บทที่ 10 Chapter 10
“ปล่อยยัยสามไว้กับคุณเพชรแบบนี้ไว้ใจได้เหรอพี่ ยัยสามยิ่งเป็นแบบนั้น” พิริยะอดถามไม่ได้ขณะลงลิฟต์ไปหารถ
ยศกรหัวเราะในลำคอ ปรายตามามองหน้าเครียดๆ ของญาติผู้น้อง
“ถ้าคุณเพชรจะเคลมยัยสามจริงๆ มึงจะทำอะไรได้วะไอ้ยะ”
“ก็...” นั่นสิ เขาทำอะไรไม่ได้เลย พิริยะอึกอัก “ก็มันห่วงนี่พี่ เพื่อนทั้งคน สามก็ยังเด็กอยู่นะ”
“เอาน่า กูรู้ว่ามึงห่วงสามมาก คุณเพชรถึงจะดุบ้าง อารมณ์ร้อน แต่ไม่บังคับคนไม่เต็มใจแน่นอน” ยศกรตบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ
พิริยะถอนใจเฮือกใหญ่ เขาโตพอจะรู้จักความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายแล้ว เสียงที่ดังต่อมาจึงอ่อนอ่อยแห้งโหย
“กลัวสามมันเต็มใจนั่นแหละ”
ไม่กี่นาทีเท่านั้น ตรีนุชกลับมาหายใจกระเส่าอีกครั้ง ครั่นเนื้อครั่นตัว เนื้อตัวบิดส่ายสั่น แววตาเยิ้มหยาด เพชรพญาจับตามองอยู่ก่อนแล้ว เขากดตัวเธอให้แช่น้ำไว้
“คุณเพชร ฉันเป็นอะไรไป ทำไมทรมานแบบนี้”
“อยากมีเซ็กซ์”
“เซ็กซ์” เสียงใสทวน หน้าตาแดงก่ำ “ไม่จริง...”
เขาไม่รู้ว่าเด็กสาวเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ฝ่ามือชุ่มน้ำที่เริ่มขาวซีด เอื้อมมาจับต้นแขนเขา เกร็งจับแน่นเพื่อจะใช้เป็นที่เหนี่ยวตัวลุกขึ้น
ตรีนุชแหงนหน้ามองหน้าหล่อเหลาคมสันสะดุดตา เพชรพญาเป็นผู้ชายที่มีหน้าตาหล่อเหลา แม้เวลาทำหน้านิ่งก็ยังหล่อ เธอทรมาน โหยหา อยากให้เขากอดอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่รู้จะให้เหตุผลอะไรในความรู้สึกนี้ ซอกขาก็ตอดเต้นอย่างไม่เคยเป็น
“กะ...กอดหน่อย”
เธอรู้ตัวว่าพูดอะไรอยู่แต่ห้ามปากตัวเองไม่ได้ สองแขนไต่ขึ้นไปโอบรัดรอบลำคอหนา ดึงใบหน้าคมโน้มลงมา ขณะที่ดันตัวขึ้นเพื่อจะได้เสียดสีเนื้อตัวกับร่างกายแกร่งแน่น ความอบอุ่นผ่าวร้อนที่เธอจำได้และต้องการสัมผัสมันอีกเพื่อลดความทรมานของตัวเอง
เพชรพญาหายใจสะดุด จ้องมองดวงหน้าที่แหงนหงายเชิญชวนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวว่าทำอะไรอยู่ ใจเขาเต้นถี่ขึ้น เด็กสาวตรงหน้าอวบอิ่มเกินตัวเกินวัยจากสัมผัสจับกอดมาเมื่อครู่ใหญ่บอกเขาแบบนั้น กรุ่นกลิ่นเรือนกายของสาวน้อยวัยกำดัดที่มีหน้าตาสะสวยใสก็ทำให้ความดำมืดในใจเขาเต้นเร่า
มันง่ายนิดเดียว หากจะทำตามสัญชาตญาณของมนุษย์เพศผู้ เมื่อคนตรงหน้าพรักพร้อมยินยอม
“คุณเพชร... สามหนาว... กอดสามหน่อย...”
เสียงหวานแว่วเว้าวอน เพชรพญารู้สึกตัวเมื่อลมหายใจอุ่นแตะต้องใบหน้า แล้วพบว่าปากอิ่มอยู่ใกล้แค่ลมหายใจกั้นเท่านั้นเอง
“กอดสามหน่อย มันทรมานเหลือเกิน...”
สาวน้อยวัยกำดัดสั่นสะท้าน หวีดเสียงครางเป็นระลอกยามที่ร่างกายถูกบีบคั้นจากอารมณ์มืดดำรุนแรง เธอเป็นฝ่ายยืดตัวโถมกายเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงเขาเองด้วยซ้ำ ประกบปากอิ่มปิดเรียวปากเข้มได้รูป
เพชรพญาหายใจสะดุดขาดห้วง ปากนุ่มกลับคล้ายมือมาบีบหัวใจแกร่งให้หยุดเต้น ความเย็นจัดจากผิวกายนุ่มกับความเปียกชื้นแทบถูกลืมเลือน ความสนใจทั้งหมดพุ่งไปยังเรียวปากนุ่ม สาวน้อยแค่ทาบปากประกบโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเดินหน้ายังไง ได้แต่เบียดเนื้อตัวที่เปียกชื้นเข้าเสียดสีบี้เบียดตัวเขา ให้ตาย! กรุ่นกลิ่นเรือนกายสาววัยแรกผลิมันเขย่าอารมณ์ชะมัด
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจ รวบรัดเนื้อตัวนุ่มไว้ ประกบบดปากลงเบียดเคล้า รุกเร้าสนองกลับด้วยจูบแนบแน่น หนักหน่วง เร่าร้อน ใบหน้างามแหงนหงายไปข้างหลัง ลมหายใจกระเส่าถี่ดัง เปล่งเสียงครางแผ่วลอดลำคอ
อืม...
กระแสอารมณ์เชี่ยวกรากผลักดันให้ตรีนุชตอบสนอง เธอไม่ประสา ไร้สำนึกผิดชอบ แต่สมองจดจำการกระทำของเพชรพญาได้เป็นอย่างดี เธอเลียนแบบจูบเขา แตะไต่เรียวลิ้นสอดไซ้สู่โพรงปากอบอ้าว โลมเลีย หยอกเอินลิ้นสากหนา เพชรพญาถึงกับเปล่งเสียงครางลึก ตวัดลิ้นเข้ารัดรูดดูดเลียลิ้นนุ่ม ตะโบมโลมฟัดปากอิ่มหวานจนบวมเป่งทันตา
ปากแนบปาก ก่อความอัศจรรย์ ความรุ่มร้อนในร่างกายคล้ายถูกเบาบาง หากแค่จูบกลับเหมือนยังไม่พอ ตรีนุชเคลื่อนมือเรียวบางไปทั่วลำคอหนา ท้ายทอยใหญ่ ลูบไล้ลงมาที่แผงอก วุ่นวายสะกิดเขี่ยเกลี่ยกระดุมเสื้อออกจากรังดุม
“เด็กบ้า” เพชรพญาสบถ สะบัดน้ำออกจากเรือนผมเปียกชุ่มแรงๆ ระบายอารมณ์ฉุนเฉียว ภาพเรือนร่างยั่วยวนของตรีนุชกระตุกลมหายใจชาย ร่างกายแกร่งตื่นคึกแม้ขณะที่อยู่ใต้สายน้ำ
เขาไม่ควรรู้สึก! เธอมันเด็กช่างยั่ว ล่อหลอกหยอกเล่นกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อาย ดูอย่างไอ้เสี่ยหื่นกามนั่นปะไร ก่อนหน้าเห็นจะเป็นจะตายอยากได้กรณิการ์ พลาดหวังไม่ทันไร โผมาตอมไต่เตาะดอกไม้ดอกใหม่เสียแล้ว มันคงไม่รู้ว่า ดอกนี้มันมีพิษ ถึงจะหวานหอมชวนดมดอมแต่พิษนั้นก็ร้ายแรงนัก เขาจำได้ดีทีเดียว แม่สาวใสไร้สติที่พร่ำขอให้เขามีเซ็กซ์กับเธออย่างไม่อายปาก ถึงตอนนั้นเจ้าหล่อนจะเมามึนยาก็เถอะ เพชรพญายังรู้สึกว่า เธอควรจะมีศักดิ์ศรีต่อต้านฤทธิ์ของมันให้สมกับความปากดีบ้าง แต่ไม่เลย แล้วที่สำคัญเขาไม่ชอบใจตรงที่มาล้อเล่นปลุกเร้าให้เขามีอารมณ์ตามไปด้วย
จูบ... เรียวปากนุ่มนวลหอมหวานล่อลวงจิตใจให้ถวิลโหยใคร่สัมผัสให้ล้ำลึกถึงใจ รสกำซาบนั้นยังติดตรึงบนริมฝีปากแม้จะผ่านมาเนิ่นนานปี นี่เองที่สร้างความฉุนกึกในใจ เขาฉุนที่ตัวเองจำได้ทุกบทตอน
