บทที่ 1 อิสรภาพ

‘ชินซอง…’

เสียงหวานครางเรียกแผ่ว ๆ ใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนคราบน้ำตา ดวงตาหวานสั่นระริกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร่างกายบอบบางสั่นเทาจนตัวโยน เธอยกสองมือขึ้นช้า ๆ มือข้างหนึ่งยังคงกำวัตถุปลายแหลมแน่นไม่ยอมปล่อย คราบของเหลวสีแดงฉานหยดลงบนพื้นและไหลลงตามแขนขาวจนถึงข้อศอก

เลือด…

‘กลัว… ฉันกลัว’

เสียงหวานพึมพำซ้ำไปซ้ำมาขณะที่ร่างสูงคว้าเธอเข้ามากอด เขาปลดมีดออกจากมือเธอแล้วกระชับกอดแน่นขึ้น มือข้างหนึ่งลูบผมเพื่อปลอบประโลม ริมฝีปากหนาขยับพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ

‘ไม่เป็นไร… ไม่เป็นไรแล้วนะ’

‘ฮึก… กลัว… ชินซอง’

“…ชินซอง”

‘ฉันกลัว… ชินซอง’

“โอ ชินซอง!!”

เฮือก!!

เสียงหวานจางหายไปพร้อมกับเสียงเรียกชื่ออันแสนดุดันเข้ามาแทนที่ ผมถลันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความรวดเร็ว เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ หยดลงบนแผงอกเปลือยเปล่า เสียงหอบหายใจราวกับคนที่เพิ่งผ่านการวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายดังก้องไปทั่วห้อง ภายในหัวยังมีภาพของผู้หญิงคนนั้นลอยเด่นชัดเจน จนกระทั่งมันจางหายไปเพราะเสียงวัตถุบางอย่างกระทบกับเหล็กหนาเสียงดัง…

แกร๊ง! แกร๊ง!

“เลิกทำท่าเหมือนคนเพิ่งตื่นจากนรกเสียที เพราะนับจากวันนี้ไป แกจะได้ออกจากนรกนี่แล้ว”

“…”

“รีบไปเตรียมตัวต้อนรับอิสรภาพของแกซะ โอ ชินซอง”

หลังจากพูดจบ ‘ผู้คุม’ จ้องผมด้วยสายตานิ่ง ๆ ชั่วครู่ก่อนจะเดินออกไปจาก ‘ห้องขัง’ ของผม

ใช่แล้ว… พวกคุณฟังไม่ผิดหรอก ห้องที่ผมกำลังนอนอยู่นี้คือห้องขังไม่ผิดแน่ เพราะที่แห่งนี้คือสถานที่ที่ใคร ๆ เรียกกันว่า ‘เรือนจำ’ และมันคือสถานที่ที่จองจำผมมากว่าเจ็ดปีแล้ว

“…” ผมยกสองมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับมาคงเดิม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมฝันถึงผู้หญิงคนนั้น ตั้งแต่อิสรภาพของผมถูกจองจำ ผมก็ฝันถึงเธอทุกคืน… ไม่เคยมีคืนไหนเลยที่จะไม่ฝันเห็นเธอ…

เธอเปรียบเสมือนสิ่งเดียวที่คอยตอกย้ำการมีชีวิตอยู่ของผม…

มีชีวิตอยู่… แบบไร้หัวใจ... มีลมหายใจ… แต่ไร้ความรู้สึก…

ผมลุกขึ้นจากเตียงเหล็กแข็ง ๆ สายตาเย็นชากวาดมองรอบห้องขังเพื่อมองมันเป็นครั้งสุดท้าย วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้อยู่ในนรกแห่งนี้ มันเป็นวันที่ผมรอคอยทุกลมหายใจเข้าออก

วันที่ผมจะได้อิสรภาพกลับคืน…

“ออกไปแล้วก็ทำตัวดี ๆ หวังว่าจะไม่ได้เห็นหน้าแกที่นี่อีกนะ โอ ชินซอง”

ผู้คุม หรือ ‘พ่อ’ สำหรับนักโทษทุกคนพูดขึ้น ผมมองหน้าเขานิ่ง ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ในห้องชำระบาป ใครก็ตามที่จะได้อิสรภาพคืนจะต้องเข้ามาชำระบาปตามประเพณีของชาวญี่ปุ่น

โอ ชินซอง คือชื่อของผม แน่นอนถ้าฟังจากชื่อก็คงจะรู้ว่าผมไม่ใช่คนญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าผมจะได้สัญชาติญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่โดยสายเลือดแล้วผมคือคนเกาหลี

“ชำระบาปในห้องนี้หนึ่งชั่วโมง แล้วแกจะได้อิสรภาพทั้งหมดคืน” ผู้คุมเดินออกจากห้องไป ประตูห้องชำระบาปปิดลง ผมมองตรงไปทางห้องเล็ก ๆ เบื้องหน้า ผมรู้ว่าในห้องนั้นมีอะไร และมีใครบางคนกำลังนั่งอยู่

“บาปของคุณคืออะไร โปรดสารภาพมันออกมาเพื่อเป็นการชำระบาปก่อนจะคืนสู่อิสรภาพ”

เสียงพูดดังมาจากห้องเล็ก ๆ นั่น ผมถอนหายใจหนัก ๆ อย่างชั่งใจเล็กน้อย พูดกันตามตรงคือผมไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องของตัวเองออกมาหรือเปล่า เพราะมันคือสิ่งที่ผมเก็บกดเอาไว้มาตลอดระยะเวลาแปดปีเต็ม ผมไม่เคยบอกใคร… ไม่เคยแม้แต่จะปริปากพูดกับใครสักครั้ง…

“คุณทำความผิดอะไรถึงถูกจองจำอยู่ที่นี่รึ?”

เมื่อเห็นว่าผมเอาแต่ยืนเงียบ ไม่พูดและไม่ตอบอะไร เสียงนั้นจึงถามคำถามใหม่ขึ้นมา ผมนิ่งคิดชั่วครู่ก่อนตัดสินใจยอมตอบออกมาเบา ๆ

“ฆ่าคนตาย…”

“งั้นรึ… เจตนาหรือไม่ ตั้งใจหรือพลั้งมือฆ่า?”

คำถามเดิม ๆ ที่ผมได้ยินมาตลอดเวลาแปดปี ตอกย้ำให้ผมนึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ฆ่าเหรอ… เหอะ! คิดแล้วบัดซบชีวิตสิ้นดี!

“ปกป้องคนรัก หรือปกป้องตัวเองล่ะ” เสียงนั้นยังคงถามต่อไปเมื่อไร้คำตอบกลับจากผม คำถามนี้บีบหัวใจผมอย่างดี เพราะจนถึงทุกวันนี้ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเพื่อใคร ในเมื่อคนที่ผมปกป้องด้วยชีวิตและอิสรภาพ… เธอกลับไม่เคยมาหาผมเลยสักครั้ง

เธอคนนั้นจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าผมต้องพบเจอกับเรื่องบัดซบแค่ไหน เธอจะรู้บ้างไหมว่าการตกนรกทั้งเป็นมันเลวร้ายขนาดไหน

ไม่เลย… เธอไม่เคยรู้เลยสักนิด เพราะขณะที่ผมกำลังตกนรก เธอกลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ในสรวงสวรรค์ของเธอ…

หนึ่งปีในสถานกักกันเยาวชนกับเจ็ดปีในเรือนจำนรกแห่งนี้… มันทุกข์ทรมานจนเปลี่ยนผมให้กลายเป็นคนไร้หัวใจ… ไร้ความรู้สึก

มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับผม ชีวิตต่ำทรามที่ผมพยายามตะเกียกตะกายหลบหนี บัดนี้ผมไม่สามารถหนีมันได้อีกต่อไปแล้ว ชีวิตที่ผมเคยคิดว่าจะดี มันถูกทำลายจนแหลกเหลวไปตั้งแต่เมื่อแปดปีก่อนแล้ว!

“หลังจากได้รับอิสรภาพคืน สถานที่ที่แรกที่คุณต้องการจะไปคือที่ไหน”

ผมละสายตาขึ้นจ้องห้องเล็ก ๆ ตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง คำตอบนี้ผมมีอยู่ในใจนานแล้ว ผมเฝ้ารอคอยโอกาสนี้มานานมากแล้ว เรียกได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่ผมถูกจองจำ ผมก็เฝ้ารอมาตลอด…

“นรก…”

บทถัดไป