บทที่ 9 คำเตือน
“ถุ๊ย!” ฟรานซิสถ่มเลือดลงพื้นพลางยกมืออีกข้างขึ้นเช็ดปากลวก ๆ สายตาดุดันของเขาตวัดมองโลกันต์ เขาแค่นหัวเราะในลำคอแล้วกระชากฉันเข้าไปหาเขาอีกรอบ “เหมือนมึงจะยังไม่รู้สถานะตัวเองนะไอ้โลกันต์...”
“จะทำอะไร!”
ฉันพยายามดิ้นหนีวงแขนของฟรานซิสที่โอบรอบเอวตัวเองจากด้านหลัง แผ่นอกของเขาบดเบียดแผ่นหลังฉันจนแนบแน่น เขาใช้มืออีกข้างจับปลายคางของฉันแล้วล็อกใบหน้าให้มองไปทางโลกันต์ที่ยืนกำหมัดแน่นอยู่ตรงหน้าฉัน
“แค่จะเตือนให้อดีตแฟนเธอรู้ตัวไง...”
“...”
“นับจากนี้ต่อไป... สถานะของมึงหมดสิทธิ์ใช้คำว่าแฟนกับยัยนี่แล้ว...”
“...”
“เป็นได้เต็มที่ก็แค่ ‘ชู้’ นะครับแหม่”
จบคำพูดเยาะเย้ยของฟรานซิส ร่างทั้งร่างของฉันด้านชาไปเลย และก่อนที่โลกันต์จะพุ่งเข้ามาจัดการไอ้ผู้ชายกวนประสาทนี่อีกรอบเขาก็ถูกมือหนาของใครอีกคนรั้งไหล่เอาไว้
“มึงมาทำเชี่ยไรที่นี่วะไอ้ฟราน?”
ผู้ชายผมสีฟ้าหน้าตากะหล่อนทักขึ้น เขาเดินเข้ามายืนด้านข้างฉันที่ยังโดนฟรานซิสกอดจากทางด้านหลัง
“พวกมึงมีเรื่องอะไรกัน”
ผู้ชายที่กำลังรั้งไหล่ของโลกันต์เอาไว้ถามขึ้น เขาจ้องมุมปากของฟรานซิสที่ขึ้นสีช้ำแล้วตวัดสายตามองหน้าโลกันต์อีกรอบ เขาดูดุดันจนฉันไม่กล้าสบตาเลยล่ะ แล้วดูรอยสักลายน่ากลัวที่แขนเขาสิ ฉันก็เคยเห็นรอยสักที่แขนของฟรานซิสเหมือนกัน พวกเขาคบกันที่รอยสักหรือไงนะ!
ฉันจำสองคนนี้ได้... พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของฟรานซิส เพราะพวกเขาเพิ่งมาร่วมงานแต่งงานเมื่อวานนี้ไง!
“เออ เมียเล่นชู้”
“นะ... นี่! พูดบ้าอะไรของนายหะ! ปล่อย!” ฉันจิกเล็บลงบนหลังมือเขาสุดแรง โลกันต์สะบัดมือของผู้ชายที่รั้งเขาออกแล้วตรงเข้ามากระชากฉันออกจากวงแขนของฟรานซิส ฉันจึงเอื้อมจับมือโลกันต์แล้วหันกลับมาผลักอกไอ้ผู้ชายนิสัยเสียออกห่างจากตัว “อย่ามายุ่งกับฉัน!”
ฟรานซิสที่ถอยหลังไปเล็กน้อยกลับมายืนเต็มความสูง สีหน้าเขาตอนนี้บึ้งตึงไร้วี่แววกวนประสาท ฉันเผลอบีบมือโลกันต์แน่น
ไม่ใช่ว่าฉันกลัวหมอนี่หรอกนะ...แต่ฉันแค่กลัวว่าโลกันต์จะโดนรุมทำร้ายมากกว่า อย่าลืมสิ! ตอนนี้รอบตัวฉันกับโลกันต์มีเพื่อนของฟรานซิสยืนคุมสถานการณ์อยู่นะ
“กลับไปกับฉัน...” ฟรานซิสเอ่ยเสียงนิ่ง สายตาดุดันของเขากดดันกันอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่! ฉันไม่ไปกับนาย!”
“อย่าลองดีแหวนพลอย...” น้ำเสียงเขายังนิ่งไม่เปลี่ยน ฉันเกลียดบรรยากาศแบบนี้ที่สุด ความเงียบที่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ
“เราไปกันเถอะกันต์”
ฉันตัดสินใจจับมือโลกันต์แล้วดึงเขาออกมาจากตรงนั้น มือของเขากำหมัดแน่นจนน่ากลัว เขาคงโมโหฟรานซิสมากสินะ...
แน่ล่ะ! หมอนั่นทำเกินไปจริง ๆ กล้ากอดฉันต่อหน้าโลกันต์แบบนั้นได้ยังไง!
“ถ้าเธอไปกับไอ้เวรนั่น...”
“...”
ฉันก้าวเท้าออกมาไกลเรื่อย ๆ หากทว่าก็ยังได้ยินเสียงดุดันจากฟรานซิสอย่างชัดเจน โลกันต์ทำท่าจะหยุดเดินอีกครั้ง ฉันจึงรีบกอดแขนเขาไว้แล้วส่ายหน้าไปมาอย่างขอร้องให้เขายอมถอย ฉันไม่อยากให้เขาต้องมาเจ็บตัวตอนนี้ …
ยังไงซะ...สงครามประสาทครั้งนี้มันคงไม่จบลงง่าย ๆ อีกต่อไปแล้ว...
“เตรียมเปิดประตูนรกรอได้เลย!!”
.
.
.
G CONDO
ฉันไม่เคยรู้สึกอึดอัดขนาดนี้มาก่อนเลย...
ให้ตายสิ! ทำไมโลกันต์ต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะ! เขาขับรถพาฉันมาคอนโดของเขาโดยไม่ยอมพูดจาอะไรสักคำ แถมยังนั่งมองหน้าฉันมาเกือบชั่วโมงแล้วด้วย มันอึดอัดอ่ะรู้ป่ะ!
“คิดอะไรอยู่น่ะกันต์” ฉันที่ทนความอึดอัดไม่ไหวเป็นฝ่ายถามในที่สุด ก็เขาเล่นนั่งจ้องฉันเงียบ ๆ แบบนี้ ใครจะไปทนไหวละ!
“...”
“นี่...จะถามอะไรก็ถามสิ จ้องแบบนี้ฉันอึดอัดนะ ไม่อย่างนั้นฉันกลับบ้านก่อนแล้วกัน” ฉันถอนหายใจอีกรอบพลางลุกขึ้นจะเดินหนี แต่โลกันต์กลับคว้าข้อมือฉันเอาไว้ ฉันจึงยืนนิ่งพลางสบสายตาคมเข้มของเขา
โลกันต์เป็นผู้ชายหน้าตาดีมาก ๆ คนหนึ่ง ดวงตาสีเฮเซลนัทสีเดียวกับเส้นผมของเขาขับให้ใบหน้าขาวดูดีจนน่าหลงใหล ใบหน้าที่มองกี่ครั้งก็มีแต่ความอบอุ่นและอ่อนโยนให้ฉันเสมอ หากทว่าครั้งนี้มันกลับเปลี่ยนไป...สีหน้าของเขาในตอนนี้มันมีความกังวลบางอย่างแฝงอยู่
“...แล้วมีอะไรจะบอกกันไหมล่ะ?”
โลกันต์ถามออกมาในที่สุด เขารู้จักนิสัยฉันดีพอ ๆ กับที่ฉันรู้จักนิสัยของเขา ตลอดเวลาที่คบกันมาเราสองคนไม่เคยมีความลับต่อกันสักครั้ง และใช่...ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ฉันบอกเขาทุกเรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานบ้า ๆ นั่น ตอนแรกเขาอาละวาดและจะตามไปคุยกับพ่อแม่ของฉัน แต่ฉันห้ามเขาเอาไว้
อย่าลืมสิ! แม่ไม่เคยสนับสนุนให้ฉันคบกับโลกันต์อยู่แล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแม่ของฉันได้หรอก
“ไม่มี” ฉันตอบคำถามของโลกันต์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง” มันไม่มีอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะกันต์”
“...” เขาเงียบไป ฉันรู้ว่าเขาเชื่อใจฉัน แต่สาเหตุที่เขากังวลขนาดนี้คงมาจากคำพูดประโยคสุดท้ายของผู้ชายคนนั้น "ฉันไม่ไว้ใจมัน”
นั่นไง... เขากำลังระแวงฟรานซิสจริง ๆ ด้วย!
