บทที่ 4 แรกพบสบตา

ฉันไม่ได้หื่นอะไรเลยนะ แต่ของแบบนี้มันไม่ได้เห็นกันง่าย ๆ นี่ โอกาสที่จะได้เห็นหนังสดแถมยังได้มองหุ่นแซ่บ ๆ ของผู้ชายคนนั้นด้วย ถ้าเป็นแยมส้ม ยัยนั่นก็ต้องคิดแบบฉันแหละ ช่วยไม่ได้นี่ ฉันยังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นนี่นา

ถ้างั้น… ขอแอบดูสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง…

ฉันค่อย ๆ กระเถิบตัวออกมาจากซอกตู้เย็น โชคดีที่บริเวณนี้ค่อนข้างมืดมาก แสงไฟเพียงดวงเดียวของห้องนี้ก็คือตรงโซฟาที่พวกเขากำลังเริงรักกันนั่นแหละ เพราะงั้นจากมุมที่ฉันยืนอยู่จึงทำให้มองเห็นเงาร่างของทั้งสองคนค่อนข้างชัดเจน

‘อื้ม…’

หน้าฉันร้อนลวกไปหมด แอบหรี่ตามองภาพหนังสดทีละนิด ภาพของหญิงสาวที่กำลังคร่อมทับร่างสูงอยู่บนโซฟาปรากฏอยู่ในสายตา เธอซบหน้าลงบนไหล่ของเขา ระดมจูบแผงอกแกร่งอย่างหิวกระหาย เลือดในกายฉันเดือดพล่านทั้งตัว ไม่คิดว่าภาพที่เห็นมันจะติดเรตกระจุยกระจายขนาดนี้ ฉันดึงสายตามองร่างสูง สองคิ้วขมวดด้วยความแปลกใจ

ทำไมน่ะเหรอ… เพราะว่าเขาคนนั้นดูนิ่งเฉยไร้อารมณ์ซะจนฉันแปลกใจเลยน่ะสิ

จริงอยู่ที่ฉันมองไม่เห็นหน้าเขาเพราะมุมสายตาของฉันคือด้านหลังของโซฟา ฉันเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างที่กำลังนั่งพิงโซฟาด้วยท่าทางนิ่งเฉย โดยมีร่างของผู้หญิงคนนั้นคร่อมทับและกำลังเล้าโลมเขาอยู่ แขนของเขาวางพาดลงบนพนักโซฟา ไม่ได้โอบกอดเธอเลยสักนิด ไม่สิ… เรียกว่าไม่แตะต้องตัวเธอเลยด้วยซ้ำ

เย็นชาชะมัด…

คำแรกผุดเข้ามาในหัว ไม่รู้สิ ถึงจะมองไม่เห็นหน้าเขาคนนั้น แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจเลยล่ะว่าเขาจะต้องเป็นคนคนเดียวกับที่ฉันคิดแน่ ๆ คนที่แสนจะเย็นชาไร้ความรู้สึกคนนั้นน่ะ…

‘จะทำอะไร?’

ฉันสะดุ้งเล็กน้อยยามเสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา เสียงจุ๊ฟจั๊ฟน่าอายของเธอคนนั้นหยุดชะงักลงแล้ว เพราะถูกฝ่ามือหนาล็อกปลายคางเอาไว้

‘มะ มินนี่แค่อยากจูบสิงห์’ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดจะหวาดกลัว

‘ลุกออกไป’ น้ำเสียงเย็นชาออกคำสั่ง ราวกับฟ้าถล่ม ผู้หญิงที่ชื่อมินนี่ถูกมือหนาสะบัดปลายคางทิ้ง เธอรีบหันกลับมาจับหมับที่สองไหล่หนา ไม่ยอมลุกจากตัวเขาตามคำสั่ง

‘มินนี่ขอโทษ… มินนี่ก็แค่… แค่อารมณ์พาไป มินนี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำลายกฎของสิงห์นะ’

ทำลายกฎของสิงห์… เพิ่งรู้แฮะว่า ‘เซ็กส์’ ก็มีกฎด้วย

‘ลุกไปซะ อย่าให้พูดซ้ำ’

คราวนี้เขาผลักเธอออกห่างจากตัว แรงผลักนั้นทำให้ร่างบางเกือบจะเสียหลักหล่นจากตักเขา เธอรีบถอยตัวลงไปนั่งบนพื้น ทำให้ฉันมองไม่เห็นเธออีกเพราะถูกความสูงของโซฟาบดบัง และเพราะอย่างนั้นความอยากเผือกของฉันจึงทำให้มันเป็นเรื่อง

กึง…

เวรแล้ว… ฉันอุทานในใจ หลุบตามองปลายเท้าตัวเองที่เผลอไปเตะขาโต๊ะเข้า และเมื่อดึงสายตาขึ้นอีกครั้งก็สบเข้ากับดวงตาคมเข้มราวกับสัตว์ป่ากำลังจ้องมาทางนี้ด้วยสายตาน่ากลัว

…เป็นเขา …เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!

เขาคือสิงห์คำราม…

ฉันเคยเจอเขามาก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นฉันบังเอิญเห็นเขาที่ผับ สิงห์คำรามดังมากในหมู่สาว ๆ และไม่ใช่แค่เขาที่ดัง น้องชายเขาก็ด้วย พูดเลยว่าเสือพยัคฆ์น้องชายของเขาค่อนข้างตรงสเป็คฉันมาก ฉันเกือบจะอ้อยน้องเขาแล้วถ้าไม่ติดว่าถูกเจ้ขิมเบรคไว้ซะก่อน ยังจำได้ว่าวันนั้นโดนเจ้ลากออกจากผับแทบจะทันที แถมเจ้ยังสั่งนักสั่งหนาว่าไม่ให้ฉันไปข้องเกี่ยวกับสองพี่น้องนั่นอีก

คิดแล้วก็แอบเสียดาย… เสือพยัคฆ์เป็นผู้ชายคนแรกที่ดึงดูดสายตาฉันนับตั้งแต่พบเจอผู้ชายมาเลยนะ

แต่เดี๋ยวนะ นี่มันไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้นหรือเปล่า?

‘เอ่อ… คือว่า… ฉะ ฉันเข้าห้องผิดน่ะ ฉันไม่เห็นอะไรเลยนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะขัดจังหวะด้วย เอ่อ ถ้ายังไงก็ขอตัวก่อนนะ’ ฉันยิ้มเจื่อนกลบเกลื่อน สองเท้าค่อย ๆ เดินไปทางประตูทางออก หัวใจเต้นเบาซะจนแทบจะหยุดเต้น กระทั่งเดินมาเกือบจะถึงประตูก็ต้องชะงักเพราะถูกร่างสูงพุ่งเข้ามาขวางทางเอาไว้

ซะ ซิคแพค…

โอ้ไม่… ทำไมสายตาฉันมันหลุบลงต่ำซะได้เล่า โชคดีที่สิงห์คำรามสวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว ทว่าชายเสื้อเขากลับหลุดลุ่ย กระดุมก็ไม่ได้ติด สายตาฉันจึงถูกแผ่นอกแกร่งกับซิคแพคแน่น ๆ ดึงดูดไปชั่วขณะ กลิ่นอายของบุรุษเพศแผ่ซ่านไปทั่วจนเผลอถอยหลังหนีหลายก้าว ฉันไม่ได้กลัวเขาหรอกนะ แค่ถอยมาตั้งหลักเฉย ๆ

‘ออกไปซะ’ น้ำเสียงเย็นชากดต่ำขณะดวงตาคมจ้องฉันไม่ยอมละ ถามว่าฉันหลบตาเขาไหม เปล่าเลย… ฉันจ้องตาเขากลับนิ่ง ๆ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้กลัวเขา ถึงเขาจะอันตราย แต่คงไม่เลวทรามต่ำช้าถึงขนาดทำร้ายผู้หญิงหรอกมั้ง

‘…ค่ะ’ ฉันตอบรับอย่างว่าง่าย เบี่ยงตัวจะเดินออกไปตามเขาสั่ง ทว่าร่างหนาขยับมาขวางเอาไว้อีกครั้ง ฉันเงยหน้าเลิกคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ แต่สายตาคมตอนนี้ไม่ได้มองฉันแล้ว เขามองไปทางโซฟาซึ่งมีร่างของผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่บนพื้น

‘ฉันสั่งให้เธอออกไปไง’

เอ๊ะ… เขาไม่ได้หมายถึงฉัน? แต่หมายถึงเธอคนนั้นงั้นเหรอ?

‘…’

ผู้หญิงที่ชื่อมินนี่ค่อย ๆ ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า เธอเหลือบตามองฉันเล็กน้อยก่อนเดินผ่านไป ฉันขยับจะเดินตามเธอแต่ถูกแขนแกร่งยันกับผนังขวางเอาไว้ ร่างฉันจากที่สูงแค่ร้อยหกสิบห้า ตอนนี้มันหดจนเหลือแค่ร้อยห้าสิบเห็นจะได้ ทำไมผู้ชายน่ากลัวคนนี้ไม่ปล่อยฉันออกไปด้วยเล่า

อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะสานต่อจากหนังสดเมื่อครู่?

โอ้ไม่นะ! ถึงเขาจะหล่อก็เถอะ แต่ฉันก็เลือกนะ! อีกอย่างเขาไม่ใช่สเป็คฉันด้วย ฉันเกลียดผู้ชายหน้านิ่งโคตร ๆ เพราะไม่ชอบเดาความรู้สึกใคร สเป็คฉันมันต้องลุคแบด ๆ แบบน้องชายเขานู้น…

เอ่อ… นี่ก็ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องนี้หรือเปล่านะ ตั้งสติหน่อยยัยซอเอ๊ย!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป