บทที่ 6 หนี
สองชั่วโมงต่อมา
Rrr…
ติ๊ด!
“…”
[แหวนพลอย! ลูกหนีออกจากห้องหอได้ยังไง!] น้ำเสียงเหนื่อยใจดังขึ้นจากปลายสาย ความจริงเตรียมใจไว้แล้วล่ะว่าแม่จะต้องโทรมาดุฉันเรื่องนี้แน่ ๆ เรื่องที่ฉันแอบหนีออกมาจากห้องหอเฮงซวยนั่นไง!
“พลอยขอโทษค่ะแม่...”
[เฮ้อ... ลูกนี่จริง ๆ เลย ทิ้งเจ้าบ่าวไว้ในห้องคนเดียวแบบนั้นได้ยังไงกัน รู้ไหมว่าคุณลุงชารีฟเป็นห่วงลูกแค่ไหนน่ะพลอย]
“ห่วงพลอยหรือคะ?”
ฉันฟังอะไรผิดหรือเปล่า คุณลุงชารีฟ พ่อของฟรานซิสน่ะเหรอเป็นห่วงฉันที่ทิ้งลูกชายของท่านไว้ในห้องหอคนเดียว
[ก็ใช่น่ะสิ พอคุณลุงกับคุณป้าทราบว่าพลอยออกจากโรงแรมไปแล้ว ท่านก็รีบเข้าไปหาตาฟรานในห้องหอ พ่อกับแม่ก็ตามเข้าไปนะ ตาฟรานน่ะโดนซักไซ้ซะยกใหญ่ว่าทำอะไรให้เราไม่พอใจหรือเปล่า]
“…”
อย่างนั้นเองเหรอ... พวกท่านห่วงใยฉันขนาดนี้เลยสินะ
[แล้วตกลงลูกทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า?]
แม่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ฉันกัดริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องที่หมอนั่นลวนลามฉันให้แม่ฟังดีหรือเปล่า...
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พลอยแค่ไม่อยากอยู่ร่วมห้องกับหมอนั่น”
[พลอย... ตอนนี้จะทำอะไรตามใจตัวเองแบบเก่าไม่ได้แล้วนะ พลอยอย่าลืมนะว่าตอนนี้ลูกแต่งงานแล้ว ไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้ว และที่สำคัญ...]
“…” ฉันกำโทรศัพท์ในมือแน่น ฉันรู้ว่าแม่กำลังหมายความว่ายังไง และฉันก็รู้ว่าหน้าที่สำคัญของฉันในการแต่งงานครั้งนี้คืออะไร…
[พลอยคือนายหญิงคนใหม่ของเดริตโต้ ลูกรู้ใช่ไหมว่าควรจะปฏิบัติตัวยังไง]
ใช่แล้ว... ตำแหน่งนายหญิงคนใหม่ของตระกูลเก่าแก่อย่างเดริตโต้ คือหน้าที่สำคัญที่ฉันไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...
“...ค่ะแม่”
[แล้วตอนนี้ลูกกอยู่ที่ไหน? กลับมาที่นี่ไหมพลอย?]
'ที่นี่' ในความหมายของแม่คงไม่พ้นห้องหอนั่นสินะ... เหอะ! ฉันไม่มีทางกลับไปแน่นอน!
“พลอยอยู่คอนโดนิราค่ะ แล้วพลอยก็จะไม่กลับไปที่นั่นแล้วค่ะ”
[งั้นไม่เป็นไร... พักผ่อนซะนะลูกรัก แม่รักพลอยนะลูก]
“พลอยก็รักแม่ค่ะ” ฉันกดวางสายแล้วหันกลับมาสบตากับเพื่อนรักทั้งสองและน้องสาวอีกหนึ่งคน พวกเธอกำลังนั่งจ้องหน้าทำตาโตกันเป็นแถว ๆ ”เป็นอะไรกันห๊ะ!”
ฉันตวัดเสียงถามพลางนั่งลงที่เดิม ตอนนี้พวกเราสี่คนนั่งจุ่มปุกอยู่ภายในห้องนั่งเล่นของคอนโดนิรา หลังจากฉันแอบหนีออกมาจากห้องหอเฮงซวยนั่นได้โดยรอดพ้นจากสายตาลูกน้องของคุณลุงชารีฟด้วยความช่วยเหลือจากลูกสาวเจ้าของโรงแรมอย่างทอฟ้า นี่ก็ผ่านมาเกือบสองชั่วโมงแล้วล่ะ รู้สึกเหนื่อยล้ามากมาย...
“พวกฉันก็แค่แปลกใจว่าทำไมวันนี้แม่แกยอมง่ายจัง” ทอฟ้าพูดขึ้นแล้วหยิบรีโมตขึ้นมากดเปลี่ยนช่อง
“นั่นสิ... เพชรว่ามันแปลก ๆ อยู่นะพี่พลอย”
แหวนเพชรน้องสาวร่วมสายเลือดของฉันขมวดคิ้วสงสัย มันเผลอกัดเล็บตัวเองเหมือนกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง
“จริง! ถ้าเป็นปกตินะ ป่านนี้ลูกน้องแม่แกมาเต็มห้องฉันแล้ว”
คราวนี้เป็นนิราเจ้าของห้องคนสวยพูดขึ้นบ้าง มันใช้หลอดเขี่ยน้ำส้มในแก้วที่ถืออยู่ แววตาสงสัยไม่ต่างไปจากสองสาวก่อนหน้านี้
“คิดมากน่าพวกแก แม่อาจจะเห็นว่าฉันเหนื่อยจากงานแต่งวันนี้ก็ได้ แล้วนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย พวกแกควรไปนอน”
นาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาตีสอง มันดึกจนจะเช้าแล้วล่ะ แต่ยัยสามคนนี่ก็ยังไม่มีใครยอมนอนสักคน เหตุผลก็เพราะว่ามัวแต่มานั่งคาดคั้นฉันเรื่องในห้องหอนั่นล่ะ!
“โหยยัยพลอยยย อย่ามาปิด อย่ามาเบือน ไม่เล่าก็ไม่ได้นอนอ่ะเอาดิ”
แขนฉันถูกรั้งไว้เป็นรอบที่สามร้อยสิบสี่ ตั้งแต่เหยียบเข้ามาในห้องเนี่ย ฉันไม่เคยจะได้ย่างกายเข้าไปใกล้เตียงเลยเชื่อมะ! ยัยพวกนี้นี่อยากรู้เรื่องของฉันกับหมอนั่นแบบคมชัดลึกเลยล่ะ!
“พวกแกอย่ามา พรุ่งนี้มีเรียนเช้านะเว้ย ปะ ๆ นอนกันเหอะ หาว~” ฉันว่าพลางเอนตัวทับนิราที่เป็นคนรั้งแขนฉันไว้ มันเบี่ยงตัวหลบหน่อย ๆ พลางใช้มือดันหลังฉันแล้วโวยวายขึ้น
“โอ๊ย ๆ หนักนะยัยหมูพลอย”
“กรี๊ดหยาบคาย! เรียกฉันหมูเหรอยัยไบบ้า!”
ฉันยืดตัวขึ้นพลางใช้หมอนฟาดนิราแรง ๆ อย่างนึกหมั่นไส้ บังอาจมากนะมาเรียกฉันหมูเนี่ย ฉันนี่โคตรจะเนื้อนมโคเลยนะ หุ่นซูเปอร์เอสเลยล่ะ ทั้งสะโพก ทั้งหน้าอกมาเต็มนะยะ ชิส์!
อย่าทำหน้าแบบนั้นกัน... ฉันไม่ได้โม้นะ! สมัยปีหนึ่งเคยมีแมวมองมาทาบทามฉันไปเป็นนางแบบด้วยนะเออ
“อะไรล่ะ แกยังเรียกฉันว่ายัยไบเลย ฉันไม่ได้บ้านะเว้ยย”
“โอ๊ย! พวกพี่ ๆ พอเถอะ ๆ เพชรว่าพวกเราไปนอนกันดีกว่านะ ซักไซ้พี่พลอยตอนนี้ก็ไม่มีทางบอกพวกเราหรอก”
“เออใช่ ไปนอนเหอะ ง่วงแล้วอ่ะ!”
และก็เป็นแหวนเพชรกับทอฟ้าที่เป็นฝ่ายห้ามศึกระหว่างฉันกับนิรา ความจริงมันเป็นเรื่องปกติของพวกเรานะ ฉันกับมันชอบแกล้งกันแบบนี้ประจำอยู่แล้วแหละ
“เออ ๆ นอนก็ได้ ชิส์!” แล้วเจ้าของห้องมันก็สะบัดหน้าเดินหนีเข้าห้องไปคนแรก ฉันจึงส่ายหัวให้กับยัยเพื่อนขี้งอนก่อนเดินตามมันเข้าไปนอนด้วยกัน
เอาน่า... ฉันแค่ไม่อยากพูดถึงเรื่องบ้า ๆ พรรค์นั้นขึ้นมาอีก อย่างอนฉันเลยนะพวกแก...
