บทที่ 8 ไม่มีอะไรจะเสีย

“จะไปไหนชินซอง”

อาคิระทักขึ้นขณะเดินสวนกับชินซองที่กำลังจะเดินออกไป เขาคว้าแขนเพื่อนรักเอาไว้เพราะพอจะรู้ว่าชินซองกำลังจะไปที่ไหน

“กูจะไปขอเช็คกล้องวงจรปิด”

นั่นไง เขาคิดไม่ผิดจริง ๆ ชินซองจะต้องผลุนผลันกลับไปที่โรงพยาบาลนั้นแน่ ๆ

“ตำรวจเอาเทปไปแล้ว”

“มึงว่าไงนะ” คนอารมณ์ร้อนถามกลับ เขาหันมาสบตากับอาคิระนิ่งราวกับต้องการคำตอบ

“สิ่งที่มึงต้องการจะค้นหา ถูกตำรวจเก็บไปหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์แล้วชินซอง”

“งั้นกูจะไปหาตำรวจพวกนั้น กูไม่ยอมให้สรุปคดีว่าฆ่าตัวตายง่าย ๆ แบบนี้หรอก!” ชินซองทำท่าจะเดินออกไปอีกครั้งแต่ถูกอาคิระรั้งแขนเอาไว้ เขาดึงชินซองเข้ามาในบ้านเหมือนเดิม

“กูบอกแล้วไงว่าไร้ประโยชน์! ตำรวจเหี้ยพวกนั้นมันไม่ฟังที่มึงพูดหรอก!”

“ทำไมวะ! กูไม่เข้าใจ น้องกูไม่ได้ฆ่าตัวตาย! ชอนซาไม่ได้ฆ่าตัวตายมึงได้ยินไหมไอ้คิระ! เธอถูกฆ่า! ทำไมตำรวจพวกนั้นมันสรุปคดีแบบนี้!” ชินซองทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น เขาชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นพลางซบหน้าลงบนแขนเหมือนคนเสียสติ

อาคิระยืนมองเพื่อนตัวเองด้วยความรู้สึกคับแค้นใจกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้มา เขากำลังชั่งใจว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับชินซองดีไหม… เรื่องที่เขาแอบไปสืบมาอย่างลับ ๆ

พรึ่บ!

ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกโยนลงบนพื้นตรงหน้าชินซอง เขาเงยหน้าขึ้นมองซองนั้นก่อนจะเงยมองอาคิระ สีหน้าเจ็บปวดฉายชัดอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา

“มึงพูดถูก… ชอนซาไม่ได้ฆ่าตัวตาย”

“…”

“และนั่นคือสิ่งยืนยันความคิดของมึง”

ชินซองมองปลายนิ้วที่ชี้ไปทางซองเอกสารนั้นก่อนจะรีบคว้ามันมาเปิดออก ภาพถ่ายในซองค่อย ๆ ปรากฏสู่สายตาชายหนุ่มทีละใบ มันช่างบีบหัวใจอันแข็งแกร่งจนแทบจะแหลกเหลว

“มึง… ไปเอารูปพวกนี้มาจากไหน” เขาเอ่ยถามเสียงสั่นขณะไล่ดูภาพในมือทีละใบ มันคือภาพถ่ายร่องรอยบอบช้ำบนร่างกายของชอนซาหลังจากเสียชีวิต เป็นภาพที่ตำรวจใช้ในการประกอบคดีซึ่งมันยากมากที่จะได้ภาพเหล่านี้มา

“ไม่มีอะไรยาก… สำหรับองค์กรที่กูอยู่” อาคิระนั่งลงบนโซฟาพลางจุดบุหรี่ขึ้นสูบ เขาจ้องเพื่อนตัวเองนิ่งก่อนจะพูดต่อ “ชอนซาไม่ได้ฆ่าตัวตาย เธอถูกทำร้ายก่อนจะตกลงมา ตามร่างกายของเธอมีร่องรอยชัดเจน และกล้องวงจรปิดในวันนั้นก็ถูกตำรวจเก็บอย่างแน่นหนา กูเอามาได้แค่ภาพพวกนี้เท่านั้น”

“หมายความว่า… คนที่ทำร้ายชอนซามีอิทธิพลต่อพวกตำรวจนั่นสินะ”

“ใช่ กูถึงบอกไงว่ามึงทำอะไรไม่ได้แล้ว มันไม่มีประโยชน์”

“เวรเอ๊ย! น้องกูต้องตายอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้! มึงจะให้กูอยู่เฉยได้ยังไง!”

ชินซองกำรูปในมือแน่น แววตาโกรธแค้นฉายชัดขึ้นมา ภายในใจเขาร้อนอย่างกับเปลวไฟที่พร้อมจะระเบิด เขาอยากจะตามไปฆ่าพวกมันทุกคนที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ

“กูไม่ได้บอกให้มึงอยู่เฉยนะชินซอง แต่กูอยากให้มึงมีสติมากกว่านี้ ไม่ใช่มึงคนเดียวที่เสียใจกับการจากไปของชอนซา กูก็เสียใจไม่ต่างจากมึง กูรักชอนซามากแค่ไหนมึงก็รู้”

ควันสีขาวถูกอัดเข้าปอดแรง ๆ เพื่อดับความเสียใจ อาคิระใช้สายตาดำมืดจับจ้องชินซองที่ยังนั่งชันเข่าบนพื้นอย่างคนสิ้นหวัง เขาปลดกระดุมเสื้อสองสามเม็ดก่อนจะเปิดออกข้างหนึ่ง เผยให้เห็นรอยสักรูปงูเลื้อยพันรอบมีดที่มีด้ามเป็นไม้กางเขน ชินซองจ้องมองรอยสักนั้นด้วยความรู้สึกคุ้นตามาก เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าอาคิระมีรอยสักลักษณะนี้อยู่บนแผงอกข้างขวาด้วย

“นี่คือสัญลักษณ์ขององค์กร Under.G ทุกคนที่เข้าองค์กรจะต้องมีรอยสักนี้อยู่บนร่างกาย อย่างที่เห็น… กูเป็นคนขององค์กรนี้”

“…” ชินซองละสายตาขึ้นมองเพื่อนรักอย่างคาดเดาความคิดไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าอาคิระต้องการอะไรกันแน่ แปดปีที่ผ่านมาทำให้หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป รวมไปถึงเพื่อนของเขาคนนี้เช่นกัน

“หลังจากที่กูเสียพ่อและแม่ไป ชีวิตกูก็สิ้นหวังไม่ต่างจากมึงในตอนนี้ เวลานั้นกูเหมือนคนตายทั้งเป็น ไอ้เหี้ยที่มันขับรถชนพวกท่านก็ลอยนวลอยู่ในสังคมได้เหมือนเดิม กูคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เงินอยู่เหนือกฎหมายเสมอ คนธรรมดา ๆ อย่างมึงกับกูทำเหี้ยอะไรกับกฎหมายเวรนั่นไม่ได้หรอก มันต้องกฎหมู่ที่กูบัญญัติขึ้นเองเท่านั้นถึงจะจัดการกับไอ้เหี้ยนั่นได้”

“มึงเข้าองค์กรนี้เพราะเรื่องนั้นสินะ”

“ใช่ ตอนแรกกูแค่ต้องการอำนาจที่จะสามารถฆ่าไอ้เวรนั่นได้ และหลังจากกูส่งมันลงนรกไป กูถึงได้รู้ว่าการเข้าองค์กรนี้มันไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะออกจากมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ความตายเท่านั้นที่จะปลดปล่อยมึงจากองค์กรนรกนี่ได้”

“…”

“แต่ผลตอบแทนของมันก็น่าสนใจใช่ไหมล่ะ ถ้ามันสามารถทำให้มึงได้ตามหาความจริงเกี่ยวกับการตายของชอนซาได้สำเร็จ และยังตามหาฆาตกรตัวจริงที่มึงจะลากมันลงนรกได้ มึงจะยังสนใจอยู่ไหมไอ้ชินซอง?”

ชินซองนิ่งคิดตามในสิ่งที่อาคิระพูด ชีวิตเขาตอนนี้มันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เขาสูญเสียสิ่งสำคัญสิ่งสุดท้ายของเขาไปแล้ว เขาไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป หากการเข้าองค์กรนรกนี่มันจะทำให้เขาตามหาคนที่ฆ่าน้องสาวเขาได้จริง ๆ ล่ะก็… เขาก็พร้อมที่จะทำ!

ในเมื่อความยุติธรรมมันไม่มีจริงบนโลกแสนโสมมนี้ เขายอมแลกด้วยทุกอย่างแม้แต่ชีวิตเพื่อตามทวงมันคืนด้วยตัวของเขาเอง!

“นานแค่ไหน…”

“…”

“ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกูถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ” ชินซองเงยหน้าถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง อาคิระขยี้บุหรี่ในมือทิ้งก่อนจะหันมาตอบ

“จนกว่ามึงจะแข็งแกร่ง… และเลือดเย็นมากพอ”

“…”

“เมื่อไหร่ที่มึงฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกผิด เมื่อนั้นแหละที่มึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป