บทที่ 9 เพลิงคลั่งรัก : 8

หมับ..!

แต่ด้วยความที่เป็นคนเคยฝึกการต่อสู้ มือหนาเลยคว้ามือแน่งน้อยข้างนั้นไว้ทันเมื่อปฏิกิริยาของร่างกายมันตอบสนองคิดว่าจะเข้ามาทำร้าย

"โอ๊ย!"

เผลอใส่แรงเยอะไปหน่อยจนคนตัวเล็กที่นั่งสูงกว่าเขาระดับหนึ่งถูกบีบที่ข้อมืออย่างแรงแถมยังกระตุกจนร่างเธอลอยหวือลงมานั่งบนตักแกร่ง

สาวน้อยตรงหน้าลืมความเจ็บไปในทันที

หัวใจเธอสั่นรัวเมื่อใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันแค่หนังสือไม่กี่หน้าขวางกั้น

แอ๊ดดดด...

เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของคุณหมอลิลณาคนสวย

"อะแฮ่ม! คนไข้หมอตกเตียงเหรอคะ"

เข้ามาก็เจอช็อตเด็ด บนตักพี่ชายมีร่างบอบบางนั่งอยู่ แถมยังถูกสวมกอดไว้ราวกลัวจะตกลงมาได้รับอันตรายอีก

ไม่ธรรมดา!

คนไข้ของเธอคนนี้มีอิทธิพลกับพี่ชายเธอเกินไปแล้ว

"เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู"

กันตพลยังคงวางท่าเรียบนิ่งแถมยังเย็นชาใส่น้องสาวแบบคนละขั้วกับเมื่อกี้

ก่อนจะค่อย ๆ ช้อนร่างบางที่นั่งบนตักเขาขึ้นไปวางไว้บนเตียงตามเดิมด้วยท่าทางนิ่ง ๆ

"นี่ห้องทำงานลิลลี่นะคะ"

นั่นสิ!

นี่มันโรงพยาบาล แถมห้องนี้ยังเป็นห้องทำงานส่วนตัวยัยตัวแสบนั่นอีก การเคาะประตูก็คงไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำ

"มาตรวจหน่อย"

เพราะเห็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่หน้าประตู คนตัวโตเลยวางมาดส่งเสียงเข้มบอกน้องสาวมาทำหน้าที่ต่อ

"ตรวจใครดีคะ"

หมอลิลณาไม่วายเอ่ยแซวพี่ชาย

มีความสุขจริงได้เห็นมุมที่ไม่เคยเห็นนี้ของเฮียเพลิง

"อย่าเล่น"

ชิ! มาทำเสียงดุกลบเกลื่อน

"อ้าว แล้วนั่นเฮียจะไปไหน"

พอเธอมาก็จะหนีออกนอกห้องซะงั้น อยู่ต่อก็ได้ สัญญาจะไม่ล้อต่อแล้ว

"ทำหน้าที่ของเธอไป ฉันมีเรื่องต้องไปสั่งสอนไอ้เทพหน่อย"

"เฮียใจเย็น ๆ นะ เรื่องนี้ทัศน์เทพไม่ผิด"

หมอลิลณารู้สึกถึงไอสังหารลอยออกมาจากตัวพี่ชาย

ทัศน์เทพจะโดนอะไรบ้างนะ นี่ไม่ใช่ความผิดเขาสักหน่อย

"เอ่อ ขอถามได้ไหมคะ"

ขัติมากรที่นั่งมองคนสองคนคุยกันเงียบ ๆ เริ่มร้อนใจตามคำพูดที่หมอคนสวยตะโกนบอกอีกคน

"ว่าไงคะ?"

หมอลิลณาแย้มยิ้มให้อีกคนเพื่อให้ผ่อนคลาย

"ที่บอกกว่าไม่เกี่ยวกับคุณทัศน์เทพ หมายความว่าคุณเพลิงกัลป์กำลังจะออกไปทำอะไรเหรอคะ"

ฟังแล้วเหมือนอีกคนกำลังจะออกไปมีเรื่องอย่างไรอย่างนั้น

"อยากรู้เหรอ"

รู้แล้วละว่าจะพิสูจน์ความสัมพันธ์ของพี่ชายกับคนตรงหน้าด้วยวิธีไหนดี

"ออกไปดูกับตาตัวเองสิ"

พูดเสร็จก็ผายมือเชื้อเชิญให้คนอยากรู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วออกไปดูด้วยตาตัวเอง

ขัติมากรไม่รีรอ เธอรู้สึกถึงเรื่องไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จึงรีบกระโดดลงจากเตียงแล้วออกจากห้องนี้ทันที

[End part]

ผลัวะ!

ฉันวิ่งออกมาจากห้องคุณหมอคนสวย เดินมาตามทางที่หมอคนนั้นบอกก็เจอเข้ากับช็อตเด็ด เมื่อหมัดใหญ่ ๆ ของคุณเพลิงกัลป์กระทบเข้าหน้าท้องคุณทัศน์เทพหนึ่งครั้ง

"อย่าค่ะ!"

รีบวิ่งเข้าไปห้ามเมื่อดูท่าทางจะมีหมัดที่สองตามมา

"ออกมาทำไม"

เขาพูดกับฉันแต่ส่งสายตาบอกคุณเทชิให้เดินมารวบตัวฉันไว้แล้วถอยออกห่างพวกเขาสองคน

"คุณเพลิงกัลป์ทำร้ายคุณทัศน์เทพทำไมคะ"

ฉันตะโกนถามเสียงดังออกไป

ในน้ำเสียงนั้นมีความไม่พอใจในการใช้กำลังของเขาแก้ปัญหาเป็นอย่างมาก

"ผมทำงานพลาดเองครับ"

เฮียเทพหันมายิ้มให้ฉัน ในสายตาคู่นั้นเขากำลังบอกฉันว่าเขาไม่เป็นอะไร

"งานอะไรคะ ทำไมถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือ คงไม่ใช่เพราะหนูควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วสลบไปหรอกนะคะ"

วันนี้ทั้งวันเฮียเทพอยู่กับฉันตัวติดกันตลอด ถ้าเขาบอกเขาทำงานพลาด คงมีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่พอจะเดาได้ในตอนนี้

"หน้าที่ของมันคือจับตาดูเธอไม่ให้คลาดสายตา"

จริง ๆ ด้วย!

คุณเพลิงกัลป์กำลังโมโหเฮียเทพเรื่องฉันจริง ๆ

"คุณเพลิงกัลป์ฟังหนูอธิบายก่อนนะคะ"

ฉันเงยหน้าส่งสายตากึ่งร้องขอให้คุณเทชิปล่อยฉัน แต่ไม่เป็นผล

"ไม่เป็นไรครับ ผมสมควรได้รับโทษนี้"

ทำไมคนเราต้องใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาด้วย

"ที่นี่โรงพยาบาล หมอต้องรักษาคนป่วยเป็นการส่วนตัว คุณทัศน์เทพเลยเข้าไปไม่ได้ค่ะ"

ไม่ให้ฉันยุ่งได้ไง ในเมื่อฉันคือต้นเหตุของเรื่องนี้

"คุณเพลิงกัลป์ยกโทษให้คุณทัศน์เทพเถอะนะคะ มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ค่ะ"

ทำไมเรื่องเล็กน้อยแค่นี้คุณเพลิงกัลป์ดูโกรธขนาดนั้นกันนะ

"พอเถอะเฮีย ที่เธอพูดก็ถูกแล้ว อย่าเอาแต่ใจเป็นเด็กสิ"

"หุบปาก!"

อา... นี่อารมณ์ไม่ดีจริง ๆใช่ไหม

ขนาดคุณหมอคนสวยยังโดนหางเลขไปด้วยเลย

"ต่อไปถ้ากูสั่งให้เฝ้า หมายความว่าห้ามคลาดสายตาแม้วินาทีเดียว"

คุณเพลิงกัลป์เดินออกมาทันทีที่เขาสั่งคุณทัศน์เทพเสร็จ

หมับ..!

"อะ!?"

ข้อมือฉันถูกคว้าแล้วกระตุกให้เดินตามขายาว ๆ ของเขาอย่างไร้คำพูดจาใด ๆ

จากตอนแรกที่เจ็บแปลบเพราะเขาใช้แรงบีบเยอะไปหน่อย ทว่าตอนนี้ตรงส่วนนั้นเริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว

เขาพาฉันมายังรถหรูสีดำขลับที่ฉันกับคุณทัศน์เทพใช้ขับมาที่นี่

"กุญแจ"

เขาหันไปขอกุญแจจากลูกน้องที่เพิ่งถูกเขาซ้อมมา

"นายจะขับเอง?"

ทำไมสีหน้าที่คุณทัศน์เทพถามดูประหลาดใจเหมือนเจ้านายเขาไม่เคยขับรถมาก่อน

"อย่าให้พูดซ้ำ"

น้ำเสียงขวนขนลุก ฟังแล้วเยือกเย็นถึงก้นบึ้งหัวใจ

ตามมาด้วยกุญแจรถที่ถูกยื่นให้ผู้เป็นนายในเวลาต่อมา

"ขึ้นรถ"

เขาสั่งพร้อมประตูที่เปิดอ้ากว้าง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป