บทที่ 4 บทที่2.สิ่งที่ต้องเลือก 1
บทที่2.สิ่งที่ต้องเลือก
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเมื่อคืนวราพิชชาหนีออกมาจากห้องโดมินิค วราพิชชาตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลีย กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เนื่องจากความที่โมโหจนทำให้นอนพลิกตัวกลับไปมา กว่าจะหลับลงได้ต้องใช้เวลานานมากขึ้นกว่าปกติ เธอจำใจลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันก่อนจะแต่งกายเพื่อจะไปทำงานตามปกติ เมื่อเดินทางไปถึงร.ร Grand Hotels.เธอนำของใช้ส่วนตัวไปเก็บที่ล็อกเกอร์แล้วก็ตรงไปที่ร้านขายอาหารพนักงานในบริเวณที่โรงแรมจัดไว้ให้ เพื่อรับประทานอาหารเช้าก่อนที่จะเริ่มงาน
“ทางนี้ ...จ้ะวรา” เสียงหวานของนิสาเพื่อนสนิท ดังมาจากหน้าร้านขายน้ำดื่ม
“ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลยละ ทุกทีนิสามาเกือบแปดโมงไม่ใช่เหรอ” วราพิชชาถามกลับ
“แหม...วันนี้นิสารีบมารอถามวรานะสิ ว่าไงล่ะคุณโดมินิคหล่อหรือเปล่า ตัวจิรงเป็นๆ นะหล่อ มากกว่ารูปถ่ายตามหน้าหนังสือไหม”
“วรา ...ไม่อยากพูดถึงอีตานั่นเลย ขอไม่พูดถึงได้ไหม”
“แอ๋... ทำไมละหรือว่าขี้เหร่จนวราไม่อยากพูดถึง”
“เปล่าไม่ใช่อย่างนั้น คุณโดมินิคเขาก็หน้าตาดีเหมือนในรูปนั้นแหละ”
“อ้าว...แล้วทำไม วราไม่อยากพูดถึงละ เขาทำอะไรวราหรือไง!!!”
“อืม... เมื่อคืน จะเล่ายังไงดีนะ คือคุณโดมินิคเขาขอให้วราค้างคืนด้วยน่ะ เขาถามว่าอยากได้เงินเท่าไร ถ้าต้องนอนกับเขา วราโมโหก็เลยหนีออกมาจากห้อง แล้วก็ตรงกลับบ้านเลย”
“แล้วเขาไม่โกรธวราเหรอ!!! ได้ข่าวว่าเอาแต่ใจ แล้วก็ขี้โมโหนี่นา”
“ไม่รู้สิ เขาบอกวราเสร็จแล้วก็เดินเข้าห้อง วราก็เลยรีบหนีกลับบ้านจ้ะ”
“คงจะโมโหน่าดูเลยเนอะ แต่ว่าเขามาขอให้วราค้างด้วยทำไม คู่ขาเขาตามข่าวก็เยอะแยะมีให้เลือกนับไม่หมดเลย จะมาสนใจกับคนระดับเราๆ ทำไมให้เสียเวลา”
“ไม่รู้สิ วราไม่อยากคิด รกสมองเปล่าๆ”
“อืม...กลางวันวรามารอนิสาที่นี่นะ นิสาจะไปสืบมาให้ว่าคุณโดมินิคโกรธวราหรือเปล่า”
“โกรธก็ช่างเขาซสิ วราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ไม่เห็นต้องกลัว”
“นั้นสิเนอะ งั้นเราสองคนไปทำงานกันดีกว่า เจอกันตอนเที่ยงนะจ๊ะ”
“จ้ะ... เจอกันตอนเที่ยง” วราพิชชารับคำและแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ตัวเอง
โดมินิคนั่งอ่านเอกสารในมือที่การ์ดของเขาออกไปเสาะหามาทั้งคืนด้วยสีหน้าเคร่งเคียด นางสาว วราพิชชา มโนสา เกิดและโตในบ้านเด็กกำพร้า สถานเลี้ยงเด็ก ‘อุ้มรัก’ โดยอยู่ในความอุปการะของบ้าน ’อุ้มรัก’ ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน เรียนจบปริญญาตรีจากมหาลัยของรัฐบาลด้วยทุนนักศึกษายากจนแต่เรียนดี เริ่มทำงานที่โรงแรม Grand Hotels. ได้ปีกว่าๆ ในตำแหน่งแม่บ้านทำความสะอาด ยากจนต่ำต้อย ไม่มีอะไรโดดเด่นหน้าตาก็งั้นๆ ไม่ได้สวยโดดเด่นมากมาย ก็แค่ตัวเล็ก ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย ดูโดยรวมแล้วก็น่ารักดี
“มีแค่นี้เองเหรอ ประวัติส่วนตัวไม่เห็นบอกอะไรเลย มีแค่ที่อยู่อาศัย กับอยู่กับใคร”
“ครับ เธออาศัยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ‘อุ้มรัก’ ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีใครครับ”
“แค่นี้...”
“ครับ”
“มันน่าจะมีมากกว่านี้นะ ความสามารถขนาดนายหาได้แค่นี้เองหรือไง...แซม”
“เออ... แต่ที่ดินที่สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ ติดจำนองธนาคารอยู่ครับ เป็นเงินจำนวนมากพอสมควร”
“ครับ”
“อย่างนั้นเหรอ”
“ครับ”
“อืม... คงรู้นะว่าต้องทำยังไง ฉันให้เวลาสองวัน ทุกอย่างต้องเรียบร้อย”
โดมินิคสั่งงานเรียบร้อยก็เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีกลับเข้าห้องนอน เพื่อไปทำธุระสวนตัว
“ฉันจะรอดูสิ เธอจะหนีฉันยังไง ถ้าต้องเลือกระหว่างยอมเป็นนางบำเรอของฉัน กับความกตัญญู เธอจะเลือกอะไรล่ะแม่สาวน้อย จะทิ้งให้ทุกคนต้องผจญกับปัญหา หรือว่าจะแบกรับไว้คนเดียวดี”
โดมินิคอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาจากห้องพักตรงไปที่ทำงาน ในวันนี้มีประชุมบอร์ดบริหารเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยขององค์กร เหมือนกับที่เขาทำมาในหลายๆ ประเทศ ทุกประเทศจะมีตัวแทนคอยทำงานอยู่แล้ว แค่ไปตรวจดูความเรียบร้อย และแก้ปัญหาบางประเภทที่มันเกินอำนาจตัดสินใจของทีมผู้บริหาร เขาและผู้ติดตามจึงต้องเดินทางไปทุกประเทศที่มีสาขาของ รร.Grand Hotels. ความที่เดวิดถ่ายโอนอำนาจให้โดมินิคเริ่มทำงานตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ สองคนตายายก็พากันไปเที่ยวพักผ่อนตามประสาคนแก่กันสองคน ปล่อยให้โดมินิคมุมานะบริหาร จนสามารถขยายสาขาออกไปในหลายๆ ประเทศเพิ่มมากขึ้นมากกว่าตอนสมัยที่เดวิดสร้างไว้ หนุ่มโสดหล่อและรวย ทำให้ชีวิตของโดมินิคไม่เคยขาดคนข้างกาย จึงทำให้อดโมโห วราพิชชาไม่ได้ หล่อนไม่ใช่คนดังมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ดารานางแบบบางคนแค่ได้ควงเขาก็แทบจะสมยอมฟรีๆ โดมินิคเสนอเงินให้แล้ววราพิชชายังเล่นตัว เขายอมลดตัวไปมีความสัมพันธ์ด้วยก็น่าจะยินดี ไม่ได้ดูถูกนะ ในชีวิตนี้วราพิชชาไม่น่าจะหาผู้ชายที่ดีเลิศกว่าตัวโดมินิคเองได้
ผู้บริหารรายอื่นๆ นึกแปลกใจไปตามๆ กัน วันนี้โดมินิคอารมณ์ดีนั่งฟังหัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายรายงาน โดยไม่มีข้อโต้แย้ง แถมยังฟังไปยิ้มไป นานๆ จะได้เห็นโดมินิคในมาดแบบนี้กันสักที ธรรมดานี่ซักถามทุกๆ คำรายงานจนหัวหน้าฝ่ายเหงื่อตกไปตามๆ กัน การประชุมราบเรียบ เมื่อประธานไร้ข้อกังขา หลังจากเสร็จสิ้นการรายงาน และปรึกษาหารือเกี่ยวกับงานเสร็จเรียบร้อย โดมินิคและผู้ติดตามจึงพากันเดินออกจากห้องประชุมไป
“มีงานที่ไหนต่ออีกเหรอเปล่า” โดมินิคถามแซมเสียงเรียบ ทันทีที่เดินพ้นประตูห้องประชุม
“ไม่มีแล้วครับ ถ้ามีก็ตอนเย็น คุณต้องไปงานเปิดตัวรถยนต์ที่คุณพนาเชิญไว้ครับ” แซมเปิดสมุดนัดหมายก่อนรีบรายงานออกไป
“ตอนนี้ก็ว่างแล้วใช่ไหม” โดมินิคถามต่อ พยักหน้าหงึกหงัก
“ครับ...”
