บทที่ 7 ตามแม่กลับโรงแรม

"ตอนนี้มาตามตอแยฉันไม่เลิก แล้วตอนนั้นหย่าทำไมล่ะ? หรือว่าคุณชอบกินน้ำพริกถ้วยเก่า? ถ้าขาดผู้หญิงนัก แค่กระดิกนิ้วก็คงมีคนอยากขึ้นเตียงกับคุณเป็นขบวนแล้วมั้ง!"

ชญานิษฐ์ผลักเขาออกอย่างแรง ทุกถ้อยคำที่เอ่ยออกมาเหมือนราดน้ำมันลงบนกองเพลิงแห่งความโกรธของทรงพล

"ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนี้เธอควรจะอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ?" ทรงพลบีบคอเธอแน่น ชญานิษฐ์หายใจไม่ออกจนหน้าแดงก่ำและไอออกมาโครกใหญ่

"ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าใครปล่อยเธอออกมา? ดูท่าคนพวกนั้นจะเลี้ยงเสียข้าวสุกซะแล้ว"

ทรงพลสะบัดมือออก จนชญานิษฐ์เกือบล้มคว่ำ

เธอจับลำคอตัวเองเบาๆ

ทรงพลนี่มันบ้าชัดๆ

โชคดีที่เขาไม่เห็นบอยกับแอนน์ ถ้าเขารู้ว่าเธอแอบคลอดลูกออกมา ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องน่ากลัวอะไรขึ้นบ้าง

"วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของคุณย่า ฉันมาไหว้ท่าน ไม่ได้หรือไง?" ชญานิษฐ์ตั้งสติได้ก็จ้องหน้าเขาเขม็ง

"ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อก่อนเธอเล่นละครตบตาคุณย่า คิดว่าฉันจะแต่งงานกับเธอเหรอ? ตอนนี้ยังจะมาตีหน้าซื่อต่อหน้าท่านอีก ชญานิษฐ์ เธอมันเป็นผู้หญิงจิตใจอำมหิตเหมือนงูพิษ! มีแค่คุณย่าเท่านั้นแหละที่หลงกลเธอ!" ทรงพลพูดลอดไรฟัน กำหมัดแน่นจนกระดูกลั่นกร็อบแกร็บ

ถ้าเธอไม่โหดเหี้ยม ก็คงไม่ทิ้งแบงค์ไปหรอก!

เดิมทีทรงพลออกจากสุสานไปแล้ว

แต่ก่อนจะไป เขาเหลือบเห็นเงาของชญานิษฐ์ผ่านกระจกรถ

ตอนแรกคิดว่าเธออยู่โรงพยาบาลเลยไม่ได้สนใจ

แต่พอลองคิดดูอีกทีก็รู้สึกทะแม่งๆ เลยอยากกลับมาดูให้เห็นกับตา ไม่คิดว่าจะเจอชญานิษฐ์จริงๆ

ชญานิษฐ์แทบจะหัวเราะทั้งน้ำตา

เธอน่ะเหรอจิตใจอำมหิต?

ทรงพลเอาอะไรมาตัดสิน?

เขานั่นแหละ!

ผู้ชายไร้หัวใจดีๆ นี่เอง!

ระหว่างที่ชญานิษฐ์ก่นด่าทรงพลในใจ เขาก็ส่งข้อความหาเลขาฯ เรียบร้อยแล้ว

ไม่นานบอดี้การ์ดหลายคนก็เข้ามาล็อคตัวชญานิษฐ์ไว้

"ทรงพล! ปล่อยฉันนะ!" ชญานิษฐ์ตะโกนลั่น

"ท่านประธานครับ ที่บริษัทมีการประชุม..." เลขาฯ กระซิบข้างหูทรงพล

"พาตัวเธอไปเฝ้าที่โรงพยาบาลให้ดี ถ้าหนีออกมาได้อีก พวกแกก็ไสหัวไปซะ"

ทรงพลสั่งเสร็จก็เดินนำเลขาฯ ออกไปก่อน

ชญานิษฐ์สาปแช่งทรงพลในใจไม่รู้กี่จบต่อกี่จบ

เธอถูกบอดี้การ์ดลากตัวขึ้นรถไป

"พี่ผู้ช่วย รีบตามรถคันนั้นไปเร็ว! เราต้องไปช่วยหม่ามี้กลับมานะ!"

แอนน์เกาะเบาะรถด้วยความร้อนใจ

พวกเขายังไม่ได้กลับไปไหนและเป็นห่วงชญานิษฐ์

โชคดีที่ทรงพลไปแล้ว

ผู้ช่วยจึงเหยียบคันเร่งตามรถคันหน้าไปเงียบๆ

เมื่อกี้แบงค์เห็นแด๊ดดี้ แต่ทำไมแด๊ดดี้ต้องขังชญานิษฐ์ไว้ด้วย?

รถแล่นมาจนถึงโรงพยาบาล

แอนน์รีบกระโดดลงจากรถ

แบงค์ก็เดินตามหลังเธอไป

เด็กน้อยสองคนทำตัวลับๆ ล่อๆ แถวหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษ แต่จู่ๆ แบงค์ก็เดินดุ่มๆ เข้าไป แอนน์กำลังจะดึงแขนแบงค์ไว้ แต่ก็เห็นเขายืนอยู่ต่อหน้าบอดี้การ์ดพวกนั้น แถมยังได้ยินพวกเขาเรียกว่า "นายน้อย"

แอนน์: ???

หลังจากนั้นพวกเขาคุยอะไรกันแอนน์ไม่ได้ยิน เห็นแค่บอดี้การ์ดเปิดประตูให้ แล้วแบงค์ก็พาชญานิษฐ์ออกมาได้อย่างราบรื่น

แอนน์: !!!

ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?

ชญานิษฐ์เดินตามแบงค์ออกมาก็เจอแอนน์ พอดีกับที่ผู้ช่วยตามมาถึง

เห็นชญานิษฐ์ปลอดภัยดีก็โล่งอก

"บอยเก่งจริงๆ แอนน์ก็กล้าหาญมากลูก"

ชญานิษฐ์ลูบหัวเด็กทั้งสองคนแล้วเอ่ยชมยกใหญ่

ในที่สุด พวกเขาก็กลับมาถึงโรงแรม ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว

"บอยอยากกินอะไรครับ? วันนี้หม่ามี้จะเข้าครัวเอง" ชญานิษฐ์หยิกแก้มยุ้ยๆ ของเขาแล้วถามยิ้มๆ

แบงค์จับแก้มตัวเองด้วยความงุนงง

เขาไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้

ปกติอยู่บ้านคนรับใช้จะเป็นคนทำอาหาร และไม่เคยมีใครถามว่าเขาอยากกินอะไร

"หม่ามี้ งั้นทำซี่โครงหมูน้ำแดงของโปรดพี่ชายสิคะ!" แอนน์ยกมือขึ้นอย่างตื่นเต้นแล้วหมุนตัวรอบๆ แบงค์ ดวงตากลมโตคู่นั้นฉายแววสดใสพลางมองไปที่ชญานิษฐ์อย่างออดอ้อน

ชญานิษฐ์หัวเราะเบาๆ บีบจมูกเธอด้วยความเอ็นดู "มี้ว่าไม่ใช่บอยอยากกินหรอก แต่เป็นเจ้าแมวน้อยตะกละแถวนี้อยากกินมากกว่ามั้ง"

"ยังไงพี่ชายก็ต้องชอบอยู่แล้ว ใช่ไหมคะพี่ชาย!" แอนน์จับมือแบงค์แล้วยิ้มแฉ่ง

แบงค์เห็นชญานิษฐ์กับแอนน์เข้ากันได้เป็นธรรมชาติขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกเจ็บแปลบ

ชญานิษฐ์ดูรักเด็กจะตาย

แล้วทำไมถึงไม่ต้องการเขาแค่คนเดียว?

แบงค์กำเสื้อแน่น แอนน์ฉวยโอกาสพูดเรื่องนาฬิกาหาย

"ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวอีกสองวันหม่ามี้ซื้อให้ใหม่นะ" ชญานิษฐ์พูดพลางเปิดตู้เย็น นำผลไม้มาล้างและปอกเปลือก ป้อนองุ่นให้แอนน์หนึ่งลูก

"หวานจัง~"

ชญานิษฐ์ปอกอีกลูกแล้วยื่นไปจ่อที่ปากของแบงค์

แบงค์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอ้าปากรับ

เหมือนที่แอนน์บอกเลย หวานมาก

คำถามที่แบงค์อยากถาม ถูกกลืนลงคอไป

ชญานิษฐ์เข้าไปทำอาหารในครัว แอนน์พาแบงค์วิ่งเล่นไปทั่ว ทั้งสองเล่นซ่อนแอบกัน แบงค์หาคนอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็หาแอนน์เจอทุกครั้ง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ชญานิษฐ์ยกกับข้าวออกมา กลิ่นหอมฉุยลอยมาแตะจมูก

แอนน์ผู้หิวโหยคีบซี่โครงหมูขึ้นมาก่อน

ร้อนจนปากสั่นระริก

แบงค์ยื่นแก้วน้ำให้เธออย่างเป็นธรรมชาติ

"ขอบคุณค่ะพี่ชาย"

พอแอนน์ตั้งสติได้ก็รีบขอบคุณ

ชญานิษฐ์คีบกับข้าวให้แบงค์บ้าง "บอย ลองชิมฝีมือหม่ามี้เร็ว วันนี้ดูหนูไม่ค่อยร่าเริงเลย ถ้าไม่สบายตรงไหนต้องบอกหม่ามี้นะครับ"

แบงค์พยักหน้าเงียบๆ ก้มหน้าก้มตากินซี่โครงหมู

อร่อย!

ดวงตาเขาเป็นประกายวูบหนึ่งแต่ก็รีบเก็บอาการ

ถึงจะรู้ว่าเธอดีแค่ไหน

แต่เรื่องที่เธอทิ้งเขา... ก็เป็นความจริงอยู่ดี...

แต่คืนนั้นชญานิษฐ์กลัวว่าไข้เขาจะกลับมาอีก เลยมานอนเป็นเพื่อนแบงค์

กำแพงสูงลิ่วที่เขาสร้างขึ้นในใจพังทลายลงในพริบตา

แบงค์หลับปุ๋ยอย่างสบายใจในอ้อมกอดของชญานิษฐ์

ขณะเดียวกัน

ทรงพลกลับมาถึงคฤหาสน์

เขาเพิ่งเห็นข้อความจากคนที่โรงพยาบาลรายงานมา

บอกว่าแบงค์พาตัวชญานิษฐ์ไปแล้ว

ทรงพลหน้าตึงเครียดทันที

เขานึกถึงคำพูดของบอยวันนี้

ดูท่าที่บอยตั้งคำถามแบบนั้น เพราะแอบไปเจอชญานิษฐ์มาก่อนแล้วแน่ๆ

ทั้งที่เขาสั่งให้คนพาบอยกลับมา แต่บอยกลับแอบหนีไปหาเธอที่โรงพยาบาล!

"เก่งมากนะชญานิษฐ์ กล้าเสี้ยมสอนแบงค์เหรอ!"

ทรงพลหันขวับเตรียมจะไปสืบที่อยู่ปัจจุบันของชญานิษฐ์

ทันใดนั้น

หน้าจอมือถือก็สว่างขึ้น

เป็นข้อความจากเลขาฯ

พรุ่งนี้ทรงพลต้องไปร่วมงานเปิดตัวโครงการ และชญานิษฐ์... ก็อยู่ในรายชื่อผู้ร่วมงานด้วย

ทรงพลยิ้มเย็นยะเยือก

ดูท่าจะขังเธอไม่อยู่สินะ

ในเมื่อเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้คงต้องคุยกันให้รู้เรื่อง

"ชญานิษฐ์!

ฉันไม่มีวันยอมให้เธอพาลูกชายฉันไปแน่!

เธอไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของเขา!"

วันรุ่งขึ้น

ณ โรงแรมแมริออท

ชญานิษฐ์ให้เด็กทั้งสองรอในห้องรับรอง

"บอย แอนน์ หม่ามี้มีงานต้องทำ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะรีบมาหานะคะ"

"เป็นเด็กดีนะลูก ถ้ามีปัญหาอะไรให้รีบโทรหาหม่ามี้นะ"

ชญานิษฐ์สั่งความเสร็จก็โบกมือลาแล้วปิดประตูเดินออกมา

เธอเพิ่งเดินมาถึงหัวมุมตึก ก็ปะทะเข้ากับร่างสูงที่คุ้นตา ชญานิษฐ์หนีไม่ทันเสียแล้ว

ทรงพลอีกแล้ว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป