บทที่ 3 บทที่ 2
บทที่ 2
"นายพักอยู่แถวนี้เหรอ?" ปลายฝันยื่นหน้ามาถาม เธอตะโกนแข่งกับเสียงลม โดยที่ไม่รู้ว่าที่ถามไปชายหนุ่มจะได้ยินหรือเปล่า แต่ทว่าเขากลับเอี้ยวหน้ากลับมา แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
'ขรึมดีจริงๆ แต่ก็ดีที่ยังมีน้ำใจไม่ทอดทิ้งผู้หญิงอาภัพรักอย่างเรา อึก...ถึงห้องเมื่อไหร่ฉันจะนอนร้องไห้ให้สาแก่ใจเลยคอยดู'
ขณะที่เธอคิดในใจ น้ำตาใสๆ ก็เอ่อคลอเบ้าโดยไม่รู้ตัว ความผิดหวังมันยังฉุดรั้งให้เธออยากจะร้องไห้ออกมา เพื่อให้โล่ง
"เลี้ยวตรงนี้เลย แล้วก็ขับไปอีกนิดก็ถึงแล้วค่ะ" ปลายฝันบอกทางชายหนุ่ม จนกระทั่งเขาขับรถมาจอดเทียบริมฟุตปาธหน้าคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ปลายฝันค่อยๆ ก้าวลงจากรถอย่างยากลำบาก
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง เอ่อ...เสื้อนี่เดี๋ยวฉันซักแล้วเอาไปคืนนะคะ แล้วเดี๋ยวยังไงฉันโทรไปหาคุณ?" ชายหนุ่มเงียบกริบ เขาไม่แม้จะเปิดหน้ากากบังลมขึ้นด้วยซ้ำ
"ฉันปลายฝันนะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" ร่างบางยื่นมือไปตรงหน้า ทว่าชายหนุ่มกลับหันหน้าหนีแล้วถอดหมวกกันน็อกออกจากศีรษะ เขายกมือขึ้นมาเสยผมลวกๆแล้วจ้องหน้าปลายฝัน ใบหน้าคมคายไม่แสดงความรู้สึกใด จนคนตัวเล็กทำตัวไม่ถูก
"บอกหน่อย ฉันควรต้องเจอเธออีกไหม?"
"..."!
"ฉันไม่ได้มีพระคุณกับเธอ ไม่ต้องตอบแทนบุญคุณ ส่งเสื้อมา" มือหนายื่นไปตรงหน้าเพื่อขอแจ็กเก็ตคืนจากปลายฝัน ทว่าหมอสาวกลับยกเสื้อแจ็กเก็ตขึ้นมากอดไว้ แล้วก้าวถอยหลัง
"ไม่เอาน่า เดี๋ยวฉันซักไปคืนให้ค่ะ ไม่แอบเอาไปขายหรอก..ฉันก็พอรู้ว่าเสื้อตัวนี้ราคาแพงมาก ขายมือสองก็ยังได้ราคาอยู่..." เธอหยุดพูดแล้วมองหน้าชายหนุ่มที่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เล่นด้วย
"ฉันล้อเล่นค่ะ เอาเป็นว่าฉันจะซักไปคืนแล้วกันนะ พรุ่งนี้ถ้าคุณว่าง..ฉันอยากจะตอบแทนคุณ"
"ไม่ว่าง" เขาตอบกลับสั้น แล้วยกหมวกกันน็อกขึ้นมาครอบศีรษะอีกครั้ง บิดรถมอเตอร์ไซค์เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณจนปลายฝันกลัวว่าจะรบกวนคนอื่น เธอฉีกยิ้มแห้งๆ ให้ชายหนุ่มก่อนที่เขาจะขับรถออกไปด้วยความเร็ว
"เฮ้อ~" ทันทีที่ไร้ซึ่งร่างหนาของอีกคน ร่างบางก็ทรุดตัวนั่งลง เธอกอดเสื้อแจ็กเก็ตเขาไว้พลางพ่นลมหายใจออกเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"ซี๊ด...แสบ อุ้ย.." ปลายฝันเดินกระเผลกๆ เข้าไปด้านใน และเดินตรงไปยังลิฟต์ ทว่าในจังหวะที่เอื้อมมือไปกดลิฟต์มือหนาของใครบางคนก็เอื้อมมาจับมือเธอไว้
"พี่กิต!" ใบหน้าสวยบูดบึ้งทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใคร ปลายฝันถอยหลังไปสองก้าว เว้นระยะห่างจากชายหนุ่ม เธอยกมือขึ้นมาห้ามเมื่อกิตติจะเข้ามาหา
"มาทำไม! ทำกับปลายไว้เจ็บแสบแล้วยังจะมีหน้ามาหาปลายอีกเหรอ!" หญิงสาวตวาดลั่นอย่างไม่พอใจ เพื่อให้พนักงานตรงล็อบบี้ได้ยินด้วย เพราะเธอกลัวว่ากิตติจะทำร้าย
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะปลาย ฟังพี่ก่อน" กิตติพยายามจะจับมือปลายฝัน แต่ทว่าปลายฝันกลับเบี่ยงตัวหลบ เธอป้องปากตะโกนเรียกพนักงาน
"อย่ามายุ่งกับปลาย พี่มันเห็นแก่ตัวหน้าด้านไร้ยางอาย!" ปลายฝันตะเบ็งเสียงใส่จนปากคอสั่น ถ้อยคำหยาบคายที่ไม่เคยพูดกับใครมาก่อนถูกพ่นออกไปมากมาย ในขณะที่กิตติยืนให้เธอด่าโดยไม่ตอบโต้ใดๆ
"ผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างพี่ ไม่สมควรที่จะได้รับความรักจากปลายเลย ปลายรักพี่มากแค่ไหนพี่กิตก็รู้ แต่พี่กิตก็เลือกที่จะหักหลังปลาย! เอาความรักความเชื่อใจที่ปลายให้มาย่ำยี" ปลายฝันมองชายหนุ่มด้วยความเกลียดชัง
"แต่พี่รักปลายนะ พี่แต่งงานกับลูกน้ำมันเป็นแค่หน้าที่เท่านั้น"
"หึ!" ปลายฝันแค่นหัวเราะอย่างเย้ยหยัน เธอมองเขาด้วยสายตาสมเพชและรังเกียจที่ชายหนุ่มกล้าที่จะแสดงความเห็นแก่ตัวกับเธอ
"น่าสมเพช น่ารังเกียจที่สุด!" หญิงสาวบิดยิ้มเหยียดพร้อมกับไล่สายตามองชายหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
"อย่าพบเจอกันอีกเลยค่ะ ถึงปลายจะเจ็บยังไง แต่ปลายก็ยังมีความเป็นมนุษย์ ปลายไม่ทำให้เด็กที่กำลังจะลืมตาดูโลกต้องกำพร้าพ่อหรอก กลับไปหายัยลูกน้ำซะ อย่าให้ปลายต้องเกลียดพี่ไปมากกว่านี้เลย ความสัมพันธ์เรามันจบลงตั้งแต่วันที่พี่กิตคิดที่จะนอกใจปลายแล้ว!" ปลายฝันก้าวเข้าไปในลิฟต์ เธอเชิดหน้าขึ้น มองอดีตแฟนหนุ่มด้วยสายตาเฉยชาไร้ความรู้สึก
"เดี๋ยวปลาย ฟังพี่ก่อนโอ๊ย!!" กิตติร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกรองเท้าส้นสูงเตะเข้าที่หน้าแข้งอย่างแรง ปลายฝันเหยียดยิ้มในจังหวะที่ประตูลิฟต์กำลังเลื่อนปิด
"ฟู่ว~" หญิงสาวพ่นลมหายใจออกอย่างหนัก มือบางยื่นไปจับชายชุดราตรีขึ้นเพื่อดูแผลที่หัวเข่า และเสื้อแจ็กเก็ตหนังราคาแพงยังพาดอยู่ที่แขนเธอ
"ผู้ชายอะไรกลิ่นตัวหอมชะมัด" มุมปากบางผุดยิ้มน้อยๆ หลังจากได้กลิ่นน้ำหอมผสมกับกลิ่นเหงื่อจางๆ จากเสื้อแจ็กเก็ตหนังราคาแพงที่เธออาสาเอามาซัก
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด เรียวขาสวยก็ก้าวออกไปอย่างยากลำบาก ใบหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บ ปลายฝันค่อยๆ กดรหัสแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องพักสุดหรูหรา ที่นานๆ ครั้งจะได้เข้ามาพัก
"..." ร่างบางทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาอย่างหมดแรง ใบหน้าสวยเริ่มบูดบึ้ง ก่อนที่เธอจะปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก ด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่างที่อดกลั้นมานานถูกระบายออกมา
"ชีวิตน้อยๆ ของฉันจะไม่มีความสุขกับคนอื่นบ้างเหรอ..ขอกลับไปเป็นเด็กได้ไหม เด็กที่ยังไม่รู้จักว่าความรักมันเป็นยังไง..อึก..อ่า~" กำปั้นน้อยๆ ฟาดลงบนโซฟาอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ ให้รู้สึกดีขึ้น
"ฉันต้องหยุดร้องไห้ก่อน..แต่..แต่มันหยุดไม่ได้..ฮื้อ~" เธอปล่อยโฮออกมาอย่างหนักหน่วง จนหมอนอิงที่ใช้รองศีรษะเปียกเป็นวงกว้าง ความเสียใจที่เข้ามาแทนที่ในเวลานี้ ทำให้เธอลืมแม้กระทั่งบาดแผลที่หัวเข่าและมันยังเจ็บปวด
"ฉันจะไม่เชื่อใจใครอีก ไม่มีก็ไม่ต้องใช้! ปล่อยให้มันตันไปเลย!" เธอค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง ใช้หลังมือปาดเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มนวลเบาๆ มือบางจับจี้สร้อยคอขึ้นมา
"อยู่กับฉันมาตั้งกี่ปี! ฉันยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนให้มา แต่ฉันก็ไม่ถอดแกนะ.." ปลายฝันลุกขึ้นไปถอดชุด และหยิบกล่องอุปกรณ์ทำแผลมา เธอค่อยๆ ทำแผลให้ตัวเองจนเสร็จ แล้วเดินไปหยิบเสื้อแจ็กเก็ตหนังไปซัก
"มีชื่อด้วยเหรอ" ดวงตากลมโตโอบล้อมด้วยแพขนตางอนยาวจ้องตัวหนังสือที่คอเสื้อด้านใน ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน
"ไลเกอร์ ไบรท์?"
