บทที่ 8 วู่วาม

ปึก!

น้ำตาลโดนผลักเข้าไปในลิฟต์ ชายหนุ่มกระโจนเข้าหาเธอทันที เธอมุดหน้าลงแล้วออกแรงผลักเขาให้ออกห่างจากตัว

‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน’

ความกลัวปกคลุมไปทั่วร่างกายไม่เว้นแม้แต่หัวใจ เธอข่มกลั้นเสียงสะอื้นไว้ พยายามปกป้องตัวเองจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ เธอจะยื้อให้ถึงที่สุด

“แรงเยอะจังเลยนะ” เขากระโจนเข้าหาเธออีกครั้ง คราวนี้แขนสองข้างโดนจับรวบและขึงไว้ “โอ๊ย!!”

ตุบ!!

น้ำตาลได้จังหวะที่เขาพยายามจะมัดมือของเธอ เธอก็กระทุ้งเข่าขึ้นไปจนโดนกล่องดวงใจของเขาเต็ม ๆ ชายหนุ่มตรงหน้าทรุดตัวลงนั่งทันที เธอรีบกดลิฟต์ให้เปิดออก และทุกอย่างกลับไม่เป็นดั่งใจเลยสักนิด

“จะหนีไปไหน” ร่างบางโดนคว้าตัวไว้ “ทำให้ฉันเจ็บแล้วฉันจะเอาคืนอย่างสาสม”

“ก็ฉันพูดดี ๆ คุณก็ไม่ยอมปล่อยฉันนี่นา”

ติ้ง!!

ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นบนสุด หัวใจดวงน้อย ๆ หล่นตุบลงไปที่ตาตุ่ม ความเงียบสงัดทำให้เธอยิ่งกังวล เวลานี้จะมีใครช่วยเธอได้นอกจากตัวของเธอเอง

“มานี่”

ร่างบางถูกกระชากให้ปลิวไปตามแรงของชายหนุ่ม

“อย่านะ!!”

หมั่บ!!

ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เดินเข้าห้องไปก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งจับต้นแขนของน้ำตาลไว้จากด้านหลัง ทันทีที่เธอหันกลับไปมองก็ได้เห็นว่าเขาคือคนคนเดียวกันกับที่ผลักไสเธอให้คนอื่นนั่นเอง

ชายหนุ่มแอบตกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ตรงนี้ ตามเนื้อตัวนอกร่มผ้ามีรอยแดง ๆ ปรากฏให้เห็น คงเกิดจากการฉุดกระชากลากถูกันมา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าน้ำตาลปฏิเสธคู่ค้าของเขา

“คุณจะทำอะไร” ชายหนุ่มทำหน้าแปลกใจเมื่อเห็นไคล์

“ผมเปลี่ยนใจแล้ว”

“ได้ไงล่ะ ตั้งแต่ทำธุรกิจร่วมกันมา คุณไม่เคยกลับคำพูดสักครั้ง” เขาโวยวาย ในเมื่อยกให้เขาแล้วจะมาเอาคืนได้ยังไง

“ครั้งนี้ผมวู่วามเกินไป” ไคล์แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แต่ในใจลึก ๆ กลับยอมรับว่าเขาวู่วามจริง ๆ นั้นแหละ

“อย่าบอกว่าที่เธอพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง” เขามองสลับกันระหว่างไคล์กับหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้าง ๆ ไคล์

“พูดว่าไงครับ”

“เธอบอกผมว่า เธอกำลังทะเลาะกับคุณ”

“ว่าไงนะ” ไคล์ตวัดสายตามองหญิงสาว ความรู้สึกผิดเมื่อก่อนหน้าก็มลายหายไป เธอเอาชื่อของเขาไปแอบอ้างได้ยังไง ความจริงเธอกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันด้วยซ้ำแล้วจะมีเรื่องอะไรให้ทะเลาะกัน

น้ำตาลหลุบตาต่ำลง มือสองข้างกุมเข้าหากันแน่น หากเขาปฏิเสธและเปลี่ยนใจอีกคราวนี้เธอก็คงไม่มีโอกาสรอดแน่นอน

“หรือว่าคุณยังติดใจเธออยู่” ชายหนุ่มสันนิษฐาน “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ได้”

“...”

“เอาเถอะ คู่ค้าทางธุรกิจอย่างเราไม่ควรมาทะเลาะกันเองเพราะเรื่องผู้หญิง คืนนี้ผมหาใหม่เอาก็ได้” ขณะพูดเขาก็หันไปมองเธอ แต่ในใจกลับรู้สึกเสียดาย “อ้อ...ถ้าคุณเบื่อวันไหน ผมขอละกัน”

“...” ไคล์ไม่ตอบ แต่เขากลับมองไปที่น้ำตาล

“ผมยกห้องนี้ให้คุณละกัน อุตส่าห์เปิดไว้หวังจะเชยชมเธอซะหน่อย แต่กลับผิดแผนซะงั้น” ว่าจบเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าห้องเพียงสองคน

เกิดความเงียบระหว่างคนทั้งสอง เขายืนมองหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาด้วยความขัดใจ ผู้หญิงปากดีใจกล้าที่เขาเจอก่อนหน้าหายไปไหนแล้ว

“นี่เธอ” เขาเอ่ยเรียกขณะที่ทำทีเป็นเดินผ่านเธอไป แต่พอหันกลับมาเธอก็ยังยืนอยู่ที่เดิม “จะยืนอยู่อีกนานมั้ย”

“...” ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา เธอยังคงอยู่ในท่าเดิม

“จิ๊...จะรอให้หมอนั่นกลับมาเอาหรือไง” เขารู้สึกไม่สบอารมณ์จึงจิ๊ปากแล้วเดินกลับมาที่เธออีกครั้ง

เขายืนอยู่ด้านหลังของเธอโดยที่เธอไม่สนใจสักนิด ไม่มีท่าทีว่าจะเหลียวมอง หรือแสดงให้เขารู้ว่าเธอรู้ว่าเขายืนอยู่

หมั่บ!

เพี๊ยะ!!

มือเล็กฟาดไปบนใบหน้าของเขาอย่างแรงด้วยความโกรธ เธอโกรธเขาจนตัวสั่นจนลืมไปว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่อาจจะทำให้เขาโกรธและทำร้ายเธอ แต่เวลานี้ใครจะสนล่ะในเมื่อเขาทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้

“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ” เธอตวาดใส่เขา “คุณไม่ใช่เจ้าชีวิตของฉัน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง”

เสียงสั่น ๆ ของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เขาแอบตกใจจนลืมไปว่าเขาเพิ่งโดนเธอตบหน้า แต่ในตอนนี้ภายในใจของเขากำลังสั่นไหว เขาทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งโดยการผลักใสให้เธอไปกับผู้ชายแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จัก หากแม่ของเขารู้เขาคงโดนแม่โกรธแน่ ๆ

ปึก! ปึก!

กำปั้นเล็ก ๆ ทุบไปบนอกของเขา เธอโกรธผู้ชายตรงหน้าเหลือเกิน มีสิทธิ์อะไรมาทำกับเธอแบบนี้

“คุณมันเลว...ฮึก ๆ” เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

“อย่ามาทำเป็นเล่นตัว เธอเองไม่ใช่เหรอที่เสนอตัวให้ฉัน” เขาจับแขนของเธอไว้พร้อมทั้งต่อว่าเธอ

“ใช่...ฉันเองที่เสนอตัวให้คุณ” เธอเงยหน้ามองเขา แม้ภาพด้านหน้าจะไม่ชัดเจน เพราะโดนน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ในดวงตาบดบังก็ตาม “แม้ว่าคุณจะไม่ต้องการ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ยกฉันให้คนอื่น”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป