บทที่ 2 1

วันต่อมา...

ตฤณเดินทางไปทำงานเช้าอย่างปกติและเมื่อมาถึงที่ทำงานเขาก็เข้าห้องไปนั่งพักผ่อนในระหว่างรอทำงานในช่วงเช้า บนโต๊ะทำงานมีกล่องของขวัญอยู่เขาลองเปิดดูก็เจอสร้อยทองคำขาวพร้อมจี้รูปหงส์ที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปจัดการให้เมื่อวาน รุ่นนี้ราคาแพงเอาเรื่องอยู่นะแต่ไม่เป็นไรเพราะเขาตั้งใจว่าจะให้ดาหวันเป็นของขวัญวันเกิดปีนี้ เอาจริงเขาไม่ค่อยให้อะไรเธอหรอกแต่ค่าใช้จ่ายในการเรียนเขาเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด แต่เงื่อนไขคือเขาต้องเป็นคนเลือกให้ทั้งหมดตั้งแต่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ราคาแพงไปถึงมหาวิทยาลัยที่กำลังจะสอบเข้า เขาเลือกทุกอย่างให้ดีที่สุดและคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเธอในตอนนี้แต่ชายหนุ่มไม่เคยถามหญิงสาวเลยว่าสิ่งที่เขาเลือกให้เธอต้องการมันรึเปล่า

"สวยนะเส้นนี้"

เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเก็บใส่ลิ้นชักแล้วช่วงเย็นก็จะเอากลับ เขาเปิดแฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานดูก่อนจะเงยหน้ามองประตูที่มีเสียงเคาะเรียกจากข้างนอก

"เข้ามา"

เอกภพลูกน้องของเขาเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องข้าว เขาวางไว้ให้บนโต๊ะพร้อมกับแก้วน้ำอีกหนึ่งใบ

"ดาหวันฝากมาครับ"

"อืม ขอบใจ"

เขาวางแฟ้มเอกสารลงก่อนจะเปิดกล่องข้าวของหญิงสาว เป็นปิ่นโตอาหารเช้าไม่หนักท้องพร้อมกับกาแฟเข้มๆตามสไตล์ที่เขาชอบ

"ยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยเด็กคนนี้"

"ผมไปส่งดาหวันที่โรงเรียนแล้วครับ วันนี้เห็นว่าเรียนแค่ครึ่งวัน"

"ไปรับเธอกลับแล้วก็พาไปซื้อของด้วยเผื่อว่าเธออยากได้อะไรเป็นพิเศษ เอาเงินนี้ไปซื้อของแล้วก็เค้กด้วย"

เขายื่นเงินแบงค์พันหลายใบไปให้ลูกน้องเพื่อจะให้พาหญิงสาวไปซื้อของจัดงานวันเกิด แต่เขาคิดว่าที่บ้านคงจัดการไว้แล้วเพราะทุกปีก็เป็นแบบนั้น

"เย็นนี้นายจะไปร่วมงานวันเกิดของดาหวันมั้ยครับ"

"นัดเพื่อนไว้อ่ะถ้าทันจะไปแล้วกัน"

"ครับนาย"

เอกภพโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที วันนี้เขามีนัดกับเพื่อนไปสังสรรค์กันที่บาร์ร้านประจำก็เลยไม่ได้รับปากว่าจะไปร่วมงานวันเกิด

ทางด้านของดาหวันเธอยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่วันนี้จะได้ของขวัญวันเกิดจากเฮียตฤณ ชิ้นแรกเลยล่ะมั่งที่เขาจะให้แต่ต้องเผื่อใจไว้บ้างเพราะคนอย่างเขาถ้าจะลืมก็ลืมไปเลย ยิ่งเธอไม่ได้สำคัญอะไรด้วยก็คงลืมได้ง่าย

"ยิ้มแก้มปริเชียวนะแก"

"อ่ะนี่ของขวัญวันเกิดจ้ะเพื่อนรัก มีความสุขมากๆนะแก"

"ขอบคุณนะทุกคน"

ดาหวันรับของขวัญจากเพื่อนสนิทมาหลายกล่องเธอเก็บใส่กระเป๋าจะไปลุ้นว่าเพื่อนๆให้อะไรมาบ้าง เธอไม่เคยคาดหวังว่าต้องได้ของแพงเพียงแค่พวกเธอให้มาก็ดีใจมากแล้ว

"งั้นไปกินข้าวกันเดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงทุกคนเอง"

ดาหวันกอดคอเพื่อนๆเดินไปที่ห้องอาหาร เธอได้เงินรายเดือนจากเฮียตฤณทุกเดือนเดือนละสองหมื่นบาทเพื่อมาเรียนหนังสือและใช้จ่ายส่วนตัว แต่เงินทั้งหมดเธอไม่เคยใช้เลยเอาเก็บไว้ในบัญชีเพื่อเก็บ แต่ทุกวันนี้เขาให้เงินจ่ายค่าเรียนให้ก็เป็นพระคุณมากแล้ว เธอไม่อยากให้เขาช่วยเหลือมากไปกว่านี้

ช่วงบ่ายดาหวันนั่งรถมากับเอกภพเขาพาเธอไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของตามที่เจ้านายสั่ง

"คุณเอกพาดาหวันมาห้างทำไมเหรอคะ"

"คุณตฤณบอกว่าเราอยากได้อะไรก็ซื้อได้เลย มีอะไรที่อยากได้มั้ยล่ะ"

ดาหวันมองไปโดยรอบก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย เธอไม่ได้เป็นคนบ้าแบรนด์เนมหรือชอบใช้ของสิ้นเปลืองจึงไม่คิดอยากได้อยากมีเท่าไหร่

"ไม่อยากได้อะไรเลยค่ะ"

"ซื้อเถอะถ้าพี่กลับไปหาเจ้านายแล้วบอกว่าเราไม่ซื้ออะไรเลย พี่จะโดนเล่นเอา"

เอกภพเอ่ยขอร้องหญิงสาว อย่างน้อยซื้ออะไรบ้างเขาจะได้รอดจากการถูกถามและถ้าสั่งแล้วว่าให้มาซื้อแต่ไม่ซื้อเขาเนี่ยแหละจะโดนอีก

"แต่ว่า...."

หญิงสาวเห็นหน้าของเอกภพที่ดูลำบากใจก็ยอมที่จะซื้อของแต่โดยดี เธอเดินเข้าไปร้านขายของน่ารักก่อนจะหยิบตุ๊กตามาสองตัวเป็นคู่กัน

"เอานี่ค่ะ"

"แค่นี้เนี่ยนะ... เอาแพงกว่านี้ก็ได้ดาหวันคุณตฤณให้เงินมาสองหมื่นนะเราจะซื้อไม่กี่ร้อยเนี่ยนะ"

"พอแล้วค่ะคุณเอกเอาเงินไปคืนเฮียเถอะ แค่ที่ให้ทุกวันนี้ก็เยอะแล้วค่ะ หนูไม่อยากได้อะไรหรอก"

เอกภพมองเด็กสาวก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เชื่อมั้ยว่าถ้าเฮียตฤณไม่ส่งเสียงดูแลดาหวันเขาเองเนี่ยแหละที่จะอาสาขอเป็นผู้ใหญ่ใจดีสนับสนุนอนาคตของเธอ ดาหวันเป็นเด็กที่น่ารักมากมองโลกในแง่ดีเรียนเก่งและมีทัศนคติที่ดีมาก คนในบ้านมีแต่คนรักและเอ็นดูเพราะเป็นเด็กที่ไม่ดื้อเชื่อฟังทุกอย่างแบบนี้แหละ

"เรานี่มันน่ารักแบบนี้ไงคุณตฤณเค้าถึงเอ็นดู"

"แน่ใจเหรอคะว่าเอ็นดู เค้าเห็นหนูเป็นของเล่นมากกว่า"

"ก็เค้าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้นี่ไม่ดีเหรอ"

เอกภพเดินไปจ่ายเงินให้หญิงสาว เธอพยักหน้ายอมรับว่าทุกอย่างที่เขาทำให้มันดีที่สุดอย่างที่พูดแต่สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่แบบนี้ก็เท่านั้นเอง

"ก็ดีค่ะแต่หนูแค่อยากได้เลือกอะไรด้วยตัวเองบ้างก็เท่านั้น"

"ก็เรียนให้จบก่อนถึงตอนนั้นเฮียเค้าคงไม่บังคับแล้วล่ะ"

"หวังว่าเป็นแบบนั้นนะคะ"

ดาหวันยิ้มกว้างออกมามองตุ๊กตาในมือก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย วันนี้เป็นวันเกิดของเธอใช้ชีวิตให้มีความสุขกับคนในครอบครัวดีกว่า

ช่วงค่ำตฤณเดินทางไปที่บาร์ร้านประจำเพื่อพบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนสนิท สาวๆที่มาคอยดูแลเอาอกเอาใจหนุ่มๆก็มีความคาดหวังว่าแก๊งหนุ่มหล่อจะถูกใจและรับเลี้ยงดูบ้าง จะได้สบายกับเค้าสักหน่อย

"เอาใจเพื่อนพี่เยอะๆเลยนะครับน้องน้ำชา คนนี้มหาเศรษฐีตัวจริง หล่อ รวย โสดด้วย"

"แกก็เวอร์ไปมหาเศรษฐีอะไรล่ะ"

ตฤณยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มยกนาฬิกาขึ้นมาดูเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ไม่รู้ว่าดาหวันจะเข้านอนหรือยังของขวัญยังอยู่ในรถไม่ได้ให้เธอเลยสักที

"คุณตฤณอยากให้น้ำชานวดให้มั้ยคะน้ำชานวดเก่งนะคะ นวดให้ทั้งคืนเลยก็ได้"

น้ำชาลูบไล้ตามตัวชายหนุ่มอย่างยั่วยวน ปกติเขาก็ซื้อกินแบบนี้แหละเพราะไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน เอาจริงเขาทำงานเยอะมากจนไม่มีเวลาหาแฟน ไหนจะต้องมาสนใจเด็กในความดูแลอีกทั้งเรื่องเรียนการใช้ชีวิตบอกตามตรงแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วแบบนี้แหละเหมาะสำหรับเขาดี

"ได้สิ เดี๋ยวคืนนี้จะพาไปที่สบายๆแล้วจะให้นวดทั้งคืนเลย"

"ไปตอนนี้เลยมั้ยคะน้ำชาอดใจไม่ไหวแล้วนะเนี่ย"

หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างมีความหวังและคืนนี้เธอจะทำให้เขาถูกใจและพอใจเป็นอย่างมาก ถ้าเขาติดใจและอยากจะเลี้ยงดูเธอขึ้นมาล่ะก็รับรองว่าสบายไปทั้งชาติแน่นอน

"ตอนนี้เลยเหรอ... ได้นะแต่ว่าขอกลับบ้านก่อนแป๊บหนึ่งจะเอาของไปให้คนที่บ้านก่อน ยังไงน้ำชาไปรอที่คอนโดผมแล้วกัน"

"ได้ค่ะน้ำชายังไงก็ได้"

"พวกแกฉันกลับก่อนนะยังไงไว้นัดกันใหม่"

"แหม่! เจอกันไม่ทันไรพากลับคอนโดอีกละ แกนี่มันบ้ากามจริงๆ"

เพื่อนๆของเขาเอ่ยแซวไม่หยุดใครก็รู้ว่าคุณตฤณกินดุขนาดไหน แต่เขาไม่มีเป็นตัวตนสักทีก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันถึงไม่ยอมมีแฟนสักทีแต่ได้ยินแว่วๆมาว่าเลี้ยงเด็กไว้คนหนึ่งกำลังเรียนมัธยมอยู่ ส่งเสียค่าเล่าเรียนค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ก็ไม่รู้ว่าที่ไม่ยอมมีเพราะรอเด็กให้บรรลุนิติภาวะรึเปล่าถึงจะจัดการหรือว่าเลี้ยงดูเหมือนน้องเฉยๆ

"แกนะสิบ้ากาม"

"แล้วน้องอะไรนะที่แกเลี้ยงดูอยู่นะอายุ18ยัง"

"มึงไปรู้มาจากไหนไอ่ภวิน"

ตฤณดูตกใจมากที่เพื่อนไปรู้เรื่องของดาหวัน เขาไม่เคยบอกใครและไม่เคยให้เพื่อนรู้จักด้วยแต่ไอ่พวกนี้มันรู้ได้ยังไง

"เห็นป่ะกูบอกแล้วว่าเป็นเรื่องจริง ลูกพี่ลูกน้องฉันเห็นแกไปรับน้องเค้าที่โรงเรียนอินเตอร์แถวบ้าน แกไม่มีน้องนี่แล้วไปรับไปส่งใคร"

"หลานรึเปล่าวะ"

ทุกคนเริ่มคาดเดากันไปต่างๆนาๆ ตฤณเริ่มรู้สึกว่าไอ่พวกนี้มันจะรู้มากจนเกินไปแล้วล่ะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมซะแล้ว

"เด็กแถวบ้านนั่นแหละแม่เค้าฝากไปรับก็แค่นั้นไม่มีอะไร"

"ระดับเจ้าของบริษัทรับส่งเด็กในข้างบ้าน มึงเชื่อป่ะ"

"ไม่อ่ะกูว่ามันเลี้ยงไว้กินเอง"

"ไอ่สมภารกินไก่วัด"

พวกเขาล้อเลียนเพื่อนรักอย่างสนุก ตฤณชี้หน้าเพื่อนทุกคนอย่างคาดโทษ

"ฝากไว้ก่อนเถอะวันนี้รีบเฉยๆหรอก อย่าเอาไปพูดมั่วๆนะเว้ยมันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ"

"จ้าๆ เชื่อตายแหละ"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป