บทที่ 5 บทที่ 4

บทที่ 4

@โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง

"..." หญิงสาวเอียงใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ เล็กน้อยเพื่อดูตัวเองในกระจกเงาที่ติดอยู่ในตลับแป้ง ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากัน เมื่อพอใจแล้วจึงเก็บลิปสติกและแป้งตลับลงในกระเป๋าถือใบเล็กข้างกาย

"ทำไมยังไม่มาอีกนะ" ปลายฝันพูดกับตัวเองเบาๆ เธอยกมือขึ้นมาเท้าคางรอชายหนุ่มอยู่ครู่หนึ่ง และไม่นาน ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนก็ก้าวเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะอาหารที่จองไว้

"..." ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองรองเท้าที่ถูกขัดจนเงาวับเห็นเงาสะท้อนชัดเจนอย่างตื่นเต้น เธอค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้นไปและหยุดสายตาไว้ที่ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม เขาอยู่ในชุดเสื้อสูทสีดำเข้ม ผูกเนกไทอย่างเป็นทางการ ขณะที่เธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมและกระโปรงลายลูกไม้สีขาว ซึ่งดูก็รู้ว่าเธอเพิ่งจะลงเวรมา

"ชะ..เชิญนั่งค่ะคุณไลเกอร์ ไบรท์" หญิงสาวฉีกยิ้มทักทาย พร้อมกับผายมือไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มเหลือบตามองรอยยิ้มบนใบหน้าสวยเพียงนิด แล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้าม ขณะนั้นหางตาของปลายฝันก็เหลือบเห็นชายฉกรรจ์อีกสองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะอาหารเธอนัก

"เพื่อนเหรอคะ มานั่งด้วยกันก็ได้นะ" ปลายฝันหันไปยิ้มให้สองบอดีการ์ดหนุ่ม ทว่าพวกเขากลับทำหน้าขรึมและไม่ตอบรับรอยยิ้มทักทายของเธอเลย คนตัวเล็กแสร้งยกมือขึ้นมาจับปอยผมทัดหูแก้เก้อ

"ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ" พนักงานเสริฟ์สาววางจานสเต๊กเนื้ออย่างดีลงตรงหน้าปลายฝัน และตรงหน้าชายหนุ่ม หญิงสาวทำหน้าเลิ่กลั่กมองหน้าชายหนุ่มและก้มมองจานสเต๊กตรงหน้า

"ฉันยังไม่ได้สั่งอาหารไว้เลยนะ หรือว่าคุณ?"

"ดื่มไวน์ไหม"

"อะไรนะคะ?"

"เอาไวน์มา" มาเฟียหนุ่มเหลือบตามองหญิงสาวเพียงนิด เขาลงมือหั่น สเต๊กเนื้อวากิวที่ย่างพอสุกเข้าปาก ขณะที่ปลายฝันทำหน้างุนงงกับการกระทำของชายหนุ่ม

บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารถูกกดดันด้วยความเงียบของทั้งสองคน หมอสาวพ่นลมหายใจออกเบาๆ ด้วยความอึดอัด เธอหยิบแก้วไวน์รสฝาดจิบเล็กน้อยและหั่นสเต๊ก

กึก!

"..." มาเฟียหนุ่มเหลือบตามองหญิงสาวเมื่อเสียงมีดหั่นกระทบกับจาน และดูเหมือนว่ามันจะสร้างความรำคาญให้ไบรท์ไม่น้อย เขาวางช้อนและมีดหั่นสเต๊กลง แล้วหยิบแก้วไวน์มากระดกเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว

"ไวน์ที่นี่รสชาติดีนะคะ"

"..."

"เอ่อ..คุณชื่อไลเกอร์ ไบรท์เหรอคะ?" ปลายฝันพยายามชวนชายหนุ่มคุย เพื่อไม่ให้บรรยากาศในโต๊ะอาหารไม่อึดอัดจนเกินไป ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจคำถามของเธอ เขากวักมือเรียกพนักงานเสริฟ์มารินไวน์หน้าตาเฉย

"...!!" แต่ในจังหวะที่เขาจ้องมองแก้วไวน์ในขณะที่พนักงานเสริฟ์กำลังรินไวน์สีน้ำตาลแดงลงในแก้วไวน์ทรงสูงนั้น เขาก็ตวัดสายตามองเธอซึ่งเธอก็กำลังจ้องมองเขา สายตาของทั้งคู่สบกันโดยบังเอิญ เป็นปลายฝันที่รีบเสมองไปทางอื่น พร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบแก้เก้อ

"อ๋อ! นี่ค่ะเสื้อ ฉันซักมาคืนแล้วค่ะ" เธอยื่นถุงกระดาษใส่เสื้อแจ็กเก็ตหนังให้ชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร มือหนาหยิบถุงกระดาษสีสันสดใสมา เปิดดูเสื้อแจ็กเก็ตและตรวจดูความเรียบร้อย เมื่อไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาก็เก็บลงถุงแล้วเรียกลูกน้องรับถุงไป

"ฉันมีคำถามค่ะ ขอถามคุณไลเกอร์ ไบรท์ได้ไหม"

"ไบรท์"

"..."?

"เรียกไบรท์" ปลายฝันพยักหน้าเข้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธออมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามชายหนุ่ม

"คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นหมอหรือพยาบาล"

"..." มาเฟียหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แล้วจ้องหน้าหญิงสาวตรงๆ ขณะที่อีกคนรอฟังคำตอบจากปากเขา

"ฉันได้กลิ่นเบตาดีนจากตัวเธอ"

"..."! ทำหน้าตกใจจนเผลอร้องอุทานออกมา ปลายฝันยกแขนขึ้นมา สูดดมกลิ่นเบตาดีนที่ชายหนุ่มว่าจากเสื้อผ้าทว่าเธอต้องทำหน้าฉงน เพราะไม่ได้กลิ่นอะไรเลย นอกจากกลิ่นน้ำหอมที่เธอฉีดมา

"ก็ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลยนิ คุณจมูกดีจัง" ปลายฝันทำหน้าปลาบปลื้ม และเอ่ยชมชายหนุ่มจากใจจริง โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พูดออกไปกำลังทำให้ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด

"มื้อนี้ฉันเลี้ยงคุณเองนะคะ เติมไวน์อีกไหมคะ" ปลายฝันยื่นแก้วไวน์ตัวเองไปตรงหน้า หมายจะชนแก้วกับชายหนุ่ม แต่ทว่าเขากลับยกแก้วไวน์ตัวเองขึ้นมากระดกเข้าปากจนหมดแก้ว ปลายฝันที่เห็นแบบนั้นก็ทำตามเขา

สองหนุ่มสาวนั่งจิบไวน์เพลิน ภายใต้บรรยากาศแสงเทียนที่ห้องอาหารหรูหราภายในโรงแรง

"..." ปลายฝันรวบผมมัดตรึงไว้ตรงท้ายทอย ไวน์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ร่างกายเธอร้อนวูบวาบ ส่งผลให้ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ

"ฉันขอตัว"

"เดี๋ยว!" เสียงหวานร้องห้ามชายหนุ่ม ปลายฝันกวักมือเป็นเชิงออกคำสั่งให้ไบรท์นั่งลง และหยิบแก้วไวน์ของตัวเองยื่นไปตรงหน้า

"ชนแก้วหน่อยสิ ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมคะคุณไบรท์"

"..." ยกมือขึ้นมากอดอก จ้องหน้าหญิงสาวเงียบๆ ปลายฝันคลี่ยิ้มบางๆ แล้วหยัดกายลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เธอก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าคมคาย

"ไม่ต้อง" ไบรท์ยกมือขึ้นห้ามลูกน้องที่กำลังจะเข้ามาเอาตัวปลายฝันออกห่างจากผู้เป็นนาย หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ส่งยิ้มให้กับลูกน้องทั้งสองคนอย่างเป็นมิตร

"พวกคุณไม่ใช่มาเฟียใช่ไหมคะ คงไม่น่าใช่หรอกเนอะ...ฉันน่ะ โคตรเกลียดพวกที่ชอบเอาเปรียบคนอื่น ชอบวางอำนาจ ชอบทำร้ายร่างกายคนไม่มีทางสู้!"

"แล้วเกี่ยวอะไรกับมาเฟีย?" ไบรท์ยกขาไขว่ห้าง กอดอกถามปลายฝัน ขณะที่รอคำตอบจากคนตัวเล็กเขาก็จิบไวน์ด้วย

"ก็ไม่ชอบไง ฉันน่ะ! เคยเห็นพวกมาเฟียทำร้ายผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นพ่อของฉันเอง..ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก" ปลายฝันนั่งลงกับที่ เธอยกมือขึ้นมาเท้าคาง สติสัมปชัญญะเริ่มเลื่อนลอยจนเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด

"ฉันจำติดตาเลยค่ะ พวกมันใช้ปืนตีหน้าพ่อฉันเพราะพ่อฉันติดหนี้พวกมันหนึ่งหมื่นบาท เพราะต้องเอามาจ่ายค่าเทอมให้ฉัน ความรู้สึกตอนนั้นฉันกลัวเอามากๆ เลยค่ะ มองไปทางไหนก็ไม่มีทางออกเลย จนกระทั่งพวกมันซ้อมพ่อจนพอใจแล้วพวกมันก็เดินออกไป ทิ้งให้พ่อฉันกับฉันอยู่ด้วยความเจ็บปวด" ปลายฝันใช้นิ้วชี้วนตรงปากแก้วไวน์ พลางถอนหายใจเบาๆ

"พอโตมาฉันก็ตั้งใจเรียนให้สมกับค่าเทอมที่เสียไป จนกระทั่งฉันเรียนจบมอ.ปลาย ฉันสอบติดแพทย์ค่ะ และตอนนั้นก็ได้ใช้เงินจำนวนมาก ฉันเลยสอบชิงทุนเพื่อให้ได้เรียนต่อ...แต่พ่อฉันยังไม่ได้เห็นความสำเร็จฉันเลย พ่อก็เสียก่อน."

"แม่ไปไหน"

"แม่เสียตอนที่ฉันได้สองขวบค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียว..ใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด พอจะมีความรักก็ถูกหักหลังซะได้ เฮ้อ~" หญิงสาวหยิบขวดไวน์ราคาแพงมากระดกเข้าปากหลายต่อหลายอึก โดยที่มีสายตาของไบรท์จ้องมองตลอด

"..." มาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาตั้งท่าจะเดินออกไปแต่ก็ช้ากว่า เมื่อปลายฝันจับมือหนาไว้

"จะไปแล้วเหรอคะ" ไบรท์เอี้ยวหน้ามามองเจ้าของน้ำเสียงสั่นเครือ เขาเห็นแววตาของเธอที่สะท้อนออกมามีแต่ความเสียใจและผิดหวังจนปิดไม่มิด เขาหันไปมองหน้าลูกน้องคนสนิท แล้วนั่งลงเหมือนเดิม

"ขอโทษนะคะที่ทำให้บรรยากาศในโต๊ะอาหารมันน่าเบื่อ ขอโทษจริงๆค่ะ"

"เล่าเรื่องของเธออีกสิ ให้เวลาจนกว่าไวน์ขวดนั้นจะหมด" เขาชี้นิ้วไปที่ขวดไวน์ที่ตั้งอยู่ข้างปลายฝัน แล้วดึงสายตากลับมาจ้องหน้าหญิงสาว

"ฉันเพิ่งอกหักมาค่ะ ขอโทษด้วยที่ฉันเล่าเรื่องบ้าบอให้คุณฟัง แต่ฉันไม่มีใครจริงๆ...บางทีก็แค่อยากพูดให้ใครสักคนฟัง แค่นั่งฟังแค่นั้น..จริงๆนะ" น้ำตาใสๆ เริ่มเอ่อคลอเบ้า เธอกระดกไวน์เข้าปากอึกใหญ่ ใช้หลังมือเช็ดไวน์ออกจากมุมปากลวกๆ

"วันที่ฉันขอให้คุณพาออกมาจากโรงแรมนั่น ฉันเพิ่งไปพังงานแต่งของแฟนเก่ากับเพื่อนรักมาค่ะ ฉันโดนคนที่รักหักหลังอย่างไม่ใยดีเลย เพื่อนรักที่คบกับมาตั้งแต่สมัยเรียนมอ.ปลายของฉัน แอบกินกันกับแฟนฉัน พวกเขาแอบทำเรื่องแบบนั้นลับหลังฉัน..."

"..." ไบรท์เลิกคิ้วขึ้น รู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอแต่มันเป็นความรู้สึกแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะฉายแววเฉยชา

"เราสองคนคบกันมาหนึ่งปีค่ะ แฟนฉันเขาเป็นสุภาพบุรุษมากๆ แต่ด้วยหน้าที่ของฉัน ทำให้เราสองคนเริ่มมีปัญหากันเพราะฉันเป็นหมอ ทุกอย่างก็ต้องมาก่อนเสมอ..บ้าจริงฉันนี่พูดอะไรไม่รู้ คุณไบรท์ไม่น่ามารับฟังเรื่องไร้สาระเลยค่ะ"

"ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว" เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาสุดๆ ทำเอาปลายฝันนิ่งไปกับคำพูดของชายหนุ่ม เธอกระดกไวน์เข้าปากรวดเดียวหมดขวด

"..." หางตาคมกริบเหลือบไปเห็นแสงระยิบระยับบางอย่าง เขาถือวิสาสะเปิดคอเสื้อของปลายฝันจนได้เห็นสร้อยเงินเส้นเล็กๆ และมีจี้เล็กๆ ประดับด้วยเพชรที่กำลังเล่นไฟจนเกิดแสงระยิบระยับ

"เธอเอาสร้อยมาจากไหน!" ชายหนุ่มกดเสียงต่ำถามหญิงสาวที่อยู่ในอาการเมามาย ปลายฝันปัดมือไบรท์ออกแล้วผุดลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล เธอชี้หน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง

"อย่ายุ่งกับสร้อยของฉัน!"

"ฉันถามว่าเธอเอาสร้อยมาจากไหน"

"..." ริมฝีปากอวบอิ่มเบะคว่ำเมื่อชายหนุ่มตะคอกเสียงถาม เธอเอามือกุมจี้เพชรไว้แน่น เธอจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ขณะที่ไบรท์ถอนหายใจเบาๆ หัวใจแกร่งเต้นแรงระรัวจนคล้ายว่ามันจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้า

'บ้าจริง คงไม่ใช่เธอนะยัยทับทิมกรอบ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป