บทที่ 4 TTS EP.2 Liar Game (2)

“นี่ลูกชายฉันเอง ชื่อแทนคุณ” ทันทีที่ป๊าแนะนำผม ผมหันไปมองตาขวางใส่เขาทันที แต่ไอ้หมอท็อปนั่นก็รีบโน้มศีรษะทักทายอย่างมีมารยาท

“เอ่อ...เป็นลูกชายคนโตหน่ะครับ เป็นความหวังของตระกูลหลัก เป็นที่รักของลูกน้อง พวกพ้องเยอะ ไม่เลอะเทอะแล้วก็รักความสะอาดมากครับ” ผมพูดพลางยื่นมือออกไปทำความรู้จักกับคนตรงหน้าแต่ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจดังออกมาจากป๊าเป็นระยะ ๆ จากทางด้านหลัง

“ยินดีที่ได้พบครับ...เอ่อ...คุณแทนคุณ”

“เรียกคุณหนูก็ได้ครับ ใคร ๆ ก็เรียกแบบนั้น แต่ถ้าไม่อยากเหมือนใคร เรียก คุณ เฉย ๆ ก็ได้นะครับ” ผมว่าออกไปอย่างขำขันมือผมยังคงจับมือของหมอนั่นเอาไว้แน่น จริง ๆ มือก็แอบนุ่มอยู่นะเนี่ย อื้มมม...

“ครับ...คุณเฉย ๆ”

“แหม…ไม่อยากเหมือนใครซะด้วย” ผมพึมพำออกมาพอให้ตัวเองได้ยิน “ตลกเหมือนกันนะครับเนี่ย ผมชอบคนตลกครับ” ผมว่าพลางก็สัมผัสมือไปเรื่อย ๆอีกกำลังวิเคราะห์อยู่หน่ะว่าเป็นหมอด้านไหนวะ ทำไมผิวมือถึงดีขนาดนี้อ่ะ

“ค…ครับ”

“อะแฮ่มมม!” แล้ว กขค...หรือก้างขวางคอที่ชื่อคุณกรณ์ก็รีบดึงมือผมออกมาอย่างรวดเร็ว อะไร ? หวงลูกไง๊ ? แหมมม...ก็ลูกป๊ามันเท่อ่ะ ดูก็รู้ว่าไอ้หมอคนนี้มันน่าจะมีใจให้ผมอยู่ไม่น้อยเลยสินะ เห็นมันจ้องมาที่เสื้อตะข่ายผมยกใหญ่ แอบมองหน้าอกเหรอ? หื่นเหมือนกันนะเรา หึ!!! 100 แต้มนำไอ้มาเก๊าชัวร์! คริคริ

“วันนี้คุณท่านมาประชุมเหรอครับ”

“อื้ม ผอ.รออยู่แล้วละมั้งนี่เลยเวลานัดมาจะครึ่งชั่วโมงละ” พ่อผมไม่วายปรายตามาที่ผมเชิงตำหนิ อะไร ? ก็อยากมาหยุดคุยด้วยเองทำไมล่ะ จะมาโทษว่าไปประชุมสายเพราะผมไม่ได้นะโว๊ยยยย!!! แล้วก็หวงอยู่นั่นแหละ! ป๊าจับมือผมไม่ปล่อยเลยครับ เห้ออ...เข้าใจ ก็ลูกป๊ามันเพอร์เฟคก็ต้องหวงเป็นธรรมดาอะนะ “สอนมาเก๊าเป็นไงบ้าง” ประโยคนั้นของป๊าทำเอาผมหันไปมองพ่อตัวเองคอแทบเคล็ดอย่างกะจังหวะซิทคอม

“ดีครับ คุณมาเก๊าหัวไวมาก สอนอะไรก็เข้าใจหมด”

“รบกวนด้วยละกันนะ...อะไร” ประโยคแรกป๊าผมพูดกับไอ้หมอที่ดูแล้วหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ ส่วนประโยคสุดท้ายหันมาพูดกับผมที่ขณะนี้ผมจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย “ก็น้องมึงอยากเป็นหมอ เจ๊กเลยฝากให้ป๊าหาหมอมาติวให้” ป๊าอธิบายออกมาด้วยท่าทางเหนื่อยจะทนกับสิ่งรอบตัวเต็มที

“ไอ้มาเก๊าอะนะจะเป็นหมอ ?” ผมว่าออกไปอย่างคนที่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

“เออ!”

“เลยให้หมอ..ทง...หมอ ชื่ออะไรนะครับ” ผมเอี่ยวหน้าไปถามชื่อเขาอีกครั้ง

“ท…ท็อปครับ ท็อป ทศวรรษ”

“เออนั่นแหละๆๆ” ผมโบกไม้โบกมือตัดความรำคาญไปด้วยความเคยชิน แล้วหันมาเอ็ดตะโรป๊าตัวเองต่อด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่ทะยานไปไกลถึงขั้นสุด “แล้วทำไมป๊าต้องทำตามคำสั่งตระกูลรองด้วยเล่า ขืนไอ้มาเก๊าเป็นหมอ ธุรกิจโรงพยาบาลเราได้วายวอดพอดี คนอย่างมันต้องทำให้วงการแพทย์สั่นสะเทือนแน่ ๆ ป๊าไปสนับสนุนมันทำไมอ่ะ ว้อทททท!!!” ผมขมวดคิ้วด้วยความมึนงง สับสนมากมาย แล้วผายมือทั้งสองข้างออกไปข้างตัวเล็กน้อยราวกับต้องการคำตอบที่ป๊าผมได้กระทำการอันมิบังควรลงไป

“ก็มันหลานกู อีกอย่างหมอท็อปก็เก่งมาก จบนอกมาคะแนนสูงปรี๊ด ใคร ๆ ก็อยากได้ตัว ทำไมจะให้มาติวน้องมึงไม่ได้”

“งั้นหนูจะเรียนหมอบ้างๆๆๆๆๆๆ” ผมเผลอใช้มือสองข้างเขย่าแขนป๊าด้วยความเคยชินแบบเดิม ๆ

“มึงจะบ้าเหรอไอ้คุณ! มึงเรียนจบบริหารแล้ว” ป๊าพยายามห้ามปรามผม แต่นาทีนี้ไฟมันลุกท่วมตาจนมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แม้ป๊าพยายามจะหยุดการกระทำอันดื้อดึงของผมแค่ไหน ณ จังหวะนี้ถ้าผมลงไปแดดิ้นกับพื้นได้คงทำอ่ะ! มีสิทธิ์อะไรใช้อภิสิทธิ์ป๊ากูสั่งให้หาคนมาสอนคนเลว ๆ แบบโคตรเหง้ามึงกัน ห้ะ!!!! โอ๊ยยยย! โคตรเดียวกันอีก เอาเป็นว่า คนบ้านมึงละกัน แม่ง!

“งั้นหนูจะต่อโทหมอ...” ผมว่าพร้อมกับลมหายใจที่สูดเข้าสูดออกระรัวราวกับพายุด้านในกายกำลังใกล้จะปะทุขึ้นมาเต็มที

“กูเครียด กูอยากตาย เส้นเลือดในสมองกูแตกเลยได้มั้ย!” ป๊าผมเอานิ้วกุมขมับอีกแล้ว ผมเห็นว่าตอนนี้ป๊าผมคงพูดไม่รู้เรื่องผมเลยหันเหเป้าหมายไปยังนายแพทย์รูปหล่อสูงยาวเข่าดีผู้นี้แทน

“หมอท็อปเป็นหมอด้านไหนเหรอครับ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนหมอมันต้องผงะตัวเองออกเหมือนทรงตัวไม่ได้แล้วจะล้มไปด้านหลังจนมือมันต้องยึดกับขอบโต๊ะข้าง ๆ เอาไว้แทน...อะไรลมจะจับกันเลยเหรอ ? ดูท่าจะหลงผมเข้าให้จริงๆสินะ เห้อออ...เป็นคนหล่อนี่มันเหนื่อยจริงๆ

“เอ่อ...ศัลยแพทย์ครับ”

“เห่ยจริงดิ! อยากได้จมูกใหม่พอดีเลย” ผมรีบบอกออกไปด้วยความเนื้อเต้น

“ไอ้ลูกง้าววว!”

“โอ๊ยยยย!!!!”

แล้วพ่อผมก็โบกกบาลเข้ามาเต็มแรงเสมือนเก็บกดมานาน จนผมต้องร้องโอดครวญแล้วลูบหัวตัวเองด้วยความจี๊ด ๆ เล็กน้อย

“อะไรอ่ะป๊า!”

“หมอท็อปไม่ใช่หมอศัลย์ตกแต่งโว๊ยยยย เขาเป็นหมอเกี่ยวกับหัวใจ หลอดเลือด และทรวงอก!”

“ว้าววววววววว 0 จริงเหรอครับ...ผมรู้สึกหัวใจเต้นแรงมากเลยครับพี่หมอ ว่าง ๆ รบกวนช่วยมาดูแลหัวใจผมทีนะครับ” หมอท็อปยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจะหันไปมองพ่อผมที่ขณะนี้เอาแต่ส่ายหน้าไปมา “มาเล่นให้ใจฉันเต้นแบบนี้ ฉันว่าเธอต้องมีอาการใช่ม้ายยยยยยยย~ ใจสั่นไปหมดแล้วครับพี่หมอ! คริคริ”ผมยังคงหยอกเหย้า ให้ไอ้หมอตรงหน้าทำตัวไม่ถูกน้ำเนิ้มหกระเนระนาด จับแก้วผิดแก้วถูกหมดละ ทนออร่าแห่งนะหน้าทองกูไม่ไหวนะสิ ดีนะวันนี้ใส่ชุดทองระยับมาด้วยเสริมดวงเข้าไปอีก กูวิน! จบ!!!!

“เอาเถอะเอา กูไปประชุมละ” แล้วป๊าก็ตัดเยื่อใยผมด้วยการสะบัดมือทิ้งแล้วเดินออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้หน้าตาเฉย อายเหรอ ? จะมีลูกเขยหรือลูกสะใภ้เพิ่มอีกคนอ่ะ ชิน ๆ ได้ละนะ ไอ้คินน์ก็ก้อร่อก้อติกบอดี้การ์ดสุดที่รักมาพักใหญ่ ไอ้คิมก็ลูกผีลูกคนเดี๋ยวหญิงมั่งชายมั่ง ชินเถอะป๊า ชิน!!!

“เต้นเป็นจังหวะหัวใจหน่ะครับ...ไปก่อนนะครับต้องไปประชุมกับป๊า พอดีเป็นลูกชายคนโตแบกภาระความรับผิดชอบเยอะ ขอตัวนะครับ” แล้วผมก็แสร้งเดินตามหลังป๊าไปโดยมีไอ้พวกเห็บหมาส่งเสียงเรียกมาเป็นระยะ

“คุณหนู!...คุณหนู”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป