บทที่ 6 ไร้ยางอาย
ระหว่างรออาหารที่สั่ง น้ำตาลก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ เพียงแค่เดินผ่านโต๊ะที่สองเท่านั้นเธอกลับต้องหยุดเดินแล้วค่อย ๆ หันกลับมามอง เป็นเวลาเดียวกันกับที่ใครคนหนึ่งหันกลับมามองเธอเช่นกัน
เพียงแค่ได้สบตากับคนคนนั้น น้ำตาลก็รีบหันกลับ เธอรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำแล้วปิดประตูใส่กลอนจนแน่นหนา
“ให้ตายสิ ทำไมถึงต้องมาเจอเขาตอนนี้นะ” เธอพูดเขา ๆ ขณะนั่งอยู่บนชักโครก “แต่เอ๊ะ...แล้วฉันจะหนีเขาทำไม ฉันควรกระโจนเข้าหาเขาสิ”
‘แต่จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน นี่มันที่สาธารณะ อีกอย่าง...’ น้ำตาลก้มมองตัวเอง ‘แต่งตัวเชยแบบนี้ จะไปยั่วอะไรเขาได้ ฉันนี่มันมือสมัครเล่นจริง ๆ’
ด้านนอกตรงเคาน์เตอร์ พนักงานหนุ่มที่รับออเดอร์ของน้ำตาล เขานำอาหารออกมาวางไว้
“อาหารที่สั่งได้แล้วครับ เอ๊ะ!!”
[มีอะไรหรือเปล่า] เหมยลี่ที่เห็นอาการแปลก ๆ ของเพื่อนร่วมงาน เธอก็เอ่ยถามขึ้น
[ลูกค้าคนเมื่อกี้หายไปไหนแล้วนะ] พนักงานหนุ่มถามพลางกวาดสายตัวไปตามโต๊ะต่าง ๆ
[อ๋อ ฉันเห็นเธอเดินไปทางนั้น คงจะไปเข้าห้องน้ำ] เธอบังเอิญเห็นตอนน้ำตาลลุกขึ้นพอดี
[งั้นวางไว้ตรงนี้ก่อนละกัน] เขาตั้งใจจะกลับเข้าไปในครัว
[จางหย่ง] เหมยลี่เรียกพนักงานหนุ่มไว้ [นั่นไง เธอออกมาพอดีเลย]
“อาหารที่สั่งได้แล้วครับคุณลูกค้า” ทันทีที่น้ำตาลเดินเข้ามาใกล้ จางหย่งก็บอกเธอทันที
“อ๋อค่ะ ขอโทษนะคะพอดีฉันเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ” น้ำตาลยื่นเงินให้กับพนักงานหนุ่มก่อนจะหยิบอาหารแล้วเดินออกจากร้านไป
“ไง”
คำทักทายห้วน ๆ นั้นทำให้น้ำตาลที่เพิ่งได้ก้าวเท้าผ่านประตูร้านต้องหยุดนิ่งแล้วหันไปมองตามเสียง
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันต้องถามเธอมากกว่า”
“คุณสั่งคนสะกดรอยตามฉันอย่างนั้นเหรอ” น้ำตาลคิดว่ามันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ
“อะไรนะ” ไคล์ขมวดคิ้วเข้าหากัน
“สนใจตัวฉันจนสั่งให้ลูกน้องตามหาเลยเหรอคะ” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เผื่อเขาจะสนใจตัวเธอขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้ บางทีเรื่องทั้งหมดอาจจะจบภายในคืนนี้ก็ได้
“ดูสารรูปตัวเองก่อนมั้ย” เขามองเธอหัวจรดเท้า
“แล้วไง ก็วันนี้มันวันหยุดของฉันนิ” เธอหมายถึงหยุดที่จะไม่ไปยั่วเขา “ฉันก็แต่งตัวตามสบาย มันแปลกตรงไหน”
“ยังต้องให้ฉันบอกอีกเหรอว่ามันแปลกตรงไหน หึ!!เธอนี่มัน” เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอจะใช่คนคนเดียวกับคนที่บุกไปหาเขาถึงบริษัทหรือเปล่า
“เลิกทำน้ำเสียงดูถูกแบบนั้นสักที รู้หรือเปล่าว่าฉันน่ะอายุเยอะกว่าคุณอีก”
“รู้ข้อมูลของฉันไปหมด” เขาเดินเข้าไปใกล้น้ำตาลมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเธอจะถอยหนีก็เปล่าประโยชน์เพราะเขาเอื้อมไปบีบคางของเธอ “เธอเป็นใครกันแน่”
“โอ๊ย!!ฉันเจ็บนะ”
“ตอบฉันมา” เขาพูดเสียงดัง
“ปล่อยนะ ไม่อย่างงั้นฉันจะร้องให้คนช่วย”
“ก็ลองดูสิ โอ๊ย!! ยัยบ้า” ไคล์ร้องออกมาเมื่อโดนน้ำตาลกัดเข้าที่มือ
“คุณทำฉันก่อน” น้ำตาลเองก็ตกใจที่ตัวเองไปกัดมือเขาแบบนั้น
หมั่บ!!
ไม่ทันที่น้ำตาลจะหันหลังหนีได้ทัน เธอโดนไคล์คว้าคอเสื้อไว้ได้ก่อน
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ตุบ!
ไคล์เหวี่ยงน้ำตาลเข้าไปในรถ โดยไม่ได้สนใจว่าเธอจะเจ็บหรือเปล่า
น้ำตาลเอามือลูบไหล่ข้างที่กระแทกกับประตูรถ ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่lส่วนที่กระแทกนั้นเป็นไหล่ไม่ใช่ศีรษะของเธอ
“คุณจะพาฉันไปไหน” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นเขาตามขึ้นมาแล้วนั่งลงข้าง ๆ แต่ก็ยังเว้นระยะห่างกับเธออยู่พอสมควร
“ออกรถ!” เขาออกคำสั่ง
“ครับบอส”
“ส่วนเธอ...บอกฉันมาว่าเป็นใครมาจากไหน” เขาถามโดยไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองคนข้าง ๆ
“...” เธอก็บอกไม่เริ่มถูก ถ้าพูดตามตรงแล้วเธอกับเขาไม่น่าจะมีเรื่องอะไรที่ต้องมาเกี่ยวพันกันได้เลย จะให้เธอบอกเขาว่าเธอมาเพื่อเสนอตัวให้เขาเพียงแค่นั้นมันก็ไม่สมเหตุสมผล เพราะเขาก็ต้องอยากรู้สาเหตุว่าทำไมเธอต้องทำแบบนั้น ดีไม่ดีเขาได้ฆ่าเธอทิ้งทั้ง ๆ ที่ยังไม่เริ่มงานเลยด้วยซ้ำ
“ตอบมา!” ดวงตาที่ฉายแววโกรธราวกับมังกรที่พร้อมจะกระโจนเข้าใส่ศัตรูหากสิ่งที่ได้ฟังทำให้รู้สึกไม่พึงพอใจเท่าที่ควร
ส่วนน้ำตาล หลังจากที่ได้ฟังน้ำเสียงที่กดต่ำลงนั้นทำให้เธอต้องกลั้นหายใจ เธอรู้สึกเหมือนมันเป็นคลื่นใต้น้ำที่รอซัดโถมเข้าชายหาดแล้วกวาดสิ่งที่อยู่บนพื้นทรายลงกลับสู่ท้องทะเลไปในชั่วพริบตา
“ฉัน...” เธอเม้มปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง “ฉันก็เป็นผู้หญิงที่หลงเสน่ห์คุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอไงคะ ก็อย่างที่ฉันเคยพูดไปว่าอยากนอนกับคุณ”
“ไร้ยางอาย” ช่างเป็นคำตอบที่ไร้สาระสิ้นดี ในสายตาของตอนนี้ เธอก็ไม่ต่างจากหญิงสาวที่อยู่ตามร้านเหล้าที่คอยจะเสนอตัวให้ผู้ชายที่ถูกใจ
“เรื่องนั้นฉันยอมรับค่ะ” ปากพูดไปแต่หน้าชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว
“นี่เธอ!! นี่ไม่ใช่คำชมนะ หัดรู้จักอายซะบ้างก็ดี”
“มัวแต่อายก็ไม่ได้ลองสิคะ ว่าจะถึงใจแค่ไหน” น้ำตาลขยับเข้าไปใกล้แล้วเอามือวางลงบนมือของเขา
เพี๊ยะ!!
“เอามือสกปรกของเธอออกไป” เขาปัดมือเธอออก
“เมื่อกี้ฉันเพิ่งเข้าห้องน้ำมา ฉันล้างมือด้วยสบู่เรียบร้อยแล้วนะ ไม่เชื่อก็ลองดมดูสิคะ” ไม่พูดเปล่าน้ำตาลยังเอามือไปวางบนจมูกของไคล์
หมั่บ!
