บทที่ 7 เพลิงคลั่งรัก : 6

ลิลลี่ หรือ หมอลิลณา บอกบอดี้การ์ดมือขวาของพี่ชายเธอ

จู่ ๆ ที่หมอประจำตัวของขัติมากรที่ดูแลรักษาเธอมาตั้งสี่เดือนแต่สุขภาพเธอกลับไม่ดีขึ้นเลยทั้ง ๆ วินิจฉัยออกมาเป็นแค่โรคขาดสารอาหาร

สาเหตุเพราะความไร้จรรยาบรรณของหมอที่เห็นแค่ความสำคัญของเม็ดเงิน พอครอบครัวเธอจ่ายหนักจ่ายไม่อั้นจึงไม่อยากรีบรักษาให้หาย จนกันตพลจับได้เลยถูกเด้งออกจากโรงพยาบาล

"ผมต้องโทร.รายงานนายก่อน"

ทัศน์เทพรีบเดินออกจากห้องนี้ เขาควักโทรศัพท์เครื่องหรูออกมากดโทร.หานายทันที

"นายเสร็จธุระยังครับ"

เขายังคงเกริ่นออกไปแบบปกติ

[ยัง เหมือนจะตกลงกันไม่ได้]

ทางนั้นก็มีปัญหาคาราคาซังยิบย่อยอยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกแปลกใจทำไมมือขวาเขาถึงโทร.มาถามเรื่องนี้

[เกิดอะไรขึ้น]

คนถูกตั้งคำถามกลับรวบรวมความกล้ารายงานสถานการณ์ปัจจุบันออกไปทันที

"คุณฟางเซียนเหมือนจะมีปัญหาแล้วครับ"

เพียงแค่อีกฝ่ายได้ยินชื่อที่เขาจดจำได้ขึ้นใจ เสียงเหมือนขยับตัวก็ดังลอดออกมา ตามมาด้วยเสียงโวยวายจากคนหลายคนดังเข้ามาในสาย แลดูวุ่นวายกันหนักกว่าทางนี้

[ตอนนี้อยู่ที่ไหน]

"โรงพยาบาลครับ"

เขาตอบผู้เป็นนายสั้น ๆ อย่างไม่ยืดยื้อ ฝ่ายนั้นวางหูไปแต่ก็ได้ยินเสียงสบถหยาบคายดังมาก่อนสายจะตัด

[แม่งเอ้ย!]

อาการหัวเสียแบบนี้ไม่รู้เพราะยังเจรจาธุรกิจไม่เสร็จหรือเพราะอีกคนที่เขาโทร.ไปรายงาน

"เฮียเพลิงจะมา?"

คุณหมอคนสวยที่ยืนฟังบทสนทนานั้นตั้งแต่นาทีแรกถามขึ้น

"ครับ" ทัศน์เทพตอบสั้น ๆ

"ตกลงเกิดอะไรขึ้น แล้วผู้หญิงคนนั้นคือใคร?"

หมอลิลณาเพิ่งกลับมาจากการไปอบรมวิชาชีพที่ปารีสมาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เธอเลยไม่รู้ว่าสี่เดือนที่ผ่านมาพี่ชายเธอพาใครเข้ามาอยู่ร่วมชายคาด้วย

พอกลับมาถึงที่นี่ปุ๊บเธอก็ถูกพี่ชายสั่งให้มาดูแลคนไข้คนนี้ แถมยังกำชับอีกว่าต้องพิเศษกว่าคนไข้คนอื่น ๆ

เธอเองไม่เคยเห็นพี่ชายที่แสนเย็นชาจะดูห่วงใยใครขนาดนี้ โดยเฉพาะคนแปลกหน้า

"เดี๋ยวคุณลิลลี่ถามจากนายดีกว่าครับ"

ทัศน์เทพไม่อยากก้าวก่ายเรื่องนี้

เข้าไม่รู้ว่านายตนเองพาเธอกลับมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร เขาเองก็ไม่เคยเห็นเจ้านายออกมือช่วยใครที่ไม่รู้จักสักที

แต่เมื่อสี่เดือนก่อนคำสั่งนายเขายังจำได้ทุกคำ

'จัดการพวกมัน แล้วไปเอาตัวเธอมา'

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดแม้เขาจะสนิทกับกันตพลมากแค่ไหนก็ยังเดาใจคนเป็นนายไม่ถูกอยู่ดี

"เกิดอะไรขึ้น!"

กันตพลใช้เวลาเดินทางมาที่โรงพยาบาลไม่ถึงสิบนาที เขาให้ฮาเทชิบอดี้การ์ดมือซ้ายขับปาดรถทุกคันที่ขวางทางเขาโดยไม่สนใจว่าจะถูกจับความเร็วหรือมีเสียงร้องด่าตามหลัง

ครั้นมาถึงโรงพยาบาลก็มุ่งหน้ามาที่ห้องทำงานน้องสาวทันที

"ลิลลี่ก็แค่รักษาเบื้องต้น" หมอลิลณาเอ่ยบอกพี่ชาย

"เบื้องต้นเธอคือแบบไหน?"

ดวงตาสีเข้มตวัดมองน้องสาวบุญธรรมที่เติบโตมาด้วยกันอย่างดุกร้าว

ก็เพราะแบบนี้ไง...

พี่ชายชอบเย็นชากับคนอื่นแบบนี้ เธอเลยอยากรู้ว่าผู้หญิงที่นอนไม่ได้สติบนเตียงเป็นอะไรกับเขา

แค่แววตาที่บ่งบอกว่าร้อนใจ สั่นไหวเมื่อมองหน้าคนบนเตียง เธอก็รู้แล้วว่ามันไม่ปกติสำหรับพี่ชาย

"โรคนี้ไม่ใช่แค่ขาดสารอาหาร แต่เหมือนจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับจิตใจของเธอด้วย"

หมอลิลณาเอ่ยบอกพี่ชายพร้อมสังเกตปฏิกิริยาเขาไปในตัว

เธอเห็นกันตพลกำหมัดบ้าง คลายบ้าง เหมือนอยากจะสัมผัสอีกคน แต่ก็เก็บอาการเพราะคนรอบตัวเยอะเกินไป

"ลิลลี่เลยเดาว่าเธออาจะมีอาการนอนไม่หลับ ร่วมด้วย เลยถามหาสาเหตุ"

"เธอไม่ควรถามแบบบนั้น" เสียงแข็งกร้าวดังขึ้นอย่างไม่พอใจ

ถ้าเป็นเขา... เขาจะไม่ถาม

เพราะรู้ดีว่าที่เธอนอนฝันร้ายทุกคืนเพราะอะไร

แต่สำหรับลิลณาเธอไม่รู้ เลยต้องรักษาไปตามขั้นตอน จะมาเสียงดุใส่ทำไมกัน

"ลิลลี่เป็นหมอนะ ถ้าไม่ถามก็รักษาไม่ได้"

เธออธิบายเหตุผลให้พี่ชายฟังจนอีกคนค่อย ๆ ตั้งสติแล้วผ่อนคลายอารมณ์หงุดหงิดลง

"แล้วนี่ทำไมเธอไม่ฟื้น"

"ลิลลี่ให้ยาสลบเพื่อระงับอาการหวาดกลัวของเธอ น่าจะอีก 5-10 นาที ถึงจะฟื้น"

ไม่อยากคุยกับพี่ชายแล้ว อยู่แล้วอึดอัด ออกไปสูดอากาศพร้อมหาเรื่องหลอกถามความสัมพันธ์ของสองคนนี้จากลูกน้องเขาดีกว่า

"ลิลลี่รอด้านนอกนะคะ ถ้าเธอฟื้นเรียกด้วย"

ร่างเล็กสวมเสื้อกาวน์กำลังจะเดินออกไป ทว่าไม่ลืมส่งสายตาบอกให้บอดี้การ์ดพี่ชายทั้งสองคนตามออกมาด้านนอกด้วย

เมื่อในห้องไม่มีคนอื่น เหลือแค่เขากับอีกคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง กันตพลจึงค่อย ๆ เอื้อมมือหนาวางบนเตียงที่ขัติมากรนอนอยู่

เขาวางมันไว้แค่พื้นเตียง ไม่ได้แตะต้องเนื้อตัวเธอสักนิด

พลางสมองก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาตัดสินใจพาคนแปลกหน้าคนแรกในชีวิตกลับมาด้วย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป