บทที่ 8 Chapter 8
ชลวัสหัวเราะ ค้อมศีรษะให้ดนุยศด้วยท่าทางขี้เล่นแต่คนมองกลับรู้สึกว่ากวนอารมณ์เป็นอย่างมาก
“เห็นทีว่าผมคงต้องยุ่งเรื่องนี้ซะแล้วล่ะในเมื่อเธอเลือกแบบนี้”
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ คุณมีสิทธิ์อะไร”
เพ็ญฉายทำท่าจะปรี่เข้าไปกระชากตัวเด็กสาวลงมาจากรถ แต่ถูกสามียึดตัวไว้ก่อน เธอจึงมองหน้าผู้ชายที่บังอาจมาช่วยพัลลภาด้วยตาวาววับเอาเรื่อง
“สารวัตรทำแบบนี้ได้ยังไงคะ นี่มันทำตัวอยู่เหนือกฎหมายชัด ๆ”
สารวัตรทำหน้าปั้นยาก
“ไม่เอาน่าคุณ” ดนุยศปราม ขึงสายตาห้ามเมื่อเมียรักทำท่าจะอ้าปากขึ้นมา
“พัลลภาเป็นคนของผม เราอย่ามีปัญหากันเลยดีกว่านะครับ ได้ไม่คุ้มเสียหรอกจริงไหมคุณดนุยศ”
ชลวัสจงใจพูดกับดนุยศด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก่อนหันไปค้อมศีรษะให้นายตำรวจ
“ผมรู้ว่าคุณสามารถจัดการได้ ฝากด้วยนะครับสารวัตร”
บอกลาง่าย ๆ แล้วหมุนตัวก้าวขึ้นไปบนรถ ลูกน้องคนสนิทดึงประตูปิด ก่อนวิ่งอ้อมไปประจำหน้าที่คนขับ พารถออกจากตรงนั้น ห่างไกลเสียงโวยวายของสองผัวเมีย
ภายในรถที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง พัลลภาดึงขาขึ้นมานั่งกอดเข่า ซบหน้าปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมา หมดอาลัยตายอยากในชีวิต หลงลืมไปว่าเธออยู่กับใคร รู้แค่เพียงชีวิตของเธอจบสิ้นแล้ว ไม่มีบ้านให้กลับอีกแล้ว
เธอยิ่งคิดถึงพ่อกับแม่ที่ล่วงลับไป หากพวกท่านทั้งสองยังอยู่ ชีวิตของเธอคงไม่เป็นแบบนี้
ความคิดนั้นทำให้รู้สึกสะท้อนในอก น้ำตาก็ยิ่งพรั่งพรูเป็นสาย
ชลวัสปรายตามองสาวน้อยข้างกาย ร่างเล็กสะท้านไหวเบา ๆ แม้ไร้สุ้มเสียงหากเขาดูออกว่าเธอกำลังร้องไห้
“น้ำตามันไม่ช่วยอะไรหรอกนะ อยากร้องก็ร้องซะให้พอก่อนรถจะจอด”
เสียงทุ้มของคนข้างกายทำให้พัลลภาคอแข็ง รู้สึกตัวขึ้นมาว่ากำลังอยู่กับคนแปลกหน้าที่บังเอิญช่วยเหลือเธอเป็นครั้งที่สองแล้ว
ถึงอย่างนั้น เธอไม่เงยหน้าขึ้นจากเข่า พยายามระงับจิตใจโศกเศร้า แม้ไม่รู้ว่าจะถูกพาตัวไปที่ไหน เขาจะทำอะไรกับเธอต่อไป
“อย่าอ่อนแอให้ฉันเห็นอีก”
เธอเคยบอกเขาแบบนั้น เคยสัญญา ถ้าเขาช่วยเหลือเธอจะไม่อ่อนแออีก
สาวน้อยหักห้ามน้ำตาได้สำเร็จก่อนที่รถจะวิ่งเข้ามาจอดในคอนโดหรูหราแห่งหนึ่ง ถึงอย่างนั้นในจิตใจก็ยังย่ำแย่แตกสลายเกินกว่าจะฝืนทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาได้ มัวจมจ่อมอยู่กับความเศร้ากำสรด จนไม่อินังขังขอบแม้เข้ามาอยู่ในห้องพักกว้างขวางหรูหรากับชลวัสตามลำพัง
ชายหนุ่มสั่งอาหารขึ้นมาให้ เด็กสาวทานเหมือนแมวดม จากนั้นก็นั่งกอดเข่าเจ่าจุกอยู่บนโซฟาราวกับจะสิงสถิต จากบ่ายจรดค่ำ
เหตุการณ์พวกนั้นอยู่ในสายตาคมที่มองออกมาจากห้องทำงาน เขาหงายศีรษะพิงพนักเก้าอี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กสาวที่วินทกรหามาได้วิ่งวุ่นอยู่ในสมอง
พัลลภา ฉัตรประไพ...
พัลลภาเป็นลูกสาวของนายหน้าค้าที่ดินผู้มีฐานะร่ำรวย นายเผดิม ฉัตรประไพกับนางเดือนเด่นพี่สาวฝาแฝดของนางเพ็ญฉาย ภรรยาของนายดนุยศคนปัจจุบัน นายเผดิมกับนายดนุยศร่วมลงทุนทำธุรกิจอาหารแช่แข็งด้วยกันโดยที่นายดนุยศเป็นหัวเรือใหญ่นั่งแท่นบริหาร กิจการเติบโตทำรายได้มหาศาล ทว่าเมื่อสามปีก่อน นายเผดิมกับภรรยาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พัลลภาจึงอยู่ภายใต้การดูแลของนางเพ็ญฉาย ญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
จากชีวิตคุณหนูคนเดียวของบ้าน ย้ายมาอยู่ในบ้านดนุยศในฐานะหลานสาวของเพ็ญฉาย แม้จะได้เรียนหนังสือ มีเสื้อผ้าดี ๆ อาหารการกินสมบูรณ์ แต่การใช้ชีวิตนั้นไม่ต่างจากคนรับใช้
จากเจ้าหญิงตกต่ำลงมาเป็นเพียงแค่นางซินก้นครัว
ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มหยันให้เพดาน ชีวิตคนเราก็แบบนี้ หาความแน่นอนไม่ได้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด ส่วนคนอ่อนแอก็เป็นได้แค่เหยื่อ
เขาเกลียดความอ่อนแอ
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น เดินตรงมาหาสาวน้อย ดึงร่างเล็กขึ้นมาจากโซฟา
พัลลภาตื่นตกใจในการคุกคามรวดเร็ว เธอขืนตัวดิ้นรนแต่กลับถูกจับต้นแขนไว้แน่น
“จะทำตัวซังกะตายอีกนานไหม เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดนะ เธออยากให้ฉันรู้สึกเสียใจที่เลือกช่วยเธองั้นรึไง”
“คุณไม่เข้าใจหนูหรอก” ไม่มีใครเข้าใจความเจ็บปวดที่เธอกำลังเผชิญ
“หนูไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีบ้านให้กลับอีกแล้ว”
พัลลภาเสียงสั่นเครือเมื่อพูดถึงประโยคนี้ ความบีบคั้นน้ำใจกลุ้มรุมสุมหัวอกของคนไร้ญาติขาดมิตร เขาจะเข้าใจดีได้ยังไง
“ที่มหา’ลัยคงรู้เรื่องหมดแล้ว หนูไม่มีที่เรียนแล้ว”
เพื่อนสักคนก็ไม่เคยติดต่อมาหานับแต่เกิดเรื่องกับดนัยวิช เธอในตอนนี้เป็นแค่เพียง ฆาตกรตัวดีที่หนีไม่พ้นถูกจับได้ ทุกคนถึงมองเธอด้วยความกราดเกรี้ยวฉุนเฉียว
“ชีวิตหนูไม่เหลืออะไรแล้ว” น้ำตาเม็ดโตกลิ้งลงมาบนนวลแก้ม
เธอไม่อยากร้องไห้ แต่มันทำใจยากเหลือเกิน
“เรื่องที่เธอเจอมา มันยังไม่ใช่ความบัดซบที่สุดในโลกใบนี้หรอก”
ชลวัสไม่ได้ตะคอกหรือดุดัน น้ำเสียงของเขาติดกลั้วหัวเราะเสียด้วยซ้ำ เธอฟังแล้วกรุ่นอารมณ์ เธอสิ้นหวัง เสียใจ หมดหนทาง เขากลับไร้ความเห็นใจ เธออดคิดค่อนขอดในใจไม่ได้ ขณะป้ายมือเช็ดน้ำตาลวก ๆ
...ผู้ชายคนนี้เคยเดือดเนื้อร้อนใจจะเป็นจะตายเหมือนคนอื่นเขาบ้างไหม
“หลุดจากทุ่งลาเวนเดอร์เจอโคลนตมติดเท้าเข้าหน่อยก็จะเป็นจะตายแล้ว”
