บทที่ 6 ตอนที่6
“ก็ใช่น่ะสิ….น้องน้ำใสไม่ต้องหวังหรอกนะครับ…ว่านอนกับผมเมื่อคืนนี้…”
“แล้วจะได้เงินค่าตัวน่ะ…”
“เพราะผมไม่มีจ่ายหรอกนะ^^”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!”ทันทีที่หนุ่มหน้าหล่อพูดจบเจ้าหล่อนคนนั้นก็แผดเสียงกรี๊ดออกมาซะเต็มเแก้วเสียงที่เธอมีเลยล่ะ ฉันที่ทนต่อเสียงกรี๊ดไม่ไหวจึงต้องรีบวิ่งกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ยอมปล่อยมือลงมาจากหูทั้งสองข้างเลยล่ะ
“เดี๋ยวก่อนสิครับ…”
“คนสวย!!”
“เธอชื่ออะไรอ่ะ…!”
“เราชื่อเคนโซนะ^^”เสียงนายหน้าหล่อนั้นเอ่ยเรียกฉันและเอ่ยถามชื่อฉันพร้อมกับบอกชื่อเขาดังมาจากด้านหลังของฉันแต่ฉันไม่ได้หันกลับไปมองหน้าเขา เพราะดูเสื้อผ้าที่ฉันสวมใส่อยู่ตอนนี้สิ มันช่างโป๊เปลือยอะไรได้ขนาดนั้น
“บ้า!”
“แกจะไปนึกถึงเรือนร่างของผู้ชายคนนั้นทำไม!”ฉันสะบัดศีรษะอย่างแรงเพื่อให้สมองลบภาพเรือนร่างที่ขาวละเอียดของนายหน้าหล่อนั้นให้ออกไปจากหัวสมองของฉัน
“ภาพยังติดตาอยู่เลย…”ฉันย่นจมูกและพึมพำออกมาก่อนจะเอนตัวนอนคว่ำหน้าลงไปบนที่นอนของตัวเองที่ร้อนแสนร้อนเพราะฉันนอนแอร์จนชิน แต่นี้มีแต่พัดลมตัวจิ๋วตัวเดียว แต่ฉันต้องอดทน อดทน….เท่
านั้นสินะ
วันเดียวกัน
12:30น.
บ้านของคุณป้าเจ้าของบ้านเช่า
ขวัญเอย กมลวรรณ….
พรึบ
“ทำไมคุณป้าไม่บอกหนูล่ะค่ะว่าหนูมีรูมเมท?”ฉันเอ่ยถามคุณป้าเจ้าของบ้านไปอย่างเอาเรื่อง ที่เธอไม่ยอมบอกฉันในตอนที่ฉันไปดูบ้านและตกลงเซ็นสัญญาเช่าบ้านกับเธอ
“ถ้าป้าบอก…หนูก็ไม่เอาน่ะสิ”คุณป้าเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าแหยๆ เพราะเธอคงจะเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของฉันน่ะ
“ถือว่าช่วยๆกันนะ…หนูก็มีห้องนอนส่วนตัวหนิ…พ่อหนุ่มเขาไม่ยุ่งหรอกนะ…”
“เขาเป็นเด็กดี^^”
“เด็กดีอะไรคะ…ไม่มีตังค์มาจ่ายค่าเช่าคุณป้าน่ะ?”
“ก็เพราะเรื่องนี้ไงจ๊ะ…ป้าถึงต้องหาทางออกให้กับตัวป้าเองและพ่อหนุ่มคนนั้น…”คุณป้าว่าเสียงอ่อนพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าลงให้ฉันรู้สึกเห็นใจเธอ ซึ่งมันก็ได้ผล ฉันเห็นใจเธอจริงๆ
“แม่หนูเองก็เดือดร้อนไม่ใช่เหรอจ๊ะ….และแม่หนูก็จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้ป้าแล้วด้วย…”
“อดทนอยู่ต่อเถอะนะจ๊ะ…”
“ค่ะ…ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ…”ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเบาบอกคุณป้าไป เพราะยังไงๆฉันก็ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเช่าบ้านเดี่ยวหรือคอนโดอยู่อยู่แล้วล่ะ ฉันต้องจำใจอยู่ในบ้านเช่าหลังน้อยที่มีรูมเมทเป็นผู้ชายนี้ต่อไป เขาคงจะไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง น่าตาเขาก็ไม่ได้ดูเลวร้ายและมีพิษมีภัยอะไร
“ดีแล้วจ้ะหนูขวัญเอย^^”คุณป้าว่าพร้อมกับยิ้มกว้างให้ฉันสีหน้าของเธอเปลี่ยนเร็วดีนะ ผิดกับฉันที่ทำหน้าแหยๆอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เพราะมันไม่มีทางเลือกให้ฉันเลือกอยู่แล้ว
“งั้นหนูขอตัวก่อนค่ะ…”ฉันเอ่ยบอกคุณป้าพร้อมกับยกมือไหว้ลาท่าน
“สวัสดีจ๊ะ^^”คุณป้ายกมือรับไหว้ฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่านและลุกขึ้นจากโซฟาตัวแพงของคุณป้าเจ้าของบ้านยืนเต็มความสูงและเดินออกมาจากบ้านของเธอ เพื่อจะไปยืนรอพี่คีรีที่หน้าบ้านเช่าของฉัน เพราะเขาบอกว่าเขาจะมารับฉันไปมหาลัย เพราะฉันเพิ่งจะมาอยู่โซนนี้เป็นครั้งแรก เลยไม่รู้ว่าฉันจะเดินทางไปมหาลัยของฉันได้ด้วยวิธีไหนน่ะสิ
วันนี้ฉันมีเรียนบ่ายก็เลยไปมหาลัยบ่ายๆนะ
ติ๋ง(เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของขวัญเอย)
พรึบ
เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของฉันดังทำให้ฉันหยุดเดินเป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันถึงหน้าบ้านเช่าพอดี ฉันจึงเอื้อมมือลงไปในกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมรุ่นดังของฉันเพื่อควานหาสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของฉันในกระเป๋า
พรึบ
และเมื่อมือฉันคว้าโดนสมาร์ทโฟนของฉันแล้ว ฉันก็หยิบมันขึ้นมาและเปิดอ่านข้อความในแอปพลิเคชั่นไลน์ทันที
พี่คีรี:น้องเอยคะ…ขอโทษทีนะคะพี่ไปรับน้องเอยไม่ได้แล้ว..พอดีพี่ติดประชุมด่วนค่ะ
“เห้อ….”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาเมื่ออ่านข้อความของพี่คีรีจบแล้ว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ ฉันจะไปมหาลัยยังไง?
ขวัญเอย:ไม่เป็นไรค่ะ…พอดีเพื่อนเอยอยู่แถวๆนี้พอดีค่ะ…เพื่อนเลยจะมารับเอย…พี่คีรีทำงานเถอะนะคะไม่ต้องห่วงเอยค่ะ
ฉันพิมพ์ข้อความตอบกลับพี่คีรีไป ถึงแม้ฉันจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจของฉันมันก็แอบเสียใจอยู่นะ ที่เขามีเวลาให้ฉันน้อยลงตั้งแต่พี่คีรีเข้าไปบริหารงานแทนคุณอาเกริกพลคุณพ่อของเขาน่ะ
ปื้นๆๆๆๆๆ(เสียงของเครื่องมอเตอร์ไซค์)
พรึบ
“ให้ผมไปส่งไหมครับ…น้องสาวคนสวย^^”เสียงทุ้มละมุนเอ่ยออกมาจากผู้ชายหน้าหล่อที่ขี่รถบิ๊กไบค์คันใหญ่มาจอดเทียบด้านข้างของฉันพร้อมกับดับเครื่องยนต์ที่เสียงดังกระหึ่มของเขาลง
