บทที่ 9 บทที่ 9 เจ้ากรรมนายเวร!!

บทที่ 9 เจ้ากรรมนายเวร!!

“ไปไหนมานานเลย!” เดือนอ้ายที่เหงื่อโซมกายเธอเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาอยู่ด้านในสุดของโต๊ะ โดยที่เพื่อน ๆ ต่างมองและถามเธอด้วยความสงสัย เพราะใบหน้านวลเลิ่กลั่กขั้นสุด!

“หนีอะไรมาแก...” พราวยื่นทิชชูให้เพื่อนเช็ดเหงื่อออกจากดวงหน้า

“เปล่า ๆ ชน ๆ ๆ” เธอหยิบแก้วค็อกเทลขึ้นและชูขึ้นสูงเพื่อน ๆ ก็ต่างเฮโลกันเข้ามาชน ทุกเกมในวงเหล้าที่มีบนโลกนี้เธอและเพื่อนต่างเล่นกันอย่างสนุกสนาน

หญิงสาวถอดรองเท้าส้นสูงออกและยืนขึ้นบนโซฟา คู่กันกับเพื่อนสนิทสุดแสบของเธอ ก่อนจะออกลีลาวาดลวดลายร่อนเอวคอดกิ่วเต้นสะบัดแข่งกับเพื่อน

โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมกริบสองคู่จ้องมองเธออยู่ คนละมุมของคลับนี้…

“วู้ววววว” เสียงเพลงที่ดังกึกก้องหลังจากจบดนตรีสดไป เป็นเพลง EDM ที่เข้ากับเตกิลาที่เรียงรายกันอยู่ในแก้วช็อตสีใสนับสิบแก้วในถาดวางตรงหน้านี้!

มือหนาของเพื่อนผู้ชายใจหญิงที่ยกขวดเตกิลาและเทลงในถาดวางแก้ว เสียงกรีดร้องสะใจดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือรัว ๆ เมื่อเธอยกแก้วกระดก 5 แก้วติด และออกท่าเต้นชนิดที่โต๊ะด้านข้างต้องมาขอชน!!

“เด็ดจัด...” กันนาร์พูดขึ้นและยกแก้วเหล้าตัวเองขึ้นดื่ม…

“ไม่สนใจจริงสิ...” เมฆมองหน้าอนาวิล และเอ่ยถามซ้ำอย่างยียวน

“พูดถึงใครกันหรือคะ?” หญิงสาวที่ขนาบข้างอนาวิลเอ่ยถามตามประสาคนสอดรู้สอดเห็น

“อะ...เอ่อ คือกุ๊กกิ๊กแค่ถามเฉย ๆ ค่ะคุณวิล...” แต่เมื่อเจอกับดวงตาคมกล้าของคนข้างกายเธอที่มองมา ขนที่หัวเธอก็ลุกชัน…

“เอาเด็กร้านมึงออกไปซะที...กูไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นนี้!” อนาวิลหยัดกายลุกขึ้นและเดินไปยืนอยู่หน้าโต๊ะทรงสูงด้านหน้าที่อยู่ในเขตของ VIP เหมือนเดิมนี่แหละ

“เออ ๆ แต่ค่าดื่มมึงต้องจ่ายนะเว้ย! คนนี้สตาร์ต 8 ดื่มเลย” กันนาร์โบกมือไล่เด็กในสังกัด ที่คนดูแลเลาจน์จัดมาให้บอกเด็ดสุดในร้าน แต่เพื่อนเขาก็ไล่เปิดเปิงหมด!

“ไม่เอาคนเดิมมาให้มันล่ะ...น้องอะไรนะ” เมฆถามออกมาเพราะคาใจว่าคนเดิมที่มานั่งติด ๆ กันหลาย ๆ วัน สวยกว่านี้...

“ชื่อน้อง ‘เอมมี่’ แต่ไม่ว่างอะสิ! แขกซื้อดื่มไปเที่ยวญี่ปุ่นมั้ง...” อนาวิลหันไปมองหน้าเพื่อน

“มองกูทำไม? ก็กูถามแล้วว่าจะเลี้ยงไหม? ถ้าเลี้ยงกูจะเก็บไว้ให้ มึงก็ลีลานู่นนี่นั่น! สรุปหมาก็คาบไปแดกสิครับ!” กันนาร์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเลานจ์เขาพูดเรื่องพวกนี้ได้อย่างคล่องแคล่วเพราะเอาตรง ๆ ก่อนจะทำร้านพวกนี้เขาก็คือลูกค้าชั้น 1 ดี ๆ นี่แหละ!

เมฆเดินมาโอบไหล่อนาวิลและหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เมื่อสายตาของเพื่อนที่มองไปเป็นโต๊ะหญิงสาวคนเดิม

“หึ...มัวแต่ด้อม ๆ มอง ๆ จะง้อก็ง้อ...มึงดูค็อกเทลไฟลุกที่บาร์นั่น พวกผู้ชายหน้าโง่ด้านล่างนั้นซื้อแจกเธอ!”

“..........” อนาวิลไม่ตอบแต่ยกแก้วขึ้นดื่มแทน

“ระวังหมาจะคาบไปแดกอีกคน” ริมฝีปากหยักยกยิ้ม ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนรุ่นพี่

“เคยเห็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟปะ...นั่งรอชมกันได้เลย”

เมฆและกันนาร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยในคำพูดของเพื่อนสนิท และยิ่งเห็นรอยยิ้มร้าย ๆ ของมันที่มองไปทางโต๊ะผู้หญิงคนนั้นแล้ว พวกเขารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ แทนเหลือเกิน

“เดือนอ้าย...” เสียงคุ้นเคยที่ตะโกนเรียกเธอจากด้านหลัง หญิงสาวที่กำลังวาดลวดลายแข่งกับเพื่อนถึงกับชะงักและหันไปมองตามเสียงเรียก

“!!” ใบหน้าคมคายขอบตาแดงก่ำจ้องมองเธอราวจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวถอยหลังไปสองก้าวทั้งที่ตัวเธอเองก็ยืนอยู่ห่างจากเขาตั้งไกล

“ขอคุยด้วยหน่อยสิ...” คมสันก้าวขายาวเดินเข้ามา และเอ่ยประโยคขอร้องด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนแต่ดวงตาเขากลับไม่ใช่แบบนั้น!

“..........” มือเรียวของพริบพราวสอดเข้ามาในมือเธอและกระชับแน่น

“นะอ้าย...ผมขอเวลาให้ผมได้อธิบายอะไร...”

“หุบปากและไปไกล ๆ” เดือนอ้ายเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง ก่อนจะกระชับมือเพื่อนกลับไปแน่น ทั้งที่เธอกลัวแสนกลัวเขา แต่เธอก็ต้องทำทีไปว่าไม่ได้กลัวเลย!

ร่างเพรียวระหงก้าวลงจากโซฟา ก่อนจะยกแก้วเตกิลาที่เหลือกระดกเข้าปาก แต่ก็ต้องกรีดร้องเมื่อร่างสูงของคมสันพุ่งตัวเข้ามาจะกระชากตัวเธอไป

“หยุดนะเว้ย! หย่ากันไปแล้วก็จบไปสิวะ!” เพื่อนชายใจเป็นหญิงเธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอาตัวเข้ากันร่างเธอไว้ ตอนนี้เพื่อนเธอตั้งป้อมปราการดักทางไม่ให้เขาเข้าถึงตัวเธอได้!

“มึงอยากตายหรือไงถึงมาเสือกเรื่องผัวเมีย!!” แม้เขาจะตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ท่าทีที่เขาแสดงมันต่างกันออกไป

หากไม่ได้ยืนอยู่ใกล้ ๆ คงคิดว่าเขาแค่ทักทายตามประสาคนรู้จัก แต่ความจริงแล้วตอนนี้ถ้าเขาลากเธอออกไปได้! เขาฆ่าเธอแน่!!

“เพื่อนฉันหย่ากับแกแล้ว!! แกไม่จบใช่ไหม!!” พริบพราวตวาดออกไปพร้อมกับแก้วเหล้าที่ขว้างไปโดนตัวคมสันด้วย

เดือนอ้ายกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ร่างกายเธอสั่นสะท้านอัตโนมัติเมื่อเห็นท่าทีคุกคามของคมสัน ภาพเก่า ๆ ที่เขาเดินก้าวสามขุมเข้ามาและทุบตีเธอมันยังคงฝั่งลึกลงในสมองจนทำให้ร่างกายเธอแสดงอาการต่อต้านออกมาเป็นการกระตุกเกร็ง

“อ้ายแกเป็นอะไร...ไม่ต้องกลัว มันทำร้ายแกเหรอ” คริสหันมาจับแขนเพื่อนที่เอาแต่เกร็งตัว

“อ้ายมันตีแกใช่ไหม! เฮ้ยมึงตีเพื่อนกูเหรอ!” คริสตะโกนแหวกออกไปขณะที่พริบพราวและเพื่อนชายใจหญิงเธอกำลังเถียงกันกับคมสัน

เดือนอ้ายพยายามจะพูดออกไปว่าอย่าไปทะเลาะกับคมสัน เพราะเวลาเขาโกรธเขาฆ่าได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งสุนัขที่เลี้ยงไว้เขาก็ตีมันจนตายเพราะโมโหที่มันมาฉี่ใส่ล้อรถเขา…

“ไม่ต้องกลัวพวกฉันจะปกป้องแกเอง! แกสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พราวไปตามการ์ดหน้าร้านมาเลย!” เดือนอ้ายสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ตามที่เพื่อนบอก ก่อนจะเซล้มไปเพราะคมสันพุ่งตัวเข้ามาจับแขนเธอได้!!

“กรี๊ดดดดด!!”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากมุมทางด้านนั้น...อนาวิลยกแก้วบรั่นดีรสเข้มจัดขึ้นดื่ม ความขมปร่าไหลลงสู่ลำคอ เขายกยิ้มและยื่นแก้วให้กับเด็กเสิร์ฟเพื่อเติมเหล้าอีกหน่อย

“มีเรื่องไรกันวะ!” กันนาร์ที่เห็นความชุลมุนวุ่นวายมาจากโต๊ะเด็กเพื่อนก็สะกิดบอกมัน แต่สิ่งที่มันทำคือส่ายหัวเข้ากับจังหวะเพลงที่ดีเจเปิด!

“ไอ้เหี้ยมีผู้ชายลากเด็กมึงไปแล้ว!!” กันนาร์เอ่ยบอกด้วยความตกใจ แต่เพื่อนเขากลับเฉยใส่เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น!!

อนาวิลหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนไฟในร้านที่ปิดมืดจะสว่างขึ้นแบบสลัว ๆ และเพลงจากจังหวะสะบัดหัวสั่นหัวคลอน ก็เบรกเปลี่ยนเป็นเพลงช้าโดยไม่ได้บอกหรือแจ้งลูกค้าล่วงหน้า

“ตำรวจลงเหรอวะ? เฮ้ย! แต่ใครจะมากล้าลงวะ?” กันนาร์ถามย้ำอีกครั้ง แต่เขากลับไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย นอกจากใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่ดวงตาสีเทาเข้มกลับยิ้มเยาะ...

กลิ่นน้ำหอมหวาน ๆ ลอยมาปะทะจมูกเขาพร้อมกับร่างเพรียวระหงที่สอดกายมุดโต๊ะทรงสูง และโผล่มาอยู่ด้านหน้าเขา มือเรียวยกขึ้นโอบกอดรอบลำคอหนาและดึงเขามากอดอย่างแนบแน่น...

“คุณวิล...ช่วยที”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป