บทที่ 4 ความลับ
หมั่บ!!
คิงส์กระชับกอดอลินให้แน่นขึ้น เขาเอามือดันหลังจนหน้าอกของเธอแนบกับอกแกร่งของเขา ที่ทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องอกของเธอ
“อื้อ ปล่อยนะคนบ้า” เธอโวยวายไม่หยุดแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คิงส์ทำตามคำสั่งของเธอ
งับ!!
ปากเล็กอ้าออกพลางงับลงไปบนซอกคอของคิงส์จนเกิดเป็นรอยฟัน แม้จะเจ็บแต่คิงส์ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาทำได้แค่ขบกรามแน่น และกระชับกอดร่างเล็กให้แน่นขึ้นเพื่อไม่ให้ตกลงไป
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันอ้าปากค้าง ใครจะไปคิดว่าอลินจะทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก และเมื่อมองหน้าของคิงส์ในตอนนี้คงคาดเดาความเจ็บปวดนั้นได้ไม่ยากเลย
“มีอะไรกัน” เสียงของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ทำให้กลุ่มพนักงานหันไปมองพร้อมกัน ทุกคนรู้จักอเล็กซ์ในฐานะพี่ชายของอลินและเจ้าของผับแห่งนี้ เมื่อเห็นว่าอเล็กซ์กับคิงส์พูดคุยกันพวกเขาจึงรับรู้ได้ว่าคิงส์กับอลินคงรู้จักกัน คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก
“ลินนะสิ เมาหมดสภาพเลย” นี่คือสรรพนามที่เขาใช้เรียกอลินเวลาอยู่กับอเล็กซ์ แต่ก็ไม่บ่อยนักที่ทั้งคู่จะพูดคุยกันถึงเรื่องของอลิน พูดได้ว่าไม่มีเรื่องอะไรของอลินให้คุยมากกว่า
“พาไปนอนห้องฉันก่อน” เขาออกคำสั่งก่อนจะหันไปหากลุ่มพนักงาน “พวกคุณก็ตามสบายเลย คืนนี้ผมเลี้ยงเอง”
“ขอบคุณค่ะ/ครับ” เสียงขอบคุณถูกเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ทุกคนจะเดินกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ด้านคิงส์หลังพาอลินเข้าไปยังห้องของอเล็กซ์ เขาก็ค่อย ๆ วางเธอลงบนที่นอน ก่อนจะจัดแจงท่านอนให้เธอ แต่ขณะที่เขาจับผ้าห่มเพื่อจะห่มให้เธอนั้น เขากลับโดนมือเล็กสองข้างจับแขนของเขาไว้แล้วดึงเขาเข้าหาตัว
“อ้วก!”
เธออ้วกจนเลอะเต็มเสื้อสูทของคิงส์ ไม่เพียงเท่านั้นยังเลอะเสื้อของเธอและที่นอนของอเล็กซ์ด้วย
“เด็กคนนี้ชักจะเริ่มเหลวไหลแล้วสิ” อเล็กซ์ที่เข้ามาทันเห็นพอดี เขาบ่นน้องสาวเบา ๆ นึกอยากตีก้นเพื่อสั่งสอนเหมือนที่พ่อเคยทำกับเขาเมื่อตอนเป็นเด็ก
“เอาไงดีครับ”
“พากลับไปนอนบ้านไม่ได้หรอกสภาพนี้ รับรองโดนพ่อบ่นหูชาแน่” ขณะพูดก็ยังยืนเอามือกอดอกแล้วพิงขอบประตูเหมือนกับว่าเหตุการณ์ตรงหน้าปกติทุกอย่าง
“คงไม่ได้ยินหรอก เมาหมดสภาพแบบนี้” คิงส์เข้าใจว่าอเล็กซ์หมายถึงอลิน
“ด่าฉัน ไม่ได้ด่ายัยลิน” หลายครั้งที่พ่อมักโอ๋น้องสาวแล้วพาลมาว่าเขาที่ดูแลน้องไม่ดี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ละเลยน้องสาวจริง ๆ นั่นแหละ เพราะเขามักปล่อยให้คิงส์ดูแลอลินแทนเขาเสมอ มีช่วงหลัง ๆ นี่แหละที่ทั้งคู่เหมือนจะไม่คุยกัน เขาเองก็ไม่เคยถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“จะทำยังไงดีละทีนี้”
“เดี๋ยวฉันให้พนักงานผู้หญิงขึ้นมาเปลี่ยนผ้าให้ก่อน ส่วนนายก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพายัยลินไปเปิดห้องในโรงแรมแถว ๆ นี้พลาง ๆ พรุ่งนี้เช้าค่อยพาไปส่งบ้าน” อเล็กซ์ก็ยังคงปล่อยให้คิงส์ดูแลอลินแทนเขาเช่นเคย
“พาไปทิ้งไว้เหรอครับ”
“นายก็อยู่เฝ้าสิ”
“เอ่อ”
“มีปัญหาอะไร ถ้ามีฉันจะให้คนอื่นไปแทน” อเล็กซ์รู้ดีว่าถ้าพูดออกไปแบบนั้น คิงส์ไม่มีทางมีปัญหาแน่นอน
“ไม่มีครับ ผมพาไปเอง”
หลังจากนั้นไม่นานคิงส์ก็พาอลินไปเปิดห้องในโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากผับของอเล็กซ์มากนัก
หลังวางอลินบนที่นอนแล้วนั่งมองเธอพักใหญ่ ขณะที่เขากำลังลุกขึ้นมือเล็กก็จับไปที่ข้อมือใหญ่ของเขา
“นี่ จะทิ้งฉันไว้คนเดียวงั้นเหรอ”
“อะไร” อเล็กซ์หันไปมองคนที่ลุกขึ้นนั่งตอนไหนแล้วก็ไม่รู้ เหมือนเธอพยายามทรงตัวไม่ให้ล้มลงไป อาการสลึมสลือนั้นบ่งบอกว่าเธอยังไม่ได้สติเท่าไหร่
“ถ้าทิ้งฉันอีกนะฉันจะตีหัวนาย นี่แน่ะ” ไม่พูดเปล่าเธอยังเอามือสองข้างขย้ำผมของเขาแล้วเขย่าไปมา
“โอ๊ย!! ทำไรเนี่ย” อเล็กซ์ร้องเสียงหลงพลางเอามือจับข้อมือทั้งสองข้างของอลินแล้วรวบไว้ด้วยมือข้างเดียว
“นายมันไม่น่ารักเลยสักนิด” เธอว่าเขา
“ใครจะไปสู้คุณฟิลลิปส์ของคุณได้ล่ะ”
“พี่ฟิลเหรอ คิก ๆ ฉันมีความลับกับเขา”
สรรพนามที่ถูกเรียกอย่างสนิทสนมทำให้คิงส์ขมวดคิ้ว แม้จะรู้ว่าทั้งคู่สนิทกันแต่เขาก็รู้สึกไม่ชอบใจเอาซะเลย
“ความลับอะไร”
“ความลับก็คือความลับสิ”
“...”
“นายรู้มั้ย” ขณะพูดนิ้วเรียวก็เกลี่ยไปตามกรอบหน้าของบอดี้การ์ดหนุ่ม โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังทำท่ายั่วยวนเขา “คนเมาน่ะมักจะทำอะไรแปลก ๆ พอตื่นมาก็จะจำไม่ได้ สนุกดีนะว่ามั้ย”
“นอนเถอะ เมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้ว” คิงส์รู้ว่าที่เธอพูดจาเพ้อเจ้อแบบนี้เพราะกำลังเมา เขาจึงไม่อยากใส่ใจกับคำพูดพวกนั้นมากนัก เขาจับไหล่สองข้างของอลินแล้วผลักเบา ๆ ให้เธอนอนลงไป
