บทที่ 2 ประธานเทียบไม่ได้กับนายแบบ

วินาทีนั้น ชญานิษฐ์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง "คุณจะหย่ากับฉันเหรอ? ตอนนี้เนี่ยนะ?"

เธอถามออกไปทั้งด้วยความไม่ยอมรับและความน้อยใจ

แต่ทรงพลเมื่อได้ยินดังนั้น คิ้วเข้มกลับขมวดมุ่น ใบหน้าฉายแววรำคาญใจอย่างปิดไม่มิด

"เธอน่าจะรู้ดีอยู่แล้วนี่ ว่าการหย่าของเรามันก็แค่เรื่องของเวลา! ไม่หย่าตอนนี้ จะให้รอถึงเมื่อไหร่?"

ชญานิษฐ์รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาทันที ในที่สุดก็เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของทรงพล

เมื่อแปดปีก่อน คุณย่าณัฐมนเกิดล้มป่วยกะทันหันขณะเดินเล่นในสวนสาธารณะ เป็นชญานิษฐ์ที่บังเอิญผ่านมาพอดีและช่วยชีวิตท่านไว้

หลังจากคุณย่าณัฐมนฟื้นขึ้นมา ท่านกลับจำไม่ได้ว่าบ้านตัวเองอยู่ที่ไหน หรือแม้แต่ตัวเองเป็นใคร

ก็เป็นชญานิษฐ์อีกนั่นแหละที่พาท่านกลับมาดูแลที่บ้านอย่างดี จนกระทั่งคนของตระกูลศรีเรืองตามมาพบ

ต่อมา เมื่อคุณย่าณัฐมนจำความได้ ท่านระลึกถึงเด็กสาวที่คอยดูแลท่าน แต่ใครจะคาดคิดว่า ชายหนุ่มที่เด็กสาวคนนั้นแอบเก็บไว้ในดวงใจและแอบรักมาเป็นสิบปี จะกลายเป็นหลานชายแท้ๆ ของท่านเอง!

คุณย่าณัฐมนจึงจัดการคลุมถุงชน บีบบังคับให้ทรงพลแต่งงานกับเธอ

ซึ่งทรงพลไม่เต็มใจ!

เพื่อให้ทรงพลยอมตกลง ชญานิษฐ์จึงยอมเซ็นสัญญาเงื่อนไขกับเขาด้วยความยินดีว่า หากครบสามปีแล้วทรงพลไปรักคนอื่น ก็จะยอมหย่าให้ เพื่อให้ความปรารถนาของคุณย่าณัฐมนเป็นจริงและสบายใจ

และเมื่อวาน ก็คือวันที่สัญญาครบกำหนดสามปีพอดี

แต่เมื่อคืนนี้ ทรงพลเพิ่งจะจูบเธออย่างดูดดื่ม ลูบไล้สัมผัส และพะเน้าพะนอเธอตลอดทั้งคืน

ความรักที่เอ่อล้นออกมาจากแววตาคู่นั้น จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไร?

ตอนนี้คุณย่ายังไม่รู้ชะตากรรม อาการยังโคม่า และเมื่อเธอไร้ที่พึ่งอย่างคุณย่า ทรงพลกลับฉวยโอกาสนี้บีบบังคับให้เธอหย่างั้นหรือ?

"แต่ว่าตอนนี้คุณย่ายังไม่ฟื้นเลยนะ อีกอย่างเมื่อคืนเรา..."

พอนึกถึงคำพูดซื่อบื้อของตัวเองในตอนนั้น ชญานิษฐ์ก็เจ็บปวดหัวใจจนแทบรับไม่ไหว

ในตอนนั้น ทรงพลพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

"อย่ามาอ้างคุณย่า! เดี๋ยวฉันจะให้ทนายเอาใบหย่ามาให้ เธอแค่เซ็นชื่อก็พอ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอจ้องจะเอาคุณย่ามาขู่ฉัน! คุณย่าดีกับเธอขนาดนั้น เธอมีหัวใจบ้างหรือเปล่า?"

"หลายปีมานี้ เธอก็เสวยสุขกับตำแหน่งนายหญิงมามากพอแล้ว! เลิกใช้วิธีสกปรกๆ ให้คุณย่าคอยปกป้องเธอสักที! เธอรู้ดีนี่ ว่าฉันไม่ได้รักเธอ! และไม่มีวันจะรักเธอด้วย!"

"ชญานิษฐ์ เลิกฝันกลางวันได้แล้ว! ฉันมีคนที่รักอยู่แล้ว ฉันขอเตือนให้เธอรู้จักรักษาน้ำใจตัวเอง รีบไสหัวไปซะตั้งแต่ตอนนี้!"

แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปี แต่ทุกครั้งที่นึกถึง หัวใจของชญานิษฐ์ยังคงเหมือนมีรูโหว่ ให้ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาจนหนาวเหน็บ

ที่แท้ ทรงพลมองเธอแบบนี้มาตลอดงั้นหรือ?

ทำทุกวิถีทาง ไร้ยางอาย!

เธอไม่เข้าใจจริงๆ

ผู้หญิงที่ชั่วร้ายที่สุดในใจของทรงพล กลับกลายเป็นเธอเอง!

จากความเพ้อฝันของเด็กสาว สู่วามหวังของภรรยา...

ที่แท้หลายปีมานี้ เธอไม่เคยทำให้ทรงพลหวั่นไหวได้เลย เขาปันใจให้คนอื่นไปนานแล้ว!

ตอนนั้นชญานิษฐ์ยังซื่อบื้อ คิดไปเองว่าการที่มีความสุขร่วมกับทรงพลเมื่อคืนก่อน จะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นที่หอมหวาน แต่ใครจะคิดว่า...

แต่ก็ยังดี!

ชญานิษฐ์ไม่ใช่หมาขี้เรื้อนที่จะต้องคอยเกาะแกะทรงพลไม่ยอมปล่อย!

เธอเซ็นใบหย่าอย่างคล่องแคล่ว โยนข้าวของทุกอย่างของตัวเองที่อยู่ในบ้านตระกูลศรีเรืองทิ้งลงถังขยะ

จองตั๋วเครื่องบินไฟล์ทคืนนั้น แล้วจากไปอย่างไม่ไยดี

การจากไปครั้งนี้กินเวลาถึงห้าปี!

ใครจะไปคิดว่า ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนี้จะยังตามมาหลอกหลอน?

สิ่งที่เธอต้องเจอเป็นอย่างแรกหลังจากกลับประเทศ ดันเป็นการเจอหน้าเขา!

บ้าเอ๊ย!

ทำไมต้องมาเจอเขาที่นี่ด้วยนะ!

ถ้ารู้ก่อนเธอคงไม่เลือกพักที่นี่

ให้ตายสิ บอยก็ยังหาไม่เจอ ดันมาเจอผู้ชายสารเลวอีก!

ซวยชะมัด!

ชญานิษฐ์ค้นพบว่า อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับทรงพล ล้วนไม่มีเรื่องดีทั้งนั้น!

ผ่านไปตั้งหลายปี เขาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด

"ชญานิษฐ์!"

ตอนที่ทรงพลตะโกนเรียกชื่อเธอ น้ำเสียงของเขาชัดเจนว่ากำลังกัดฟันกรอด

เขาฉวยโอกาสคว้าข้อมือชญานิษฐ์ไว้ ก้าวเข้ามาประชิดตัวทีละก้าว ต้อนชญานิษฐ์จนมุมติดกำแพง แล้วมองลงมาที่เธอด้วยสายตาเหนือกว่า

"ใครให้ความกล้าเธอกลับมาที่นี่?"

"ปล่อยฉันนะ! ทรงพล!" ชญานิษฐ์ดิ้นรนไม่หยุด อยากจะรีบออกไปจากที่นี่ เธอต้องไปตามหาบอยต่อ

รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวทรงพล มือข้างหนึ่งของเขารวบเอวเธอไว้แน่น ทำให้ชญานิษฐ์จำใจต้องแนบชิดกับเขา จนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นหนักหน่วงของเขาอย่างชัดเจน

"ชญานิษฐ์! บัญชีเมื่อห้าปีก่อนฉันยังไม่ได้คิดกับเธอเลยนะ! จะรีบไปไหน? คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ?"

ชญานิษฐ์มองทรงพลที่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ด้วยความหงุดหงิดใจ

"คุณกับฉันเราจบกันไปตั้งนานแล้ว! ยังมีบัญชีอะไรต้องคิดอีก?"

"ก็แค่นอนกับท่านประธานไปไม่กี่ครั้ง เราสองคนก็วิน-วินไม่มีใครขาดทุน แต่ท่านประธานน่าจะรู้นะคะ ว่าสามีเก่าที่ดี ควรจะทำตัวเหมือนตายไปแล้ว ตอนนี้ท่านประธานคิดจะตามตอแยฉันเหรอคะ?"

ชญานิษฐ์ไม่ใช่คนหัวอ่อนขี้กลัวเหมือนเมื่อห้าปีก่อนอีกแล้ว

เธอจงใจพูดจายั่วโมโหทรงพล เธอรู้ดีว่าทรงพลเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี

ความทรนงของเขาคงไม่ยอมให้ตัวเองถูกด่าว่าเป็นหมาขี้ตื้อแน่ๆ

และก็เป็นไปตามคาด คำพูดนี้ได้ผล

มันทำให้ทรงพลโกรธจัดจริงๆ

"อย่ามาหลงตัวเองหน่อยเลย ฉันแค่จะถามเธอว่า เมื่อสี่ปีก่อนเธอทำแบบนั้นได้ยังไง..."

กล้าดียังไงถึงทิ้งลูกชายของเราไป!

ทรงพลยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็ถูกชญานิษฐ์ผลักออกสุดแรง ตัดบทคำพูดต่อมาของเขา

"ฉันกล้าอะไร? กล้านอนกับคุณแล้วไม่จ่ายเงินงั้นเหรอ?"

"ท่านประธานคิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหน? ใบหย่าฉันก็เซ็นแถมออกจากบ้านมาตัวเปล่า! ครึ่งหนึ่งของบริษัทศรีเรือง ยังซื้อตัวคุณทรงพลแค่อีกคืนเดียวไม่ได้เชียวหรือ?"

อ้อ ไม่สิ

สองคืนต่างหาก

นอกจากความสุขสมบนรถครั้งนั้น ยังมีอีกครั้งหนึ่ง

คืนเข้าหอ

เธออาศัยจังหวะที่ทรงพลถูกเพื่อนมอมเหล้าจนเมามาย ปีนขึ้นเตียงเขาด้วยความขัดเขิน

แต่คืนนั้น กลับเป็นความทรงจำที่น่าอับอายที่สุด

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังคืนเข้าหอ สิ่งที่เธอได้รับไม่ใช่สัมผัสรักใคร่หรือคำทักทายจากสามี

แต่เป็นคำว่า... น่าขยะแขยง! ต่ำช้า! ไร้ยางอาย!

และคำด่าทอที่ร้ายกาจอีกสารพัดจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

เขาบรรยายชญานิษฐ์ว่าไม่มีอะไรดีสักอย่าง! เธอคู่ควรเป็นแค่นายหญิงในนามเท่านั้น!

แต่ตอนนี้ ชญานิษฐ์ขี้เกียจจะมาต่อปากต่อคำกับทรงพลแล้ว

เมื่อกี้เธอเห็นแผ่นหลังที่คล้ายกับบอยแวบๆ เธอไม่มีเวลามาเสียเวลากับทรงพลอีก

"ทรงพล ฉันขอเตือนคุณนะ! ปล่อย! ฉันไม่มีเวลามานั่งรำลึกความหลังกับคุณหรอกนะว่าค่าตัวคุณมันกี่บาท!"

ชญานิษฐ์กัดฟันกรอด ตัดสินใจสลัดเขาให้หลุดอย่างเด็ดขาด เธอโพล่งออกมาอย่างไม่เกรงใจ "อีกอย่าง ลีลาของคุณน่ะ มันห่วยแตกยิ่งกว่านายแบบตัวท็อปเมืองนอกไม่รู้กี่ขุม! ไม่คุ้มค่าให้ฉันเสียเงินซื้อหรอก!"

พูดจบ ชญานิษฐ์อาศัยจังหวะที่ทรงพลกำลังอึ้ง รีบวิ่งตามแผ่นหลังนั้นออกไป

แต่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ทรงพลก็ตามมาทัน

ชญานิษฐ์กำลังร้อนรนใจ หันไปเห็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งอยู่ข้างๆ เธอไม่ลังเลเลยสักนิด ผลักทรงพลตกลงไปในสระทันที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป