บทที่ 7 Chapter 7
Chapter 7
วินาทีที่เห็นหน้าเอมิกาในลุคใหม่ เขาอยากคว้าตัวเธอเข้ามากอดและลากขึ้นเตียงเพื่อผลิตลูกเสียตอนนั้น ทว่าก็ต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ไม่อยากให้ให้ใครเข้าใจว่า เขากลืนน้ำลายตัวเองและปากกับใจไม่ตรงกัน หลังจากกินมื้อเย็นที่รู้สึกว่า อร่อยเป็นพิเศษเสร็จ เขาออกไปนั่งดื่มกับเพชรภูมิและตรีชาติเพียงแค่นหนึ่งชั่วโมงก็รีบขอตัวกลับบ้าน
ระหว่างที่นั่งดื่มกันตามประสาเพื่อน ทั้งสามได้พูดถึงเรื่องการเดิมพัน ผลที่ออกมาคือเขมนัทต์แพ้ คนแพ้ไม่มีทีท่าอิดออดกับการทำบุญให้มูลนิธิใดก็ได้จำนวนหนึ่งล้านบ้าน เขมนัทต์คิดไว้ว่า จะบริจาคให้สิบมูลนิธิ มูลนิธิละหนึ่งแสนบาท
ความเป็นเพื่อนกันมานานรู้ไส้รู้พุงกันดี เพชรภูมิกับตรีชาติเอ่ยแซวเขมนัทต์เรื่องเอมิกาที่ลบภาพเดิมไปจนสิ้น เป็นคนใหม่ที่มีความสวยจับใจ มองแล้วไม่อยากละสายตา ซึ่งทั้งสองรู้ด้วยว่า ความคิดของเขมนัทต์เปลี่ยนไป ซึ่งคนถูกแซวก็ยอมรับแต่โดยดี
“มานี่สิ” เสียงเขมนัทต์ดังทำลายความเงียบ เอมิกาก้าวเดินมาหาคนสั่งด้วยขาค่อนข้างสั่น แต่หัวใจสั่นหนักกว่า ยิ่งเดินเข้าใกล้เขา อัตราการเต้นของหัวใจก็ยิ่งเพิ่มทวี เอมิกามาหยุดยืนริมเตียง เธอหลุบตามองลำแขนใหญ่ที่ยกขึ้นสูง และเคลื่อนตัวมาจับเอวตน ก่อนเขาจะออกแรงรั้งร่างสาวมานั่งบนตัก เก็บกักเอมิกาไว้ด้วยอ้อมแขน ทั้งสองจึงชิดใกล้กันมากขึ้น มีเพียงผ้าขนหนูที่พันรอบอกเอมิกาเท่านั้นที่กั้นกลาง
ว้าว...
กลิ่นกายเอมิกาหอมมาก หอมกระตุ้นความกำหนัดเขาได้เป็นอย่างดี เขาไม่รู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ว่า เพียงแค่ได้สัมผัสกลิ่นกายเธอ อารมณ์ตนจะพลุ่งพล่าน ความกำหนัดถูกปลุกขึ้นมาทันใด
เขมนัทต์กอดเอมิกาแน่นขึ้น กดจมูกลงบนหัวไหล่เธอ วินาทีนี้ร่างเธอสั่นสะท้าน หัวใจเต้นกระหน่ำ ความตื่นเต้นปกคลุมจิตใจ
“หอมจัง” เขมนัทต์พูดหลังจากได้สูดดมความหอมที่คละเคล้ากันระหว่าง กลิ่นโลชั่นกับกลิ่นแป้ง “ไม่รู้ว่า ตรงอื่นจะหอมอย่างนี้ไหม ไม่แน่อาจหอมกว่าด้วยซ้ำไป”
โอ้ว...
ประโยคนี้ชวนใจสั่นตัวสั่นเหลือเกิน เอมิกาไม่ใช่เด็กน้อยถึงไม่รู้ว่า ความนัยในคำพูดเขมนัทต์คืออะไร แรงสั่นทำให้เจ้าของอ้อมแขนลอบยิ้ม
ทุกครั้งที่สร้อยระย้าจัดหาแม่ของหลานมาให้เขมนัทต์ นอกจากผู้หญิงเหล่านั้นจะมีความสวยและมีคุณสมบัติเพียบพร้อม ทุกคนล้วนเป็นสาวบริสุทธิ์ เอมิกาก็เช่นกัน สร้อยระย้าบอกคุณสมบัติของเอมิกาให้ตนรู้ ในวันที่บอกว่าจะให้เอมิกามาเป็นแม่ของลูก วันนั้นเขมนัทต์ไม่ได้สนใจฟังเพราะมัวแต่ตกใจและเกิดอาการเซ็งจัด เขาเพิ่งมาสนใจอยากรู้วันนี้ วันที่ได้เห็นลุคใหม่ไฉไลของเอมิกา ที่เปลี่ยนไปมากจนคาดไม่ถึง
ก่อนออกไปนั่งดื่มกับเพชรภูมิกับตรีชาติ เขมนัทต์ถามข้อมูลส่วนตัวของเอมิกาจากมารดา เขาได้คำตอบคร่าวๆ ว่าเอมิกาครองความเป็นโสดได้อย่างสมบูรณ์แบบ นับตั้งแต่แตกเนื้อสาวจนถึงทุกวันนี้ เอมิกาไม่เคยมีคนรัก แม้มีชายหนุ่มมากหน้าหลายตามาจีบ เธอก็ไม่สนใจ ตั้งใจเรียนเพื่อความสำเร็จตามตั้งใจ คำตอบสั้นๆ ได้ใจความ เรียกรอยยิ้มให้เขา ความคิดเดิมถูกพังทลายลงรวดเร็ว
ครั้งนี้เขาพร้อมทำลูก มีหลานให้สร้อยระย้า
กลับมาจากผับเขมนัทต์รีบอาบน้ำ บนร่างกายสวมเพียงผ้าขนหนูตัวเดียว ก่อนเดินมาหาเอมิกาที่ห้อง เมื่อเดินเข้ามาก็ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ ชายหนุ่มจึงมากึ่งนั่งกึ่งนอนรอเธอบนเตียง
“กลัวเหรอ” ไม่ถามเปล่า จูบไล่ไปตามบ่า สูดดมกลิ่นหอมอันเย้ายวน คนถูกถามเริ่มนั่งไม่ติด ตัวสั่นและหายใจไม่ทั่วท้อง “ว่าไง กลัวใช่ไหม”
“ค่ะ” เอมิกาตอบสั้นๆ หลุบตามมองมือข้างหนึ่งของเขมนัทต์ที่ค่อยๆ ขยับสูงขึ้นมาถึงปมผ้าขนหนู เธอหลับตาแน่น หัวใจเต้นโครมคราม มือไม้สั่น และรับรู้ว่า ผ้าขนหนูเลื่อนมากองตรงเอว
“ไม่ต้องกลัว มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ฉันเชื่อว่า เธอต้องชอบและติดใจมัน” เขมนัทต์พูดง่ายว่าไม่กลัว เขาไม่เหมือนเอมิกาที่ไม่ประสีประสาเรื่องบนเตียง ย่อมมีความกลัว ประหม่าเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งชายหนุ่มคนแรกที่ได้ครองความสาว คือชายหนุ่มที่เธอแอบรักมาตั้งแต่แตกเนื้อสาว ความรู้สึกเพิ่มขึ้นหลายเท่า
“เธอสวยขึ้นมากเลยรู้ไหมเอม เธอทำให้ฉันร้อนไปทั้งตัว” เขมนัทต์ดันตัวเอมิกาให้นอนบนที่นอน โดยมีร่างเขาเกยก่าย นัยน์ตาคมเข้มกวาดมองไปทั่วเรือนร่างสะโอดสะอง เอมิกาเห็นสายตาเขาแล้ว หื่นกระหายเต็มที่ หัวใจเธอทำงานหนักมาก ตัวร้อนผ่าวเพราะตอนนี้ฝ่ามือเขากำลังลูบไล้ผิวกายตน “ผิวเธอสวยมาก นุ่มมือจัง”
เอมิกาไม่ใช่คนผิวขาว ผิวเธอเป็นสีน้ำผึ้งนวลเนียน สีผิวที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เขมนัทต์ชอบผู้หญิงผิวขาว ทว่าเวลานี้ความคิด ความชอบเขาเปลี่ยนไป เขาเกิดความหลงใหลผิวสวยๆ กลิ่นหอมของเอมิกา ราวกับว่าถูกมนต์สะกด ยิ่งสัมผัสยิ่งเคลิบเคลิ้ม
เขมนัทต์โน้มใบหน้าเข้าใกล้ดวงหน้าหวานที่หลับตาราวกับเขินอายเป็นหนักหนา เขายิ้มพอใจ ภาพเธอตอนนี้น่ารักมาก แก้มทั้งสองข้างขึ้นระเรื่อแดง แม้จะไม่โดดเด่นหากเกิดขึ้นบนผิวขาว แต่เชื่อหรือไม่ว่า ดวงหน้าเธองดงามมาก มีเสน่ห์อย่างเหลือล้น ฝ่ามือใหญ่แนบลงบนแก้มสาวข้างขวา ลูบวนเบาๆ ส่วนแก้มอีกข้างถูกคลอเคลียด้วยจมูกโด่ง
