บทที่ 7 7
“มึงเป็นใครวะ ถึงได้กล้าดีมายุ่งกับผู้หญิงของเสี่ยวาโย” หนึ่งในนั้นยังคงพูดออกมาด้วยความหัวเสีย เพราะหากพวกมันพาตัวผู้หญิงคนนี้กลับไปไม่ได้ เสี่ยก็คงเล่นงานพวกมันหนักพอควร
“ปล่อยเถอะค่ะหมอ ฉันต้องไป” เวทิกาเอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยไม่มีทางปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น เพราะถึงอย่างไรการที่เธอมานั่งอยู่ที่โรงแรมนี้ก็คือการยอมรับสภาพเป็นผู้หญิงของเสี่ยวาโยไปแล้ว
“อยู่เฉยๆ” พลางหันไปส่งสายตาดุกับหญิงสาว เขาไม่มีทางปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน และยิ่งรู้ว่าไม่ได้เต็มใจที่จะไปด้วยแบบนี้
“ไม่ได้ยินหรือไง หรือมึงอยากจะมีเรื่องกับเสี่ย”
หนึ่งในนั้นยังคงขู่ต่อไป และแน่นอนว่าอัคคีไม่ได้มีความเกรงกลัว ในเมื่อพวกมันกำลังยืนอยู่ในถิ่นของเขา อย่างไรคนได้เปรียบก็ต้องเป็นฝ่ายพวกมันอยู่วันยังค่ำ
“ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียฉัน”
“หมอ!” เวทิกาอึ้งกับคำป่าวประกาศของชายหนุ่มไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย ที่สำคัญ เธอกับเขาเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวัน และรู้จักกันเพียงฐานะหมอกับคนไข้เท่านั้น
“เมีย? ฮ่าๆ ตลกสิ้นดี ถึงยังไง เมียมึงก็ขายตัวให้เสี่ยกูเรียบร้อยแล้ว” พวกมันมองหน้าอัคคีอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกรอบ
“อย่าให้กูต้องพูดซ้ำว่าโรงแรมที่นี่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเยอะแค่ไหน และตอนนี้พวกมึงกำลังทำให้คนในโรงแรมตกใจ ถ้าไม่อยากมีเรื่องให้ต้องสาวถึงเสี่ยของพวกมึงก็กลับไปซะ เพราะกูมั่นใจว่าถ้าเรื่องถึงเมื่อไหร่ เสี่ยของมึงไม่รอดแน่” ชักหมดความอดทนที่จะพูดดีๆ กับคนพวกนี้ เขาทนให้พวกมันมาสร้างความวุ่นวายที่โรงแรมของเขามานานเกินไปแล้ว
“นี่มึง!” พวกมันหันมองหน้ากัน พร้อมกับมองไปรอบๆ โรงแรม แล้วพบว่ามีหลายสายตาจับจ้องมา ย่อมไม่เป็นผลดีแน่หากเรื่องนี้ล่วงรู้ถึงตำรวจ
“หมอพูดบ้าอะไรออกไป ยังไงฉันก็ต้องไปกับพวกมัน” เวทิกาเอ่ยขึ้นให้ได้ยินกันแค่สองคนกับหมอหนุ่ม
“อยู่เฉยๆ คุณอยากขายตัวมากหรือยังไง” อัคคีจ้องหน้าพลางดุหญิงสาวข้างกาย หรือต่อให้เธออยากขายตัวตอนนี้ เขาก็ไม่มีทางยอม!
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ส่วนเธอ เสี่ยไม่เอาเธอไว้แน่...”
พวกมันขู่หญิงสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะยอมเดินออกจากโรงแรม นาทีนั้น เวทิการีบสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของหมอหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
“นี่หมอทำบ้าอะไร รู้ไหมคะว่าคุณกำลังทำให้ฉันกับครอบครัวต้องเดือดร้อน” ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปสู้แม่ได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้ เธอทำให้ทุกอย่างพังไปจนหมดสิ้น ที่สำคัญคือไม่มีเงินไปใช้หนี้ไอ้เสี่ยบ้ากามคนนั้นด้วย
“ไปกับผม”
ร่างสูงจูงมือหญิงสาวให้เดินตามตนเองไปอย่างเอาแต่ใจ คิดว่าเรื่องที่จะพูดกับหญิงสาวต่อไปนี้หากคุยกันในที่สาธารณะย่อมไม่ใช่ผลดีต่อเขาและตัวเธออย่างแน่นอน
“ปล่อยฉันนะ จะพาฉันไปไหน”
เวทิการ้องโวยวายอีกครั้ง นี่มันเรื่องบ้าอะไรที่หมอคนนี้จะมาพาเธอไปไหนก็ได้ เขากำลังทำให้เธอเจอกับปัญหาใหญ่อีกครั้ง
“หรือคุณอยากให้คนอื่นรู้กันหมดว่าคุณกำลังจะขายตัว ไม่สิ ต้องบอกว่าค้าประเวณีกันในโรงแรมของผม”
คนตัวสูงหยุดจ้องหญิงสาว แล้วเอ่ยด้วยสายตาจริงจัง เมื่อเห็นว่าเวทิกาสงบลงได้จึงเดินจูงมือเธอต่อไป และเป้าหมายก็คือชั้นสามสิบของโรงแรม ซึ่งก็คือคอนโดฯ ที่เขาพักอาศัย
อัคคีพาเวทิกาเข้ามาในเพนท์เฮาส์ของตนเองได้สำเร็จ แม้ว่าหญิงสาวจะมีท่าทีไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้อยากจะคุยกันให้รู้เรื่อง การที่อ้างสิทธิ์ว่าเธอเป็นเมียเขาย่อมทำให้สาวเจ้าเดือดร้อนแน่นอน และเขาเองก็อยากจะช่วยเธอไม่ให้ต้องมีปัญหาตามมาทีหลัง
“หมอมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา เพราะฉันมีธุระต้องไปทำ”
เวทิกาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมอัคคีต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตตนนัก จริงอยู่ว่าเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากคนหนึ่ง แถมยังมีรูปร่างที่ดูดีแบบที่ผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้ต้องรู้สึกหลงเสน่ห์ แต่ถึงอย่างนั้น หญิงสาวก็ไม่มีเวลามาคิดเขินอายอะไร เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะมองผู้ชายคนไหนอีกแล้ว
“ธุระที่ว่าคือกลับไปถวายตัวให้กับไอ้เสี่ยนั่นหรือยังไง” อัคคีถามอย่างไม่พอใจ นี่เขาอุตส่าห์ช่วยให้เธอรอดพ้นมาได้ แต่สาวเจ้ากลับยังจะพาตัวเองไปเข้าถ้ำเสืออีกอย่างนั้นหรือ
“แล้วฉันมีทางเลือกอื่นหรือไงคะ ทั้งหมด มันเป็นเพราะหมอไม่ใช่เหรอที่พูดบ้าๆ ว่าฉันเป็นเมีย ทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” หญิงสาวโวยวายออกมาด้วยความโมโหเกินทน ใช่ว่าอยากจะขายตัวให้เสี่ยวาโย แต่เพราะไม่มีทางเลือกอื่น และเธอก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้พวกมันด้วย วิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือเอาตัวเข้าแลกตามที่แม่ต้องการ
