บทที่ 4 ความซวยไม่เคยมาเดี่ยว

“ฉันสบายดีค่ะ”

หญิงสาวเอามือลูบหน้าที่เปียกน้ำฝน เธอใช้นิ้วนวดคลึงสันจมูกเพื่อเรียกสติที่เพี้ยนไปเพราะถูกดึงดูดใจด้วยความหล่อเหลาของซาตานร้ายในคราบเทพบุตรตัวเป็น ๆ ซึ่งการทำแบบนั้นเท่ากับวีนัสใช้แขนทั้งสองข้างดันก้อนเนื้ออวบอัดขนาดขัดแย้งรูปร่างแบบบางราวตุ๊กตาบาร์บี้ของเธอเบียดชิดกัน

สำหรับชายหนุ่มผู้มีเลือดเนื้อเต็มไปด้วยความรู้สึกรู้สม ไม่มีภาพวิวใดน่ามองมากไปกว่าหุบเหวขาวผ่องระหว่างร่องอกของสาวสวยทรงเสน่ห์ที่ทำให้เควินเกิดอาการปอดแหกจนไม่กล้าถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนามคนนี้

“ผมต้องขับคุณ เอ้ย! คุณต้องไปขับรถลาก ส่วนผมจะขับรถของคุณขึ้นมาจากคลอง”

เขาชี้นิ้วโป้งไปที่รถโฟร์วีลคันมหึมาของตัวเองซึ่งมีขนาดแตกต่างกับรถซิตี้คาร์คันเล็กของหญิงสาว

วีนัสแอบยอมรับอย่างหน้าไม่อายว่ารู้สึกดีเหลือเกินที่ได้นั่งบนเบาะรถที่มีอุ่นไอจากกายชายหนุ่ม มันแทบไม่ต่างอะไรนักกับการนั่งตักกว้างแข็งแรงของเจ้าตัว แล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเขาว่าชายหนุ่มมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างตอนที่นั่งบนเบาะรถของเธอ

“ยัยบ้า! เลิกฟุ้งซ่านซะที” หญิงสาวด่าตัวเองที่เผลอคิดหมกมุ่น แล้วหันมาจัดการปรับเบาะเข้าไปใกล้กับคอนโซลรถเพราะช่วงขาของเขายาวมากกว่าเธอหลายนิ้ว

ความคิดนอกลู่นอกทางของวีนัสได้ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง เมื่อเสียงตะโกนของเควินดังขึ้น

“พร้อมไหมครับ”

“พร้อมค่ะ”

ความซวยไม่เคยมาเดี่ยว มันมักจะยกโขยงพรรคพวกมารุมกระทืบคนที่เจอแจ็คพ็อตอย่างไม่ประหยัดกองกำลังหน่วยสนับสนุน

“คุณจำเป็นต้องขับรถไปอีกไกลไหมครับ” เควินเช็ดมือเช็ดไม้ด้วยผ้าทำความสะอาด ขณะที่พูดกับวีนัสแบบเป็นงานเป็นการ

“อาจจะราว ๆ ห้าหรือสิบกิโลเมตรค่ะ” เธอตอบเสียงเบา แบตเตอรี่ของเธออ่อนลงหลังจากได้รับแจ้งข่าวร้ายว่ายางรถยนต์อยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน

“ระยะทางไกลและอันตรายเกินไป เราต้องเอารถของคุณไปเปลี่ยนยางที่อู่ผมก่อน”

หญิงสาวพยักหน้ารับ หลังจากที่ครุ่นคิดแล้วว่าเธอไม่มีตัวเลือกอื่นที่เข้าท่ามากกว่าข้อเสนอที่เขาหยิบยื่นมาให้

เขาเปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่งก่อน จากนั้นเควินจึงเดินไปเก็บป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงตรงไหล่ทางมาเก็บเข้ากล่องอุปกรณ์ฉุกเฉินและเข้ามานั่งประจำที่คนขับ ปรับเบาะ คาดเข็มขัด ปรับกระจกรถ สำรวจความพร้อมทุกสิ่งอย่างก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์

ความสุขุมรอบคอบความมีน้ำใจไมตรีที่เขาแสดงออกสั่นคลอนความตั้งใจมั่นที่จะสะสางบัญชีแค้นของเธอ วีนัสหลับตา พยายามนึกถึงแววตาปัดป้องไม่ต้องการข้องเกี่ยวที่เขาใช้มองเธอเมื่อเจ็ดปีให้หลัง  พยายามนึกถึงความรู้สึกเจ็บช้ำที่ถูกเขาปฏิเสธต่อหน้าเพื่อนทุกคนในวันสำเร็จการศึกษา

เธอจะต้องไม่ใจอ่อนอย่างเด็ดขาด เธอจะต้องไม่ทนทุกข์ทรมานกับฝันร้ายเดิม ๆ ที่มีเขาเป็นต้นเหตุ

“คุณคงไม่ใช่คนที่นี่” เควินหาเรื่องชวนคุย

เสียงหล่อนั้นฉุดเธอขึ้นมาจากหลุมดำแห่งสงครามความคิดขัดแย้งทั้งปวง

วีนัสหันไปมองด้านข้างใบหน้าหล่อเหลาประมาณที่ทำให้พระเอกหนังฮอลลี่วูดขาดความมั่นใจ เธอปั้นหน้ายิ้มหว่านเสน่ห์แบบที่ผ่านการฝึกปรือมาจากสถาบันสอนบุคคลิกภาพ แล้วเริ่มปฏิบัติตามแผนการณ์ชำระแค้นซึ่งมาถึงก่อนกำหนดด้วยความเร็วติดจรวด

“ค่ะ ฉันมาที่นี่เพราะต้องการซื้อบ้านพักตากอากาศสักหลัง”

เธอย่นหน้าผากน้อย ๆ เมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่าง หรือว่าเขาจำเธอได้แล้ว ?

“คุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันไม่ใช่คนที่นี่”

“จำนวนกระเป๋าเดินทางที่เบาะหลังรถของคุณ”

เขาหันมายิ้มให้เธอ เป็นยิ้มไร้เล่ห์เหลี่ยมอันปราศจากการปั้นแต่งที่เปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศซึ่งทรงอาณุภาพต่อเกราะป้องกันจิตใจของหญิงสาวและสะเทือนสะท้านไปถึงมดลูก

อาการหนาวยะเยือกมาเยือนขั้วหัวใจจนวีนัสต้องยกแขนขึ้นกอดอก

“หนาวหรือครับ”

ยังจะมารู้ดี! เธอแอบค้อน

“นิดหน่อยค่ะ”

“ถ้าคุณไม่รังเกียจ เสื้อแจ็คเก็ตของผมยินดีมอบความอบอุ่นให้นะครับ” เขายิ้มกริ่ม พลางพยักเพยิดไปที่พนักพิงซึ่งมีแจ็คเก็ตหนังสีดำคลุมอยู่

อีกแล้ว! ทำไมต้องยิ้ม ทำไมต้องทำให้เธอหวั่นไหว คนที่ต้องตกหลุมเสน่ห์อย่างถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นต้องเป็นเขาสิ! วีนัสคิดอย่างโกรธ ๆ และเผลอแสดงความเครียดออกมาทางสีหน้า

“เปียกได้ก็แห้งได้ครับไม่ต้องกังวล” เควินยืนกรานความปรารถนาดี

ไอเดียหว่านเสน่ห์ของเขาไม่เลวเหมือนกันนะ นอกจากข้ออ้างเรื่องรถเธอยังสามารถใช้เสื้อแจ็คเก็ตของเขาเป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพอีกขั้น

“ขอบคุณนะคะ” วีนัสจงใจโน้มตัวเข้าไปไกล้ชายหนุ่มจนหน้าอกของเธอสัมผัสต้นแขนบึกบึนเพื่อปลดเสื้อจากเบาะและนำมาสวม

มันได้ผล! อาการสูดอากาศเข้าปอดของเควินไม่ได้หลุดรอดจากสายตาของเธอ

“ฉันดีใจที่ได้เจอคนดี ๆ แบบคุณในยามต้องการความช่วยเหลืออย่างนี้”

“ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ”

ความตื่นเต้นกระสับกระส่ายทำตัวไม่เป็นปกติของเขาทำให้เธอยิ้มอย่างมีชัย ทว่ารอยยิ้มของเธอมีอันต้องคลายลงเมื่อรูปถ่ายใบหนึ่งจากกระเป๋าด้านในเสื้อแจ็คเก็ตร่วงลงบนต้นขาขาวเนียนผุดผ่องซึ่งโผล่พ้นขอบกางเกงยีนส์ขาสั้น

วีนัสกอดเสื้อแจ็คเก็ตของเขาแนบอกและหยิบรูปถ่ายใบนั้นขึ้นมาเหมือนถูกสะกดด้วยมนตร์ดำ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป