บทที่ 2 ความจริงที่เพิ่งรู้2/2

“ฟางซิน นางแพศยาน่ารังเกียจ เจ้ากล้าดีเช่นไรถึงกล้าอ่อยคนของข้าลับหลังข้า 3 ปี 3ปีอย่างนั้นหรือ”

เยว่ลี่อิงไม่เพียงแต่ด่าทอหลี่ฟางซินเท่านั้น ยังใช้มือขย้ำมวยผมและกระชากจนตัวปลิวลงไปกองกับพื้น ก่อนจะง้างมือตบใบหน้าหลี่ฟางซินอย่างเต็มแรงจนหน้าหัน เสียงตบนั่นทำให้เฟยห้าวเทียนที่มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สติ ลุกขึ้นจับข้อมือของเยว่ลี่อิงที่กำลังจะทุบตีสนมรักของตน

“เยว่ฮองเฮาเจ้าบ้าไปแล้วหรือ”

เยว่ลี่อิงเงยหน้ามองสามีที่จับมือตนด้วยสายตาโกรธเคืองดวงตาแดงก่ำแต่กลับมีน้ำใสๆ คลออยู่บ่งบอกถึงความโกรธเกลียดปนความเสียใจจนยากจะบรรยาย

“ใช่เพคะ หม่อมฉันบ้าไปแล้วที่คบฟางซินนางอสรพิษเป็นเพื่อน”

เมื่อพูดจบเยว่ลี่อิงสะบัดมือของสามีอันเป็นที่รักออกหมายจะเข้าไปตบตีหลี่ฟางซิน เฟยห้าวเทียนพยายามจับตัวนางไว้ไม่ให้เข้าไปทำร้ายสนมที่ตนรักได้อีก แต่ด้วยแรงแห่งความโกรธของเยว่ลี่อิงมือไม้ที่ปัดแกว่งไปทั่ว จนเฟยห้าวเทียนหมดความอดทนจึงผลักนางล้มก้นกระแทกกับพื้นแล้วหยิบจอกสุราขึ้นมาเทลงบนศีรษะของนาง

“ข้าว่าสุรานี้คงทำให้ฮองเฮาได้สติขึ้นบ้าง”

เยว่ลี่อิงอ้าปากจะกรีดร้องโวยวายออกมาแต่กลับชะงักเมื่อนางนึกถึงบ้างสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้

‘เหตุการณ์นี้เหมือนกับที่ข้าฝันเมื่อคืนนี้เลย ตอนตื่นมาข้าก็คิดว่าเป็นเพียงฝันจึงไม่ใส่ใจ แต่ตอนนี้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วหรือเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น’

เยว่ลี่อิงเงยหน้ามองบุรุษที่ตนรัก แต่แววตาของเฟยห้าวเทียนนั้นกลับมองมาด้วยความเกลียดชัง นางจึงลุกขึ้นยืนมองหน้าสามีอันเป็นที่รัก

“ใครกันแน่ที่เป็นนางอสรพิษ” เยว่ลี่อิงและเฟยห้าวเทียนเอ่ยพร้อมกัน

“นี่เจ้า” เฟยห้าวเทียนอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของนางที่พูดเหมือนเขาทุกคำไม่มีตกหล่นราวกับรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะพูดอะไรออกมา

ส่วนทางเยว่ลี่อิงก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน แต่นางไม่ได้พูดออกมาเพียงแค่คิดอยู่ในใจ ‘เหมือนกับในฝันไม่มีผิด หรือนั้นคือนิมิตบอกเหตุ หากเป็นเช่นนั้นจริงข้าก็ไม่ควรจะอาละวาดต่อ ควรหยุดไว้เท่านี้ไม่เช่นนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้อาจส่งผลให้ครอบครัวของข้าต้องเดือดร้อนและอับอาย’

เฟยห้าวเทียนยืนพินิจมองสตรีที่ตนรังเกียจแต่ต้องทนอยู่ด้วยมานานถึงสองปีอย่างสงสัย  ‘ตั้งแต่เมื่อไรกันที่นางคิดอ่านความคิดของข้าได้ถึงเพียงนี้แม้แต่คำพูดของข้านางยังคาดเดาออก’

แต่ไม่ทันที่เฟยห้าวเทียนจะเอ่ยกล่าวสิ่งใดต่อ เยว่ลี่อิงก็คอบกายคารวะเขาแล้วหมุนตัวกลับไปในทันที ปล่อยให้เขายืนสงสัยในการกระทำของนางเพราะปกติแล้วนางจะต้องไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้เป็นแน่

ส่วนหลี่ฟางซินที่นั่งอยู่กับพื้นกลับกำหมัดตนแน่นเพราะไม่เป็นไปอย่างใจตนคิด ตอนแรกที่โดนตบก็คิดว่าดีเช่นกันจะได้เปิดเผยความจริงระหว่างนางกับเยว่ลี่อิงเสียที นางก็เบื่อที่ต้องตีหน้าแสดงเป็นเพื่อนที่รักใคร่กันเต็มทนแล้ว และด้วยนิสัยเยว่ลี่อิงในตอนนี้ ย่อมอาละวาดจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตแน่นอน ที่แล้วมาเยว่ลี่อิงจัดการเหล่าสนมลับหลังเฟยห้าวเทียน เขาก็ทำเป็นไม่เห็นปล่อยผ่านไปได้ แต่ครั้งนี้เยว่ลี่อิงทำร้ายสนมที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อกันต่อหน้าต่อตา จึงทำให้นางมั่นใจว่าการเจ็บตัวของนางครั้งนี้ไม่สูญเปล่าเป็นแน่

นางไม่ได้คาดหวังว่าเยว่ลี่อิงจะโดนลงโทษร้ายแรงเพราะรู้ว่าอย่างไรไทเฮาจะต้องช่วยนางเป็นแน่ แต่หวังเพียงขอให้เยว่ลี่อิงโดนเฟยห้าวเทียนลงโทษเพียงเล็กไม่ว่าจะกักบริเวณหรือคัดอักษรก็ดี เพราะการลงโทษเช่นนี้ไทเฮาย่อมไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว และยังเป็นการประกาศความโปรดปรานที่เฟยห้าวเทียนมีต่อนางให้คนในวังหลังได้รู้อีกด้วย เพราะที่ผ่านมาเยว่ลี่อิงไม่เคยโดนลงโทษเลยสักครั้งไม่ว่าจะทำร้ายสนมมากน้อยเพียงใด

แต่บัดนี้สิ่งที่นางหวังกลับไม่เป็นอย่างที่คิดแถมนางยังเจ็บตัวอีก ความคับข้องใจครั้งนี้นางจึงทำได้แค่อดกลั้นไว้เท่านั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป