บทที่ 1 Intro

หลังเปิดเผยความรู้สึกออกไปแล้วโดนเขาปฏิเสธ

เธอจึงพยายามลบความรู้สึกนั้นออกไปจากใจ

อลิน

ส่วนเขาเก็บซ่อนความรู้สึกที่มีให้เธอมาตลอด

เมื่อไหร่ที่เปิดเผยความรู้สึกนั้น เขาจะไม่ได้เข้าใกล้เธออีก

คิงส์

ภายในตึกของมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีนักศึกษาปริญญาโทที่เพิ่งสอบเสร็จเป็นวันแรก กำลังพากันออกจากห้องสอบ วันนี้พวกเขาตั้งใจจะไปหาอะไรอร่อย ๆ นั่งทานกันให้สบายใจ ก่อนจะเตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อสอบในวันถัดไป

หญิงสาวร่างเล็ก ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอนั้นยาวสลวยไปจนถึงกลางหลัง ใบหน้ารูปไข่ที่รับกับทรงผมนั้นทำให้เธอถูกมองว่าเป็นหญิงสาวที่น่ารักและมีเสน่ห์ในคราวเดียวกัน รวมไปถึงกลิ่นประจำตัวของเธอมักทำให้คนที่อยู่ใกล้เผลอสูดดมเข้าไปอย่างน่าหลงใหล

อลินหญิงสาวผู้มองโลกในแง่ดี เธอมีพี่ชายสองคนที่แตกต่างกันคนละขั้ว คนหนึ่งตั้งใจสืบทอดธุรกิจสีขาวทั้งหมดของครอบครัว ส่วนอีกคนต้องการรับช่วงต่อการเป็นมาเฟียและธุรกิจสีเทาของครอบครัวเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นแต่พวกเขาก็ไม่เคยมีปัญหากัน มีแต่จะรักใคร่กลมเกลียวกันเหมือนพี่น้องทั่ว ๆ ไป

วันนี้อลินวาดฝันเมนูไว้ในหัวมากมายแต่แล้วความฝันของเธอก็ต้องพังทลาย เพราะขณะที่เดินออกจากลิฟต์พร้อมกับเพื่อน ๆ เธอกลับเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนเอามือกอดอกแล้วพิงรถเก๋งคันสีดำอยู่ตรงหน้าตึก เพียงสายตาของทั้งคู่ผสานกัน อลินก็รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

ชายหนุ่มคนดังกล่าวกลับต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเป้าหมายของเขากำลังจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง สองเท้าก้าวออกไปด้วยความเร็ว เรียกได้ว่าเขากำลังวิ่งตามเธอไป

หมั่บ!!

ข้อมือเล็กถูกคว้าไว้ได้จากด้านหลัง เจ้าตัวจึงหันขวับกลับมามองทันที

“นายเป็นใคร” เธอทำทีเป็นไม่รู้จักพลางสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเขา “ต้องการอะไร”

“ไปกับผมครับ”

“ฉันไม่มีทางไปกับคนแปลกหน้าหรอก” เท้าสองข้างก้าวถอยหลังออกมาสองก้าว เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเธอแล้วเขา

“นี่คุณ ไม่ได้ยินที่ลินพูดหรือไง” เพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่มเดินเข้ามาขวางระหว่างทั้งสองคน

“ผมมารับคุณลินครับ คุณช่วยหลีกทางด้วย” เขาตอบกลับไปอย่างสุภาพ

“แต่ลินบอกว่าไม่รู้จักคุณไง” เขาเชื่อคำที่อลินพูด

“ไปเถอะ อย่าไปสนใจเขาเลย” อลินตบไหล่เพื่อนผู้ชายเบา ๆ พลางหมุนตัวกลับ

พรึ่บ!!

เจ้าของร่างสูงไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะมีท่าทีต่อเขายังไง เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นวันนี้เขาต้องพาอลินไปกับเขาให้ได้ และเมื่อพูดกันดี ๆ ไม่ฟังเขาก็ต้องออกแรง

“ว้าย!!...ปล่อยฉันลงนะ” เธอพยายามดิ้นเมื่อโดนเขาอุ้มขึ้นจนตัวลอย

“อยู่นิ่ง ๆ สิ เดี๋ยวก็ตกไปหรอก” เขาเตือนเธอ “ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง”

“นายก็ปล่อยสิ”

ณ.ภัตตาคาร

บนโต๊ะอาหารที่มีแขกผู้ใหญ่นั่งกันจนเต็มโต๊ะ เมื่อคนที่พวกเขารอมาถึง พนักงานจึงทยอยนำอาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟ

“มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมองหนูแบบนั้น” เธอแปลกใจเมื่อเห็นว่าทั้งพ่อ แม่ และลุงที่เป็นเพื่อนกับพ่อของเธอเอาแต่จ้องมองมาที่เธอ ราวกับต้องการจะพูดอะไร

“เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”

“เอาเลย นายพูดเลย” พ่อของอลินผายมือเพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนพูด

“ผมในฐานะพ่อของฟิลลิปส์ วันนี้จึงขอเป็นผู้ใหญ่สู่ขอหนูลินให้กับลูกชายคนโตของผม” เมื่อได้รับโอกาสเขาก็ไม่ได้ปล่อยให้หลุดลอย กลับคว้าโอกาสนั้นไว้แล้วทำออกมาได้ดี

เกร้ง!!

เสียงช้อนจากมือเล็กตกกระทบลงบนจาน เธอหันมองผู้เป็นพ่อ ก่อนจะชำเลืองมองบอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงประตู

“อะไรกันคะ” นี่เป็นเหตุการณ์แรกในชีวิตที่ทำให้เธอตั้งคำถามกับพ่อของเธอแบบนี้

“พ่อเห็นว่าลูกก็โตพอที่จะมีครอบครัวได้แล้ว”

“แต่ลินควรมีสิทธิ์เลือกเองหรือเปล่า” เธอพูดออกไปตรง ๆ “ลินกับพี่ฟิลลิปส์เคยพูดกันนับคำได้มั้ง อยู่ ๆ ให้แต่งงานกันมันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”

เธอรู้จักฟิลลิปส์มาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้สนิทกัน และเธอก็ลืมไปแล้วด้วยว่ามีผู้ชายคนนี้อยู่บนโลก จนได้มาเจอกันวันนี้นี่แหละเธอถึงรู้ว่าเขายังมีตัวตนอยู่

“งั้นหนูลินจะเอายังไง หมั้นหมายกันไว้ก่อนมั้ย” เพราะถูกใจเด็กสาวคนนี้มาตั้งนานแล้ว พ่อของฟิลลิปส์เลยคาดหวังไว้ว่าทั้งคู่จะต้องได้แต่งงานกัน

“หากน้องลินคิดว่ามันเร็วเกินไป เราศึกษากันไปก่อนก็ได้นะ” ฟิลลิปส์พูดแทรกขึ้น ภาวนาให้หญิงสาวตรงหน้ารับข้อเสนอของเขา “เราตกลงกันได้”

หญิงสาวนิ่งไปก่อนจะชำเลืองมองบอดี้การ์ดหนุ่มที่เป็นคนพาเธอมาเจอกับสถานการณ์อึดอัดนี้อีกครั้ง ความหน้านิ่งของเขาทำให้เธอต้องขมวดคิ้ว นึกเจ็บใจที่เขาไม่ยอมบอกเธอล่วงหน้าว่าวันนี้เธอถูกพามาที่นี่ทำไม

“ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีธุระ” อเล็กซ์พูดแทรกขึ้น เพราะเขาไม่อยากมานั่งฟังอะไรที่ไร้สาระแบบนี้ ถึงแม้น้องสาวจะตอบตกลงหรือปฏิเสธออกไปก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขา

บทถัดไป