่ผ่านมาฉันคงหมดสนุกแย่” เขายื่นจอโทรศัพท์มาตรงหน้าฉันเพื่อปลดล็อคหน้าจอ รีบยกมือคว้าแต่ช้าเกินไป เสือพยัคฆ์เบี่ยงตัวหนี ปลายนิ้วรัวกดบางอย่างบนนั้น สักพักเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น ฉันกำลังจะอ้าปากด่า แต่ต้องชะงักแล้วตวัดมือรับโทรศัพท์ตัวเองที่ถูกโยนคืนมา “อย่าคิดจะบล็อคเบอร์ฉันเชียวล่ะ ถือว่าเตือนแล้วนะ”

กดดูหน้าจอพบว่าเขาเมมชื่อตัวเองไว้เสร็จสรรพ กัดฟันกำโทรศัพท์แน่น อยากจะปามันทิ้งแล้วเหยียบให้แตกคารองเท้าไปเลย

“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก เลิกคิดไปได้เลย”

ฉันขี้เกียจจะเสวนากับคนหน้าหนาอย่างเขาต่อ หมุนตัวเดินกลับมาที่รถ เปิดประตูเข้ามานั่ง มองผ่านกระจกออกไปเห็นร่างสูงแสนน่ารังเกียจยืนพิงกระโปรงรถสูบบุหรี่อย่างไม่ยี่หระต่อสิ่งใด ฉันขับรถพุ่งชนเขาได้ไหม? อ้างว่าคันเร่งค้างหรืออะไรก็ได้ จะได้จบ ๆ เรื่องกันไปเสียที!

ครืด ๆ

โทรศัพท์ในมือสั่นเบา ๆ ละสายตาจากร่างสูงที่กำลังกดโทรศัพท์เพื่อเปิดข้อความอ่าน

.

.

Sueapayak : ชื่อสายขิมงั้นสินะ

.

.

เขารู้ชื่อฉันจากโปรไฟล์ไลน์จนได้ แต่รู้แล้วยังไง เขาไม่มีทางจำฉันได้อยู่แล้ว

ครืด ๆ

.

.

Sueapayak : พรุ่งนี้เจอกันที่นี่สามทุ่ม

.

.

เหอะ คิดจะสั่งฉันเหรอ?

ฉันโยนโทรศัพท์ลงบนเบาะข้างคนขับแล้วสตาร์ทรถขับผ่านหน้าเขาออกมาด้วยความเร็ว ไม่สนใจเสียงสั่นเตือนข้อความเข้าที่ตามมาอีกสองสามครั้ง

เมื่อกลับมาถึงบ้านสิ่งแรกที่ทำคือตรงมาที่ห้องของสายซอ ภายในห้องว่างเปล่า ไร้การมีอยู่ของเจ้าของห้อง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาน้องสาว ทว่าปลายสายกลับเป็นระบบฝากข้อความ ฉันเริ่มร้อนใจแล้ว

“แกหายไปไหนของแกเนี่ยสายซอ”

ฉันนั่งรอสายซอที่ห้องเธอทั้งคืนจนเช้า ไร้วี่แววว่าเจ้าของห้องจะกลับ ภายในใจทั้งห่วงทั้งกังวล ปกติสายซอไม่เคยทำตัวเหลวไหล น้องไม่เคยไปค้างที่ไหน ต่อให้เมายังไงก็ต้องโทรตามให้ฉันไปรับทุกที ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า

.

.

.

ก๊อก ๆ ๆ

ฉันขยับตัวลุกมาเปิดประตูห้อง คนมาเคาะคือสายซึง น้องชายคนเล็กของบ้าน เขาหลุบตามองเสื้อผ้าฉันที่ยังอยู่ในชุดเมื่อคืนด้วยสายตาเฉยชา ก่อนจะเหลือบมองเข้าไปในห้อง

“ม๊าให้มาตามไปกินข้าว”

“อือ รู้แล้ว เดี๋ยวลงไป” ฉันตอบรับส่ง ๆ ทำท่าจะปิดประตูใส่ แต่ถูกมือหนาคว้าจับเอาไว้ “มีอะไรอีก?”

“เจ้ซอตื่นหรือยัง แล้วทำไมเจ้มาอยู่ห้องนี้แต่เช้า?”

ปกติสายซึงไม่ค่อยสนใจพวกฉันสักเท่าไหร่ ไม่สิต้องบอกว่าเขาไม่ค่อยสุงสิงกับพวกฉันมากกว่า อาจจะด้วยความต่างทางเพศ แล้วยังมีเรื่องรักลูกชายมากกว่าลูกสาวนั่นอีก เราจึงไม่ค่อยสนิทกันเท่าที่ควร

“เมื่อคืนเจ้นอนที่นี่น่ะ” ฉันตอบตามความจริง สายซึงทำหน้าครุ่นคิดบางอย่าง เหมือนมีอะไรจะพูดแต่ไม่พูด สุดท้ายเขาหมุนตัวจะเดินไป กลับเป็นฉันที่เรียกรั้งเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน”

“…” สายซึงหันกลับมามองด้วยสายตาเฉยชาเหมือนเคย

“วันก่อนแกไปมั่วสุมกับไอ้พวกนั้นมาอีกแล้วใช่ไหม?” ฉันถามถึงพวกเพื่อนไม่ดีที่สายซึงกำลังคบอยู่ ตอนแรกคิดว่าหลังจากเขาเข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะเลิกคบกับคนพวกนั้น แต่วันก่อนได้ยินม้าบ่นว่าเห็นสายซึงกลับดึก แถมยังเมากลับมาด้วย ก็ว่าจะไม่ยุ่งหรอกนะ แต่มันอดไม่ได้

“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่ต้องมายุ่ง เอาเวลาไปสนใจน้องสาวสุดที่รักของเจ้เหอะ หึ ป่านนี้ยังไม่กลับล่ะสิ” ประโยคหลังเขาพูดเบามาก แต่ฉันรู้ว่าเขากำลังพูดถึงสายซอ

“หมายความว่ายังไง? แกรู้ได้ไงว่ายัยซอยังไม่กลับ?” ฉันขยับเข้าไปใกล้สายซึง พยายามถามเขาให้เสียงเบาที่สุดเพราะกลัวพ่อแม่จะได้ยิน สายซึงไม่ตอบ เขาเพียงยิ้มเยาะมุมปาก อดไม่ได้ที่จะกระชากแขนเขาด้วยความกังวล “ตอบมาสายซึง! แกรู้อะไรมา?”

“เออ ๆ บอกก็ได้ ปล่อยดิ” เขาดึงแขนกลับไป ขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ “เมื่อคืนฉันเห็นเจ้ซอถูกลากไปจากหน้าผับ”

“ถูกลากไป? หมายความว่ายังไง? แกเห็นยัยซอโดนลากตัวไปแต่ไม่เข้าไปช่วยเหรอซึง แกบ้าไปแล้วเหรอ!” ใจฉันหายวาบทันที อยากจะตบตีน้องชายในสายเลือดให้ตายคามือ ทำไมถึงเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้นะ!

“แล้วทำไมฉันต้องช่วยด้วย ไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย”

“สายซึง! นั่นพี่สาวแกนะ!” ฉันวีนเสียงดัง ความโกรธพุ่งขึ้นหน้า “แล้วแกเห็นหรือเปล่าว่าใครลากยัยซอไป?”

“ก็เพราะเห็นไงว่าเป็นใคร ฉันเลยไม่อยากเข้าไปเสือก” คนที่สามารถทำให้ผู้ชายที่ไม่ค่อยกลัวอะไรอย่างสายซึงถึงขนาดไม่อยากเข้าไปยุ่งได้นี่จะต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ

“ใคร?”

“เฮียสิงห์” ฉันชะงักทันทีที่ได้ยินคำตอบ

“สิงห์… สิงห์ไหน?”

ขอเถอะ… ขออย่าให้เป็นคน ๆ เดียวกับที่ฉันคิดเลย

“สิงห์คำราม”

แย่แน่… สายซอแย่แล้วแน่ ๆ ฉันจะช่วยน้องยังไงดี?!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป