บทที่ 6 วันนี้มีใครมาสมัครงานรึยัง
ยกแรก...ขวัญฟ้า...ชนะ...เพราะคู่กรณีไม่ทันตั้งตัวเลยไม่ได้เตรียมกระบวนท่าไว้รับมือ ที่สำคัญคือเขากำลังรีบ...
เมื่อประตูห้องประชุมบอร์ดบริหารใหญ่ของบริษัทเปิด สรรพเสียงทั้งหลายก็เงียบลงฉับพลัน ทว่าผู้มาใหม่กลับไม่ทันสังเกต การเข้าประชุมสายอาจไม่ใช่เรื่องผิดปกติใหญ่หลวงอะไรสำหรับคนทั่วไป หากแต่การผิดเวลาของท่านประธานกรรมการผู้บริหารบริษัทคนนี้ ต้องนับว่า แปลกประหลาดมหัศจรรย์ อย่างยิ่งทีเดียว สำหรับมิสเตอร์ On Time อย่าง ระพีวิชญ์ ที่ถือว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าที่สุด และการผิดเวลาถือว่าขาดความรับผิดชอบอย่างไม่น่าให้อภัย แต่วันนี้คนตั้งกฎเหล็กกลับแหกกฎซะเอง ทำไมจะไม่น่าแปลกล่ะ แต่ที่ น่าอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดนั้นคือลุกซ์ของท่านประธานที่ดูแปลกตาไปจากเดิมต่างหาก
ดวงหน้าคมคาย บึ้งสนิท ถ้าใครสังเกตสักนิดก็คงได้เห็นรอยเขรอะๆ กระดำกระด่างของน้ำมันเครื่องจางตามใบหน้านั้น แถมร่างสูงใหญ่ที่มักดู สง่างาม ตลอดเวลาในชุดสูทสากลสีเข้มแต่ตอนนี้ก็ดู สง่า เหมือนกันแต่เป็น สง่าแบบแปลกๆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่มีรอยยับๆตรงบริเวณแขน ซึ่งถ้ามองดีๆ ก็จะเห็นรอยด่างดำจางๆ ที่ตัวเสื้อ แถมเนคไทสีพื้นก็เหมือนเอาพันๆไว้ลวกๆ พอไม่ให้หลุดลุ่ยน่าเกลียด ไม่มีการใส่สูทสีเข้มเหมือนอย่างเคย จะมีก็แต่สแล็กสีเข้มเท่านั้นล่ะที่พอดูเนี้ยบอยู่บ้าง สภาพของท่านผู้บริหารตอนนี้ต้องบอกว่าดูไม่จืดเอาซะเลย
แม้ผู้เข้าร่วมประชุมหลายคนอยากหัวเราะกับภาพแปลกตาของบิ๊กบอสหนุ่มสุดหล่อ แต่ไม่มีใครหัวเราะออก เมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลเข้ม วาววับ ซึ่งวันนี้ดูแฝงด้วยความอันตรายยังไงชอบกล ดังนั้นทางที่ดีอย่า เสี่ยง เป็นดีที่สุด และแล้วก็เป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้!
การประชุมบอร์ดบริหารวันนี้เป็นไปอย่างที่เรียกว่า ดุเดือด อาจถึงขั้น เลือดโชก แม้ไม่มีใครต้องถูกหามออกจากห้องประชุมก็จริง แต่ก็มีหลายคนที่ถึงขั้นหน้าซีดหน้าเซียว ไม่มีใครรู้ ท่านประธานไปกิน รังแตน มาจากไหน วันนี้ถึงได้ บู๊แหลก จนน่าแจก แอนตาซิล ผู้เข้าร่วมประชุมแทนกาแฟ
ผู้จัดการฝ่ายผลิต นั่นแหล่ะอาการหนักสุด ระบบการผลิตล้าช้ามากต้องเร่งปรับปรุงขนานใหญ่ ข้อเสนอแนะที่ให้มาคราวก่อนยังไม่มีการริเริ่ม ดังนั้นพายุจึงไปป่วนในแผนกนี้มากที่สุด
อาการหนักรองลงมาก็เป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ จัดซื้ออะไรไปเท่าไหร่ต้องแจงรายละเอียดได้ แต่ก็นั่นแหละใครจะไปจำได้ทุกอย่างล่ะ มันก็มีลืมกันบ้างหรอก ส่วนผู้จัดการฝ่ายอื่นๆ ก็อาการสาหัสมากน้อยต่างกันไปตามสมควร จะมีก็แต่... ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เท่านั้นที่เตรียมตัวมาค่อนข้างดี ตอบปัญหาได้เคลียร์ทุกข้อ ไม่มีการอึกอักหรือนั่งนึกนานเสียเวลา เลยไม่ค่อยมีปัญหาให้นำมาเล่นงานนัก ชาริณี ธีรธาดา ฉายา คุณเชอร์รี่พิฆาต สวยสง่าอ่อนหวาน แต่ความเก่งกาจในการทำงานต้องยกนิ้วให้ และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย...การประชุมเสร็จสิ้นโดยไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียเลือดเสียเนื้อหรือเสียชีวิต หลายคนถอนหายใจ โล่งอก รอดตายไปอีกหนึ่งคราว ยกเว้น...
“คุณจีราพรครับ!” เสียงเรียกของท่านประธานหนุ่มทำเอา ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ที่กำลังเตรียม เผ่น ตามคนอื่นๆ ถึงกับสะดุ้งเฮือก
“คะ...บะ...บอส”
“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย เชิญ…” จีราพรค่อยๆทรุดตัวลงนั่งอย่างหวาดระแวงเต็มที่ ‘ตูจะโดนอะไรมั้ยล่ะเนี่ย’
“วันนี้มีใครมาสมัครงานรึยัง”
คำถามแปลก ใคร ? ไม่มีการระบุชื่อ หรือ แผนกที่สมัคร แปลว่าไม่มีการเจาะจง แล้วเขาถามทำไม?....
“เออ...ยังค่ะ วันนี้ยังไม่มีใครมาติดต่อสมัครงานนี่คะ”
“แล้ววันนี้จะมีหรือเปล่า”
“มีอะไรคะ” คิ้วคนฟังชักขมวด กับคำถามทะแม่งๆ ของคุณเจ้านายสุดหล่อ
“ก็...เอ้อ... ช่างเถอะๆ คุณกลับไปทำงานได้ละ” ชายหนุ่มตัดบทให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลได้งงเล่นอีกครั้ง คุณจีราพร ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เอ้อ! คุณจีราพร!”
“คะ...คะ...เจ้านาย” คุณจีราพร สะดุ้งเฮือกอีกครา
“ถ้าวันนี้มีใครมาสมัครงาน โทรมาแจ้งผมด้วยนะครับ” ชายหนุ่มบอกหน้าตาเฉย
