บทที่ 2 สัมภาษณ์พิเศษกับท่านประธาน
ตอนที่ 1
ณ บริษัทยักษ์ใหญ่
หลังจากที่ได้รับการประกาศรับสมัครพนักงานพิเศษเพียงแค่ 2 ที่สำหรับการรับสมัครพนักงานผมซึ่งเป็นนักศึกษาจบใหม่สดๆร้อนๆเมื่อ 3 เดือนที่แล้วและเวลาที่ผ่านมาผมก็เอาแต่ยื่นใบสมัครงานไปเกือบทุกที่ของกรุงเทพแต่กับที่นี้ผมทำไมพึ่งมาเจอกันละ? แต่ก็ช่างมันเถอะขอแค่รับผมเข้าทำงานผมก็จะทำงานให้ดีที่สุด
"เราก็ทำได้ สู้!"ร่างบางสะโพกอวบในชุดเชิ้ดสีขาวกับกางเกงสแล็ตสีดำของผมแต่งตัวตามมาตรฐานของพนักงานออฟฟิศพร้อมกับกระเป๋าเป้ วันนี้เป็นวันที่ทางบริษัทโทรเรียกให้ผมมาสัมภาษณ์กับเขาก่อนก่อนที่จะผ่านแล้วจึงต้องเข้าสัมภาษณ์กับท่านประธาน
ร่างอวบของผมเดินเข้ามาในบริษัทอย่างกล้าๆกลัวๆทุกอย่างมันน่าแปลกตาแปลกใจกับสถานที่ใหม่ ผมไม่คุ้นชินเลยแฮะแต่น่าแปลกทำไมคนที่มาสมัครกับรูปร่างที่กลายๆกับผมไปซะทุกอย่างทั้งเอวเล็กบาง สะโพกที่อวบใหญ่ ส่วนสูงที่ไม่ถึง 170 กันทั้งนั้นไหนจะพนักงานในบริษัทตั้งแต่ที่ผมเดินเข้ามาผมเห็นแต่ชายหนุ่มที่เดินไปเดินมา
ปึก
"อ๊ะ!ขะ..ขอโทษครับผมไม่ทันได้มองทาง"แต่เหมือนว่าผมจะดูเพลินไปหน่อยจนไม่ได้มองทางทำให้ร่างของผมชนเข้ากับร่างกายแกร่งของชายหนุ่มร่างสูง
"อืม..มาสมัครงานสินะ"ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งมีภูมิฐานที่สุดที่ผมเห็นมาตลอดทาง ใบหน้าของความสง่านั้นมันช่างดูดดึงสายตาผู้อื่นให้ได้จับจ้องกัน ชายวัยกลางคนอายุน่าจะประมาณแตะเลข 4 ได้แต่กลับยังดูวัยเยาว์เหมือนหนุ่มวัย 30 ความสูงที่ต้องทำให้ผมตั้งเงยหน้ามองเขา
"คะ..ครับ ผมมาสมัครงาน"ผมว่า
"หึ"เสียงหัวเราะนั้นทำให้ผมต้องหลบก้มหน้าลงต่ำเพราะจู่ ๆสายตานั้นก็ตวัดกระจายไปทั่ว ๆจนเห็นรัศมีที่ดูน่าเกรงขามก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินเข้าลิฟท์ไปทิ้งความงงให้กับทุกคนที่อยู่แถวนั้น ผมเลิกสนใจแล้วกดลิฟต์อีกทีแล้วขึ้นมายังชั้นที่พนักงานบอก ทำไมบริษัทนี้ถึงไม่เห็นผู้หญิงเลยสักคนละ?
"คุณกิตรัตน์ครับ"เสียงจากพี่พนักงานรับสมัครเรียกผมขึ้นผมก็รีบลุกเข้าไปหาพี่แกทันทีหลังจากที่ขึ้นมาบนชั้นนี้ก็เจอเข้ากับผู้มาสมัครเกือบๆ 20 คนแต่รับ 2 คนผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะติดหรือเปล่านะ
"เข้าไปในห้องนั้นเลย"ผมเข้ามาในห้องก็เจอเข้ากับพี่ผู้ชายอีกคนนั่งดูเอกสารบนโต๊ะ บริษัทนี้มีแต่คนหล่อหรือไงตั้งแต่เดินเข้ามาไม่ใช่มีแค่ผู้ชายไม่พอแต่กลับเป็นชายที่รูปร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อไปตามสัญชาติเช่น ฝั่งเอเชีย ยุโรป ฝั่งอเมริกานู้นก็มีคงเป็นบริษัทที่ใหญ่พอควรถึงจะสามารถมีพนักงานหลายชาติในบริษัทเดียวได้แบบนี้
"การ์ชิใช่ไหม"เสียงนุ่มทุ่มๆของพี่ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยถาม
"ใช่ไหม"ผมก็ตอบด้วยความมั่นใจเพราะจะได้ให้เขาได้รู้ว่าผมต้องการที่จะทำงานที่นี้จริงๆ
"ไหนลองหมุนตัวให้พี่ดูหน่อยสิ"ภายในใจก็เกิดความสงสัยแต่ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจและทำตามคำสั่ง ผมหมุนตัวให้พี่เขาได้ดูก่อนที่ใบหน้าหนุ่มไทย-จีนจะยกยิ้มอย่างพอใจ
"นั่งก่อนสิ"ผมเข้านั่ง
"อืม..ข้อมูลแทบทุกอย่างก็รู้จากเอกสารของการ์ชิแล้วพี่ก็ไม่จำเป็นต้องถามให้เสียเวลาแต่คำถามเดียวที่บริษัทนี้ต้องการคือ.."พี่แกเงียบไป
"คืออะไรหรอครับ"ผมถามกลับด้วยความอยากรู้
"การ์ชิยังซิงอยู่ใช่ไหม?"
"ห๊ะ!?!..อะ..อะไรนะครับ?"ผมถามกลับทันทีที่ได้ยินคำถามของพี่เขา ซิง? ซิงอะไรทำไมต้องถามถึงเรื่องนี้
"ตามที่พี่ถามการ์ชิยังซิงหรือที่เขาเรียกกันว่าบริสุทธิ์นั้นแหละ บริษัทนี้ต้องการความสดใหม่ของพนักงานที่จะรับถ้าเราตอบอย่างจริงจังแถมยังซิงเปอร์เซ็นต์การจะได้ทำงานที่นี้ก็มีสูงขึ้น"ผมนิ่งและไม่รีรอที่จะไม่ตอบ
"ผมยังซิงครับไม่เคยผ่านมือใหม่และไม่เคยมีแฟนหรือคนรักมาก่อนครับ"ผมว่า
"ก็ดี..แล้วการ์ชิมั่นใจมากน้อยแค่ไหนที่อยากจะทำงานที่บริษัทนี้"พี่เขาพยักหน้าพอใจในคำตอบและถามกลับมาอีกคำถาม
"มั่นใจมากครับถ้าตีเป็นเปอร์เซ็นต์เต็มร้อยแน่นอนครับ"พอได้การพูดคุยที่สบายๆของพี่แค่บวกกับบรรยากาศที่ไม่อึดอัดทำให้ผมยิ่งตอบไปได้อย่างมั่นใจ
"ตอบได้มั่นใจถูกใจพี่ พี่ก็ขอให้เราได้งานแล้วกันแต่ถ้าได้งานนี้เมื่อไหร่.."ร่างสูงของพี่เขาลุกขึ้นแล้วโน้มหน้าเข้ามาหาผม ทำไมเขาถึงมีใบหน้าที่หล่อแบบนี้กัน
"ครับ?"
"พี่ต้องเป็นคนที่ 2 ของการ์ชิ"คิ้วเรียวสวยขยับเข้าผูกกันตรงหน้า
"หมายความว่าอะไรหรอครับ?"ผมถาม
"ไม่ต้องถามเยอะหรอกถ้าเราได้งานก็รู้เอง เสร็จเรียบร้อยสำหรับการสัมภาษณ์กับพี่เชิญตรวจร่างกายแล้วกลับบ้านได้แล้วรอผลที่บ้านนะครับ"ผมพยักหน้าอย่างงงๆแล้วเดินออกมาตรวจร่างกายซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะทำไปเพียงอะไรเพราะตรวจละเอียดมากๆตรวจทุกอย่างแต่ที่ไม่เข้าใจคือเขาตรวจภายในด้วย ดูรูตูดของผมไปทำไมกัน ผมก็ยังงงไม่เลิกแล้วอะไรคือคนที่ 2 กันผมก็ได้แต่เก็บไว้ในใจแล้วกลับบ้าน
3 วันผ่านไป
ติ๊งต๋อง
"มาแล้วครับ"เวลาผ่านไปถึง 3 วันก็ไม่มีข้อสรุปถึงการยันยืนว่าได้เข้าทำงานหรือไม่ได้เข้าซึ่งผมก็ได้แต่รอและคิดว่าถ้าผ่านวันนี้ไปอีกวันก็คงต้องยื่นหาที่ใหม่อีกครั้ง
แอ๊ด
"ผมเอาของมาส่งครับจากบริษัท S "ผมรีบเดินมาเปิดประตูห้องของตัวเองหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชายหนุ่มคนส่งของยื่นกล่องสีน้ำตามขนาดใหญ่พอควร ผมรีบรับด้วยอาการที่ตื่นเต้นว่ามันจะเป็นอะไร ผมกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับกล่องขนาดยักษ์
"อื้ออ..ตื่นเต้นแบบนี้มันแปลว่าได้เข้าทำงานหรอ"ผมได้แต่พึมพำกับตัวเองกับเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองสุดๆ ผมค่อยๆเปิดกล่องออกก็เจอเข้ากับกล่องอีกกล่องและมีซองจดหมายอยู่ผมรีบหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน
"ในนามของบริษัท S เราอนุมัติการเข้าทำงานของนายกิตรัตน์ ภูมิสิทธิ์ เป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับการทำงานครั้งแรกในวันถัดไปจากการได้รับกล่องพิเศษจากบริษัทและอย่าลืมทำความสะอาดร่างกายให้เหมาะสมกับการทำงานครั้งแรกกับเรา บริษัท S"
"กรี๊ดด!!"ผมไม่รู้จะอธิบายอะไรดีกับการได้ทำงานครั้งนี้มันดีใจไปหมด ผมวางจดหมาแล้วเปิดกล่องอีกกล่อง
พรึบ
"ชุด?"ภายในกล่องมีเชิ้ตสีครีมอ่อนกับกางเกงสแล็คสีสำ ผมหยิบขึ้นมาดูให้ทั่ว
"ทำไมมันถึงมีซิปตรงนี้กันละ?"ผมดูกางเกงสแล็คสีดำงงๆเพราะมันกลับมีซิปตรงระหว่างข้อต่อของขาทั้งสองข้างหรือที่เรียกง่ายๆว่าตั้งแต่ครึ่งก้นยาวลงมาถึงเป้าแต่มันไม่ได้เห็นชัดหรอกนะถ้าคนอื่นมองมาแต่ช่างมันเถอะผมดีใจมากกว่าเงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อเดือนแต่ถ้าทำงานดีเห็นบอกว่าได้ไม่ต่ำกว่า 250,000 แน่ๆ มันอาจจะเยอะไปแต่สำหรับงานที่ต้องทำคือผมต้องทำแทบทุกแผนกที่เขาต้องการตัวผมหรือเขาใช้เมื่อไหร่ก็ต้องไปทันทีไหนบริษัทนี้จะเป็นบริษัทระดับโลก
บริษัท S
"พี่ชื่อโมนาเป็นหัวหน้าแผนกของเราที่เป็นแผนกเล็กแต่กลับมีอิทธิพลมากๆ พี่จะเป็นคนสั่งงานเธอและเธอเด็กคนใหม่ของบริษัท ก่อนอื่นเบอร์ 1 อย่างเธอการ์ชิต้องเข้าสัมภาษณ์พิเศษกับท่านประธานส่วนเบอร์ 2 เบล เธอต้องเข้าสัมภาษณ์พิเศษกับท่านรองหรือที่เราเรียกคือบอสเข้าใจใช่ไหม?"พอเช้ามาผมก็รีบเดินทางมายังบริษัทอย่างตื่นเต้นด้วยชุดที่บริษัทให้มาแต่ดูเหมือนมันจะเล็กไปหรือยังไงเพราะมันรัดไปแทบทุกสัดส่วนโดยเฉพาะสะโพกของผมมันรัดมากๆ
"เดี๋ยวถึงเวลาพี่จะเรียกเราทั้งสองนะ"เราสองคนพยักหน้า
"เบลใช่ไหมเราการ์ชินะ"ผมหันไปทักทายเพื่อนร่วมงาน
"ยินดีที่ได้รู้จักนะแผนกเราต้องทำงานบริการให้ดีทุกคนละ"ทำไมมันแต่เรื่องที่ผมต้องสงสัยเต็มไปหมด
"หือ?"
"เราถามรุ่นพี่หลายๆคนพี่ๆบอกว่าต้องบริการให้ดีก็จะได้คำประเมินจากคนที่เราบริการถ้าได้เยอะเงินเดือนก็จะอัพขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีวันลด ซึ่งบริษัทของเรามีทั้งหมด 3,500 กว่าคนทำงานให้ดีละ"เบลร่ายยาวแต่ผมก็ยังงงจนสุดท้ายพี่โมนาก็มาเรียก ผมต้องแยกกับเบลมายังหน้าประตูห้องใหญ่
ก็อกๆ
"เข้ามา"เสียงจากด้านในเอ่ยตอบรับ ผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไปโดยความประหม่า
"!!!!"ผมเบิกตากว้างเมื่อท่านประธานคือ...คือคนที่ผมชนเข้าเมื่อวันก่อน
"หึ เธอเองสินะเบอร์ 1 ของครั้งนี้ก็ดีนั่งสิ"ผมได้แต่ทำตามคำพูดของชายหนุ่มวัย 40 ผมเคยอ่านประวัติของเขามาแต่ไม่มีรูปภาพให้ได้เห็นจนถึงวันนี้ถึงได้รู้
"ชั้นไม่ได้หมายถึงให้เธอนั่งตรงนั้นชั้นหมายถึงให้เธอมานั่งตรงนี้"
ปึก ปึก
"มะ..ไม่ได้หรอกครับผมเป็นแค่พนักงานจะไปนั่งตรงนั้นได้ยังไงแถมมันก็ไม่เหมาะสม"มือหนาของชายหนุ่มวัยกลางคนตกเข้าที่ตักแกร่งของเขา ร่างสูงใหชุดทำงานเชิ้ตที่ขาวสะอาดกับกางเกงสแล็คสีเขา
"ไม่เหมาะสมยังไงนี้มันงานของเธอ มานั่ง!"
