บทที่ 3 ตอนที่3 ดูแล
คณิต PART
ผมกดลิฟต์ขึ้นทันที
แม่ง! เธอนี่แม่งร่านดีจริงๆ!
ขนาดโดนรถชนยังนัดผู้ชายมาเอากันได้! เมื่อลิฟต์ถึงที่หมายผมก็เดินตรงไปยังห้องทันที
ผมเปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นคือห้องมันเกลื่อนไปด้วยขวดยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ ยาแดง ดูท่าจะเจ็บหนักไม่น้อย แต่เจ็บหนักขนาดนี้แม่งยังมีหน้านัดผู้ชายมาเอาอีกเนี่ยนะ!
ผมเลิกสนใจแล้วเดินเข้ามายังห้องนอนก็เห็นรอยพิมพ์กำลังนอนหันหลังอยู่ เธออยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีเทากับกางเกงนอนขาสั้นสีเทาเหมือนกัน
หึ! แต่งตัวล่อตัวผู้ซะจริง แต่ไม่วายตาผมก็ต้องสะดุดอยู่ตรงขาซ้ายของเธอที่มีเฝือกใส่ไว้อยู่
โดนชนจนขาหักเลยเหรอวะ ใครแม่งชนว่ะผมจะฆ่าแม่ง!!
แต่....ขาหักก็ยังมีหน้ามาเอากันเนี่ยนะ หึ!
ผมเดินไปหาเธอพลางจับให้เธอนอนหงายเพื่อที่ผมจะได้สำรวจรอยแผลของเธอได้ชัดขึ้น
ให้ตายเหอะ ทั้งตัวมีแต่แผลเต็มไปหมดแบบนี้อาการมันหนักเอาควรนะ ดูจากสภาพคงไปโรงพยาบาลมาแล้วเพราะผมเห็นซองยาอยู่บนหัวเตียง หนักขนาดนี้หมอต้องให้แอดมิดนอนโรงพยาบาลแล้วแต่แม่คุณคงไม่ยอมนอนโรงบาลสินะ
ดื้อจริงๆ
ผมเลิกสนใจรอยพิมพ์แล้วเข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน ผมขึ้นเตียงจับผ้าห่มมาห่ม มองรอยพิมพ์ที่น่าจะเพลียของจริงเพราะเธอไม่ขยับพลิกตัวหรือรู้สึกตัวเลยตั้งแต่ผมมา แต่ผมก็ไม่ได้อะไรปล่อยเธอนอนไป ส่วนผมก็หลับไปในที่สุด
ตี3
“อื้อหนาว” ผมขยับตัวนิดหน่อยเพราะได้ยินเสียงรอยพิมพ์บ่นอะไรไม่รู้ แต่ก็ไม่สนใจนอนต่อ และสุดท้ายก็นอนไม่หลับเพราะรอยพิมพ์ละเมอไม่หยุดบ่นว่าหนาวๆ ผมเลยเอามือไปอังหน้าผากเธอ ปรากฏว่าเธอไข้ขึ้น สงสัยเพราะแผลมันอักเสบเธอเลยไข้ขึ้นแบบนี้
ผมจัดการลงจากเตียงเพื่อหาน้ำอุ่นมาเช็ดตัวเธอ มองไปที่หน้าปัดนาฬิกาซึ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาตี3 และผมต้องไปโรงพยาบาลตอน7โมงเช้าแถมยังต้องอยู่เวรอีก ผมเลิกสนใจนาฬิกาแล้วหันมาเช็ดตัวให้รอยพิมพ์ ผมเช็ดไปเธอก็สะดุ้งเป็นระยะๆ เมื่อเช็ดเสร็จผมก็เดินไปยังตู้ยาหยิบยาลดไข้ยาแก้อักเสบมาไว้แล้วเดินหลับมาหาร่างบาง ผมค่อยๆเขย่าตัวเธอให้ตื่นมากินยาถ้าไม่กินมีหวังไข้ขึ้นสูงอีกแน่
“พิมพ์ตื่นมากินยา....พิมพ์....รอยพิมพ์!” ผมเรียกเธอเสียงดังและผลปรากฏว่าเธอก็ยังนอนหลับตาอยู่เหมือนเดิม ผมถอนหายใจพรืดใหญ่กรอกยาใส่ปากตัวเองจากนั้นก็ค่อยๆ ประกบริมฝีปากตัวเองไปยังปากน้อยๆ ของรอยพิมพ์
ผมจัดการส่งยาเข้าไป บีบคอเธอเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้เธอกลืนยาและมันก็สำเร็จเมื่อเธอกลืนมันไปหมดแล้ว แต่ผมนี่สิยังไม่ออกจากปากนุ่มของเธอเลย ผมไล้ชิมปากนุ่มและร้อนอย่างนุ่มนวล
“อื้มมมม” โคตรเคลิ้มเลย ปากเธอมันทั้งนุ่มและร้อนเพราะเป็นไข้ แต่ผมก็จำเป็นต้องผละออกอย่างเสียดายขืนจูบนานมีหวังผมได้ติดไข้เธอพอดี
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วผมก็กลับมานอนอีกครั้ง
คณิต END
6โมงเช้า
คณิตอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน ร่างสูงเดินมาหารอยพิมพ์ที่ยังนอนหลับอยู่ มือหนาอังหน้าผากเล็กเพื่อวัดไข้และผลปรากฏว่าเธอยังตัวร้อนอยู่เหมือนเดิม เหมือนกับว่ายาที่กินเข้าไปมันไม่ได้ผลเลยสักนิดด้วยความที่กลัวว่าร่างบางตรงหน้าจะตายเพราะพิษไข้เขาเลยรีบเช็กตารางของตัวเองและเมื่อเห็นว่าช่วงเช้าไม่ได้มีนัดจากคนไข้จึงขอลางานช่วงเช้าไป
ร่างสูงเดินเข้าไปในครัวทำข้าวต้มกุ้งของโปรดของตนเอง เมื่อกินเสร็จก็เดินไปหารอยพิมพ์อีกครั้งก่อนจะปลุกให้เธอตื่นขึ้น
“พิมพ์ตื่นได้แล้ว...กินข้าวกินยาจะได้หายร่าน เอ้ย หายไข้”
“อื้อปวดหัว” รอยพิมพ์พูดออกมาเบาๆ
“ตื่นมากินข้าวกินยาจะได้หายป่วย” คณิตเห็นว่ารอยพิมพ์ยังหลับแบบนี้เขาก็จัดการขั้นเด็ดขาดคือใช้ผ้าที่มีน้ำอยู่แปะไปที่ใบหน้าสวย ร่างบางที่รับรู้ถึงน้ำเย็นๆ ก็สะดุ้งตื่นทันที
“อื้อมันเย็น” รอยพิมพ์ปรือตามองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ เขามาทำไม? เขาเป็นห่วงเธอเหรอ? หรือจะมาสมเพชเธอกันแน่
“ลุกขึ้นกินข้าวกินยาเดี๋ยวฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”
“ไม่เอาไม่กิน”
“ให้เร็ว” รอยพิมพ์เม้มปากแน่นแต่ก็ยอมลุกขึ้น แต่เมื่อจะขยับตัวเธอก็ต้องเบะหน้าทันทีเมื่อความเจ็บปวดตรงขาซ้ายครอบงำ
“มานี่มา” คณิตตัดสินใจอุ้มรอยพิมพ์ไปยังโต๊ะอาหารก่อนจะเดินไปตักข้าวต้มกุ้งมาให้เธอ
“กินซะจะได้กินยา” คณิตยื่นถ้วยข้าวต้มไปให้รอยพิมพ์ก่อนจะปล่อยให้เธอนั่งกินข้าวเอง ส่วนตัวเขาก็เดินไปเอาเสื้อผ้าของร่างบางมาเพื่อเปลี่ยนให้เธอ ร่างสูงเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าของรอยพิมพ์หาชุดที่ใส่ง่ายๆ แต่ค่อนข้างหนาให้รอยพิมพ์ใส่ เมื่อได้ชุดที่ต้องการแล้วก็เดินกลับไปหาร่างบางแต่เมื่อไปถึงก็ต้องโมโหเมื่อเห็นว่ารอยพิมพ์ไม่ยอมกินข้าวสักที
“ทำไมไม่กินข้าว”
“คือว่า..”
“จะอะไรหนักหนาวะ! จะให้ป้อนว่างั้น? มือเป็นง้อย?” รอยพิมพ์ก้มหน้าลงต่ำ คณิตเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมกินดีๆ เขาเลยเอื้อมไปหยิบช้อนตักข้าวต้มคำโตมาจ่อปากร่างบาง
“กิน”
“คะ..คือ”
“อ้าปากและกิน” รอยพิมพ์จ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเศร้า เขาไม่เคยสนใจเรื่องราวของเธอเลยสักนิด มีแต่เธอคนเดียวที่รู้เรื่องของเขาไปซะทุกอย่าง
รอยพิมพ์ตัดสินใจอ้าปากและรับข้าวต้มกุ้งเข้าปากเต็มๆ คำพยายามเก็บอาการบางอย่างไว้ไม่ให้คณิตรู้ รอยพิมพ์นั่งกินข้าวต้มกุ้งไปโดยมีคณิตนั่งป้อนอยู่ เธอกินจนหมดถ้วยและรับยาจากมือร่างหนามากิน
“เช็ดตัวและเดี๋ยวเปลี่ยนชุดนี้”
“พิมพ์ทำเอง”
“ดูสภาพ” รอยพิมพ์มองร่างสูงที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับมาพร้อมกับกะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนู
“อยู่นิ่งๆ พิมพ์” เมื่อเห็นว่าร่างบางมีท่าทีขัดขืนก็เอ่ยปากเตือนทันที
“พิมพ์อาย” รอยพิมพ์บอกไปตามความจริง เพราะตอนนี้คณิตกำลังจะก้มลงถอดกางเกงนอนของเธอออก ส่วนท่อนบนถูกถอดออกไปแล้วและเธอก็เอามือน้อยๆ ปิดหน้าอกตูมไว้ถึงจะปิดไม่มิดก็เถอะ
“เห็นมาหมดแล้วเหอะ....ทุกซอกทุกมุม” รอยพิมพ์หน้าขึ้นสีแดงทันที เธอและเขามีอะไรกันแล้วตั้งแต่งานวันหมั้น เธอเต็มใจให้เขาเอง เขาเองก็ไม่ปฏิเสธเมื่อมีของสดแถมซิงมาเสนอ
คณิตจัดการเช็ดตัวให้ร่างบางอย่างเงียบๆ รอยพิมพ์นั่งมองคณิตที่ค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดไปตามลำตัวของเธอ ร่างบางเผลอยิ้มออกมา เธอชอบเหลือเกินเวลาที่เขาคอยสนใจและเป็นห่วงเธอ
“ยิ้มอะไร”
“ปะ...ป่าว” รอยพิมพ์หลบสายตาของคณิตทันที
“โกหก...เด็กไม่ดีต้องโดนทำโทษ” ว่าแล้วก็กดริมฝีปากลงบนริมฝีปากบางเบาๆ ก่อนจะผละออกมา
“หน้าแดงนี่เพราะพิษไข้หรือว่าเขินฉัน” คณิตยกยิ้ม มองร่างบางที่ก้มหน้าหลบสายตาเพราะความเขิน
“พิมพ์ง่วงแล้ว” รอยพิมพ์เบี่ยงประเด็นทันที...แต่ที่จริงเธอก็ง่วงจริงๆ เพราะยาที่กินไปเริ่มออกฤทธิ์
“อืม...มาฮุ้บ” คณิตจัดการช้อนร่างบางให้มาอยู่ในอ้อมแขนและเดินไปที่เตียงก่อนจะวางเธอลงและห่มผ้าให้เธอ
“ไม่ไปทำงานหรอ?” รอยพิมพ์ตัดสินใจถามเขาไป เพราะเธอมองดูนาฬิกาก็พบว่ามัน7โมงกว่าๆ แล้ว
“เมียป่วยผัวก็ต้องดูแล” รอยพิมพ์ทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอคำพูดของคณิตเธอเลยหันหน้าหนีเอาผ้าห่มคลุมถึงหัว
“เดี๋ยวก็หายใจไม่ออก”
กริ๊ง กริ๊ง
คณิตเดินออกไปจากห้องเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องดังก่อนจะส่องตาแมวมองว่าใครมา เมื่อรู้ว่าคนที่มาเป็นหวายก็เปิดประตูให้เธอเข้ามาทันที
“พี่พิมพ์เป็นไงบ้างคะ” เมื่อเดินเข้ามาหวายก็ยิงคำถามใส่ทันที
“ก็ให้กินข้าวกินยาและก็นอนพักแล้วเดี๋ยวก็คงดีขึ้น”
“กินข้าวแล้วหรอ...เสียดายอะหวายซื้อข้าวต้มปลาของโปรดพี่พิมพ์มาให้” หวายชูถุงข้าวต้มปลาของโปรดของรอยพิมพ์ให้คณิตดู คณิตมองถุงข้าวต้มก่อนจะแมมโมรี่ไว้ในสมองว่ารอยพิมพ์ชอบกินข้าวต้มปลา
“เอาไปเก็บในตู้เย็นสิเดี๋ยวมื้อเที่ยงพี่จะอุ่นให้พิมพ์กิน”
“ได้ค่ะ” หวายพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยังตู้เย็นที่อยู่ในครัว สายตาก็หันไปเห็นในหม้อว่ามีข้าวต้มกุ้งอยู่ หวายเลยเดินออกมาถาม ถ้าเป็นอย่างที่เธอคิดเธอจะโกรธคณิตจริงๆ ด้วย
“หมอคณิตคะ...วันนี้หมอทำอะไรให้พี่พิมพ์ทานคะ”
“ก็ข้าวต้มกุ้ง” คณิตตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไร
“หมอคณิต!!” หวายตะโกนชื่อเขาดังลั่น คณิตเองก็ตกใจ
“อะไรของเธอ...เป็นอะไร?”
“พี่ไม่รู้หรอ!”
“รู้อะไร”
“พี่รอยพิมพ์แพ้กุ้ง!” คำพูดของหวายนั้นเหมือนมีมีดนับพันมาปักอยู่ที่อกข้างซ้ายของเขา ร่างกายยื่นนิ่งไม่ไหวติ่งใดๆ คณิตนึกย้อนไปถึงตอนที่สั่งให้รอยพิมพ์กินข้าวแต่เธอมีท่าทีปฏิเสธ เขาก็นึกว่าเธอเล่นตัวจะให้เขาป้อนแต่มันกลับไม่ใช่เมื่อเธอพยายามบอกเขาว่าเธอแพ้กุ้งแต่เป็นเขาเองที่ไม่ยอมฟัง
“หมอ! มาดูพี่พิมพ์เร็ว”
อิหมอเตรียมตัวโดนรีดด่าได้เลยทำไรไม่คิดเดี๋ยวก็ตบหัวคว่ำ!แต่ก็เห็นความตะมุตะมิอยู่บ้างหยวนๆ ให้แล้วกัน^^
