บทที่ 7 เป็นสาวเป็นแส้

หลังจากจิณณ์ถอยรถเข้าเก็บในโรงรถเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบลงจากรถเพื่อไปช่วยมนตกานต์ยกกระเป๋าใส่เสื้อผ้า ที่รีบเพราะอยากช่วย และก็เพราะอยากกลบเกลื่อนความอายของตัวเองที่ดันคิดเรื่อยเปื่อยจนขับรถเลยบ้าน แต่มนตกานต์กลับมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบน้อยมาเพียงใบเดียว

“อ้าว... ลูกเจี๊ยบมีกระเป๋าแค่นี้เหรอ” ถามแก้เก้อทั้งที่เห็นอยู่แล้ว

“ใช่ค่ะ พรุ่งนี้หลังเลิกงาน ลูกเจี๊ยบว่าจะไปซื้อเสื้อผ้าน่ะค่ะ เสื้อผ้าที่ลูกเจี๊ยบมีอยู่มันไม่เหมาะสำหรับไปทำงานหรอกค่ะอาจิ๋ว ซื้อใหม่ดีกว่า”

มนตกานต์พูดพลางเดินนำจิณณ์เข้าสู่ตัวบ้าน เพราะนี่เป็นบ้านของเธอ ทุกพื้นที่เธอจึงรู้จักและคุ้นเคยดีอยู่แล้ว แม้พ่อจะให้ทีมงานของจิณณ์เข้ามาปรับปรุงใหม่ แต่แบบที่จิณณ์ส่งให้ เธอดูแล้วไม่ได้เปลี่ยนแปลงสัดส่วนของตัวบ้าน เพียงแต่เปลี่ยนวัสดุที่ชำรุดเท่านั้น

“ไม่เห็นต้องซื้อใหม่เลยนะ ที่ออฟฟิศอา ใส่อะไรก็ได้ มีแค่น้องนักศึกษาฝึกงานเท่านั้นแหละที่ต้องใส่ชุดนักศึกษา นอกนั้นก็ฟรีสไตล์ ลูกเจี๊ยบไม่น่าต้องเปลืองเงิน เราน่ะเพิ่งทำงาน ประหยัดไว้ก็ดีนะ เดี๋ยวจะหารายได้ไม่พอรายจ่าย”

จิณณ์ตีหน้าเข้มเริ่มบทบาทเป็นคุณอาผู้แสนดี นั่นก็เพื่อกันตัวเขาเองออกจากสิ่งที่เป็นอยู่นี้ เพราะจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ยามเดินตามหลังมนตกานต์ มันทำให้เขาทรมาน และกลัวเหลือเกินว่าคนที่เดินอยู่ด้านหน้าจะจับสังเกตได้ แต่ยิ่งมองเห็นเรือนร่างสมส่วน เขาก็ยิ่งถอนสายตาออกได้ยาก

และเมื่อเจ้าตัวช้อนฝ่ามือเข้าไปที่ท้ายทอย พร้อมสลัดเรือนผมเบาๆ ก็ทำให้กลิ่นหอมกำจายยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่า กลิ่นหอมที่กรุ่นอยู่รอบกายของมนตกานต์ตลอดทั้งวันนั้นน่าจะมีที่มาจากเส้นผมยาวสยาย

“แหม... อาจิ๋วนี่ทำหน้าที่เหมือนพ่อเลยนะคะ แค่วันแรกก็บ่นเรื่องการใช้เงินของลูกเจี๊ยบซะแล้ว อาจิ๋วน่ะไม่รู้อะไร ลูกเจี๊ยบน่ะขี้เหนียวนะคะ ถึงพ่อจะบอกว่าลูกเจี๊ยบใช้เงินเก่งก็เหอะ แต่ทั้งหมดนั่น ลูกเจี๊ยบก็ซื้อแต่ของจำเป็นเท่านั้นแหละค่ะ และที่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ ก็เพราะเสื้อผ้าเก่าของลูกเจี๊ยบน่ะ เอามาใส่ทำงานที่ออฟฟิศอาจิ๋วไม่ได้จริงๆ แต่อาจิ๋วรู้มั้ยคะว่าเพราะอะไร”

“เอ่อ... อาไม่รู้หรอก”

จิณณ์ข่มใจตอบ อาการปวดหนึบกึ่งกลางกายเริ่มเร่งเร้าเพิ่มขึ้น เพราะเสียงหวานหยอกเย้าเหมือนหลอกล่อให้เขาตอบ กับเอวคอดกิ่วที่พอเหมาะพอเจาะกับสะโพกผายยามเธอเคลื่อนย้ายยักไปตามจังหวะก้าวเดิน ซ้าย-ขวา ซ้าย-ขวา ช่างเนิบนาบช้าเหลือทน

แม้จะพยายามบอกตัวเองว่านี่คือลูกสาวเพื่อน แต่ใจเขาก็สั่น หวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก หากเขารู้ว่ามนตกานต์จะเต็มไปด้วย ‘เซ็กซ์ อะพีล’ (Sex Appeal) มากมายอย่างนี้ เขาจะไม่มีวันให้เธอมาอยู่ใกล้ตัวเด็ดขาด เพราะเธอกำลังทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียหาย

จิณณ์หลับตาข่มใจและก็พยายามข่มกาย ‘เสือดาร์ก’ คือฉายาที่ได้รับจากพฤติกรรมการกินสาวๆ เพราะกินครั้งเดียวแล้วไม่คิดจะกลับไปกินต่อ แต่ก็มี ‘ลูกไก่’ สาวๆ สวยๆ กดบัตรคิวขอเข้ามาอยู่ในอุ้งมือเสืออย่างเขากันมากมาย พวกเธอล้วนอยากให้เขา ‘กำ’ และ ‘ขย้ำขยี้’ ได้ตามความพอใจ

แต่ไม่เคยสักครั้งที่เสือร้ายอย่างเขาจะอยากได้ใครมากมายขนาดนี้มาก่อน หรือเพราะไม่เคยเจอผู้หญิงในคุณลักษณะที่พร้อมสำหรับการ ‘ผสมพันธุ์’ แต่เธอดันไม่ยอมกดบัตรคิว เพราะเธออยู่เหนือกว่านั้น นั่นคือให้เขาเป็นฝ่ายปีนขึ้นไปสอย

“แหม... ก็แต่ละชุดของลูกเจี๊ยบน่ะ โป๊ๆ ทั้งนั้นน่ะสิคะ มีหวังทีมงานหนุ่มๆ ของอาจิ๋ว ได้ใจแตกกันแน่ อาจิ๋วว่ามั้ยล่ะคะ”

“อืม...”

“อืม... อะไรคะ”

“ก็อืม...”

“อาจิ๋ว... อาจิ๋วเป็นอะไรหรือเปล่าคะ อาจิ๋วเหนื่อยเหรอ”

“อืม... อาจุก”

“จุก! อาจุกตรงไหนคะ ลูกเจี๊ยบดูให้ค่ะ ตรงไหนคะอา ตรงท้องนี่หรือเปล่า”

จิณณ์ตื่นจากภวังค์ทันทีที่ฝ่ามือของมนตกานต์วางอยู่ใต้ลิ้นปี่ของเขา ใบหน้าบ้องแบ๊วอยู่ห่างเขาไม่ถึงคืบ ดวงตาฉายแววห่วงใยและสงสัยในสิ่งที่เขาเป็น แต่เขาสิ... อยากเขกหัวตัวเองชะมัด

“เอ่อ... อา... อาไม่ได้เป็นอะไร ไปเถอะรีบเดิน จะได้ไปดูห้อง”

“แต่อาจิ๋วบอกว่าอาจิ๋วจุกนี่คะ อาจิ๋วจุกตรงไหน เดี๋ยวลูกเจี๊ยบดูให้”

“ไม่!”

เสียงเข้มตวาดออกไปพร้อมขยับตัวห่างจากเธอโดยอัตโนมัติ จิณณ์เห็นแววตกใจในดวงตาคู่สวย เขาจึงรู้ตัวว่าเขาพลาดอีกแล้ว เขากำลังกลัวความใกล้ชิด กลัวตัวเองจะระงับใจไว้ไม่ได้ แต่มนตกานต์ผิดอะไรล่ะ เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาคิดไปถึง...

“เอ่อ... ลูกเจี๊ยบ อาขอโทษ อาแค่เป็นห่วงลูกเจี๊ยบ ลูกเจี๊ยบเป็นสาวแล้วไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวผู้ชาย”

“โธ่... คิดว่าอะไร แต่อาจิ๋วเป็นอาของลูกเจี๊ยบนะคะ อาจิ๋วก็เห็นลูกเจี๊ยบมาตั้งแต่เด็ก ลูกเจี๊ยบเชื่อใจอาจิ๋วค่ะ ก็เหมือนอย่างที่พ่อกับแม่เชื่อใจอาจิ๋วไงคะ อาจิ๋วเป็นคนดีที่หนึ่งของครอบครัวเรา ไม่อย่างนั้นพ่อกับแม่ไม่ไว้ใจให้ลูกเจี๊ยบมาอยู่กับอาหรอกค่ะ อาจิ๋วอย่าคิดมากนะคะ ลูกเจี๊ยบยังไม่คิดเลย”

“อา... อาแค่ไม่อยากให้ลูกเจี๊ยบต้องเสียหายน่ะ”

“แต่เราเป็นอากับหลานกันนี่คะ ใครจะมองยังไงก็ช่างสิ แค่ลูกเจี๊ยบกับอาจิ๋วรู้กันก็พอ ใช่มั้ยคะ ไปเถอะค่ะ ลูกเจี๊ยบอยากเห็นห้องของลูกเจี๊ยบแล้วล่ะ”

มนตกานต์เดินเลี้ยวลัดเข้าสู่ตัวบ้านเพื่อนำไปสู่ห้องนอนเดิมของเธอ ทิ้งให้จิณณ์ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม ก่อนจะข่มใจแล้วเดินตาม เพราะ ‘แค่ลูกเจี๊ยบกับอาจิ๋วรู้กัน’ น่ะไม่ใช่ นั่นคือมนตกานต์รู้อยู่คนเดียว แต่เขาสิ... เริ่มไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว อยากลืมไปซะว่ามนตกานต์เป็นลูกของไก่อู อยากเพิ่มความทรงจำใหม่ว่าเธอเป็นลูกไก่แสนสวยที่เดินเข้ามาให้เขากำ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป