บทที่ 2 แพ้ให้ตลอด

บนรถที่มีบอดี้การ์ดหนุ่มคนสนิทเป็นคนขับเขาชำเลืองมองอเล็กซ์ผ่านกระจกมองหลังอีกหลายครั้งราวกับจะพูดอะไรออกมา

“นายว่ายัยลินจะยอมรับหมั้นป่าววะ” อเล็กซ์ถามออกไปด้วยความสงสัย

“ไม่รู้เหมือนกันครับ” ขณะตอบในใจก็ภาวนาขออย่าให้เธอตอบตกลงไป เขารู้สึกไม่ถูกชะตากับฟิลลิปส์เอาซะเลย ผู้ชายคนนั้นชอบมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ

“ฉันว่าถ้าโดนพ่อบังคับก็อาจจะได้หมั้นนั่นแหละ” อเล็กซ์ออกความคิดเห็น “จะว่าไปยัยลินก็โตแล้ว เหมาะแก่การแต่งงาน”

“ครับ”

“ครับอะไร”

“คุณอเล็กซ์ครับ”

“มีอะไร”

“เรื่องที่คุณท่านเคยพูดไว้ว่าจะให้ผมไปฝึกที่ประเทศจีน ผมคิดว่าตอนนี้ผมพร้อมแล้วครับ”

“อะไรกัน” เขาไม่อยากจะเชื่อหู “ก่อนหน้านี้นายก็เอาแต่นิ่งเงียบเหมือนไม่อยากไป ทำไมวันนี้ถึงอยากไปขึ้นมาล่ะ”

“ผมอยากไปเรียนรู้และพัฒนาฝีมือครับ”

“ตอนนี้นายก็มีฝีมือแล้วนี่นา เก่งกว่าลูกน้องเก่า ๆ ของพ่ออีก”

“ผมคิดว่าที่นั่นคงมีทักษะการต่อสู้ที่หลากหลาย ซึ่งผมสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้”

“สองปีเลยนะ” อเล็กซ์ถามย้ำ

“ครับ”

“แล้วแต่นายแล้วกัน” เมื่อเป็นความตั้งใจของบอดี้การ์ดหนุ่มคนสนิท อเล็กซ์ก็ไม่อยากขัด

อลิน หญิงสาวผู้มากความสามารถ เธอก้าวเข้ามาเป็นผู้บริหารในบริษัทซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัวด้วยวัยเพียง 26 ปี ตอนแรกที่เริ่มนั่งเก้าอี้ผู้บริหารอาจจะติดขัดเล็กน้อยเพราะเธอยังไม่มีประสบการณ์ แต่โชคดีที่มีพี่ชายคนโตอย่างอคิณคอยให้คำปรึกษา จนตอนนี้เธอเก่งและกลายเป็นที่ยอมรับจากพนักงานทุกคนในบริษัท

“เดี๋ยวมีประชุมเสนอโปรเจ็คนะคะคุณลิน” เลขาคนสนิทเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายกำลังเดินผ่านโต๊ะทำงานของเธอไป

“ค่ะคุณแหม่ม”

“พอดีดิฉันเห็นคุณลินทำท่าจะออกไปข้างนอก กลัวว่าคุณลินจะลืมค่ะ”

“ลินแค่จะออกไปร้านกาแฟด้านล่างเองค่ะ พอดีมีผู้ชายมาหา” ประโยคหลังเธอแอบกระซิบเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ฟัง

“ผู้ชายคิดถึงแน่เลยค่ะ”

เป็นที่รู้ดีว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เจ้านายของเธอเนื้อหอม มีชายหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อแวะเวียนมาเทคแคร์อยู่เป็นประจำ จึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าความรักของเจ้านายแสนสวยกำลังเบ่งบาน และจะมีข่าวดีในอีกไม่ช้า

“ทำนองนั้นค่ะ” เธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธออกไป “ไปนะคะ เดี๋ยวซื้อกาแฟมาฝาก”

“ไม่เป็นไรค่ะ” เลขาสาวรีบร้องห้าม

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ”

ณ.ร้านกาแฟใกล้ ๆ กับบริษัท สถานที่นัดหมายของวันนี้ อลินเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีชายหนุ่มรูปหล่อกำลังนั่งหันหลังให้เธออยู่ เพราะช่วงปีกว่า ๆ มานี้ทั้งคู่มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาก มากจนเธอจำได้แม้กะทั่งเส้นผมของเขา

ฟิลลิปส์ หนุ่มลูกครึ่งเยอรมันเจ้าของความสูง 189 เซนติเมตร อายุ 28 ปี เขามีน้องสาวหนึ่งคนอายุห่างกัน 3 ปี เพราะทั้งคู่ถูกผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายทาบทามให้หมั้นหมายกัน ทำให้หลังจากวันนั้นเธอและเขาจึงลองเปิดใจทำความรู้จักกันและกลายเป็นสนิทกันในที่สุด

“รอนานมั้ยคะ” เธอจับไหล่ทั้งสองข้างของชายหนุ่มจากด้านหลังพลางเอียงหน้ามอง

“นานแค่ไหนก็รอได้ครับ” เขาหันมายิ้มหวานให้เธอพร้อมกับคำพูดหวานหู

“ปากหวานแบบนี้ ลินว่าสาว ๆ เพียบแน่ ๆ เลยค่ะ” อลินหยิบแก้วน้ำที่เธอฝากสั่งก่อนที่จะลงมาขึ้นมาดูดอย่างคนอารมณ์ดี

“ว่าจะให้ช่วยเลือกพอดี”

“ลินจะฟ้องคุณลุง” เธอวางแก้วลง พร้อมก้นที่วางลงบนเก้าอี้ไม้

“โอ๋ ๆ อย่าทำกับพี่แบบนี้”

“เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ มาวันนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ” อลินพูดอย่างคนรู้ทัน

“รู้ใจ” เขาเอานิ้วนี้จิ้มไปกลางหน้าผากของเธอเบา ๆ อย่างหยอกล้อ “จะมาชวนไปเที่ยวที่เขาใหญ่สักสามวัน”

“ได้สิคะ”

“ไม่คิดก่อนเหรอ”

“ทำไมต้องคิดล่ะ พี่มีแผนอะไรที่ลินไม่รู้หรือเปล่า”

“มีเรื่องอะไรที่น้องลินไม่รู้บ้างละครับ” เขาจับมือสองข้างของเธอมากุมไว้ “พี่กลัวว่าน้องลินจะลำบากใจก็แค่นั้น”

“เรายังสนิทกันไม่มากพอสินะ พี่ถึงได้คิดแบบนี้”

“ก็มีบ้างแหละ คนเราไม่ว่าจะคบกันในสถานะไหนก็ต้องมีความเกรงอกเกรงใจกันบ้าง”

“ดีค่ะ แบบนี้ค่อยคบกันได้นาน ๆ หน่อย” เธอเอื้อมมือไปตบไหล่คนตรงหน้าเบา ๆ

“เมื่อไหร่จะเกรงใจพี่บ้าง”

“กำลังพยายามอยู่ค่ะ”

“ฮ่า ๆ...น่ารักแบบนี้ไง พี่เลยแพ้ทุกที” ฟิลลิปส์หัวเราะชอบใจ เขาชอบความตรงไปตรงมาของเธอ ไม่เสียแรงที่ไว้วางใจให้เธอรับรู้เรื่องสำคัญของเขา

“แพ้ให้ตลอดนะคะ”

“ฮ่า ๆ ครับ ๆ ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อใจพี่”

“มันก็มีแวปนึงนะคะ ที่คิดว่าเหมือนโดนหลอก”

“ใครจะกล้า” ฟิลลิปส์พูดเสียงสูง

“นั่นไง”

“เอาน่า คราวนี้จริงจังแล้วครับ วันเสาร์นี้พี่ไปรับที่บ้านนะ”

“ได้ค่ะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป