บทที่ 14 Chapter 14

สาวน้อยร้องเบาๆ หน้าตาเจ็บปวด เบี่ยงตัวหนีโดยมีกรณิการ์คอยช่วย ยศกรลอบมองแล้วก็อยากหัวเราะดังๆ เพราะคนช่วยนั้นดูท่าจะกลัวเปมิศาไม่น้อย

“คุณเปรมก็คิดแต่เรื่องพวกนั้น มันไม่มีอะไรหรอกน่า”

“ให้มันจริงเถอะ! ไม่ใช่ใจง่าย มักมาก ไปอ้าขาให้เขาเอาฟรีๆ ถ้าฉันรู้นะจะตีแกให้ตายเลยนังสาม” หน้าตากราดเกรี้ยวบิดเบ้คาดโทษ

“ถ้าแกคิดจะแบให้เขาก็ต้องดูว่าได้คุ้มเสียหรือเปล่า ถ้าแกฉลาดก็หาทางจับเขาให้ได้ซี่ สบายทั้งชาติ ที่พูดมานี่เข้าสมองขี้เลื่อยมั่งมั้ยหา!” เปมิศายังบ่นฉอดๆ แต่ลดเสียงเพื่อไม่ให้ยศกรได้ยิน โดยไม่ทันสังเกตว่าประตูห้องคนไข้เปิดออก เพชรพญาก็ได้ยินคำพูดพวกนั้นเข้าเต็มๆ หากเขากลับทำหน้าเรียบเฉยเดินออกมา เปมิศาหันมาเจอก็ปรี่เข้ามาหาทันที ส่วนตรีนุชเบ้หน้า นึกถึงเรื่องที่เปมิศาบอก

จับเพชรพญา... ใครจะบ้า นรกชัดๆ

“เมื่อคืนสามอยู่กับคุณใช่ไหมคุณเพชร”

เพชรพญามองเลยไปที่สาวน้อยเจ้าของชื่อ เธอกำลังยืนลูบแขนป้อยๆ แต่ไม่มองมาทางเขา โดยมีกรณิการ์ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเป็นกังวล สิ่งที่บังเอิญได้ยินก็ทำให้ความรู้สึกติดลบที่มีต่อสองพี่น้องเพิ่มมากขึ้นไปอีก

คิดจะจับเขาด้วยหน้าอกแบนๆ ก้นแฟบๆ แบบนั้นน่ะเรอะ!

“ครับ พี่เปรม”

“อะไรนะ! แล้วนี่มันยังไง คุณเพชรทำไมทำแบบนี้ น้องสาวพี่ยังเด็กนะ คุณเพชรจะรับผิดชอบยังไงไม่ทราบคะ”

“ผมรับผิดชอบการกระทำของตัวเองเสมอ เผอิญผมไม่ได้ทำอย่างที่พี่กำลังคิด เพราะฉะนั้นผมจะไม่สนใจเรื่องไร้สาระนั่น ถ้าพี่เปรมว่างรบกวนเข้าไปพบผมที่บริษัทด้วย มีงานของคุณกอบเกื้อต้องจัดการหลายอย่าง มันเกี่ยวกับตัวพี่ด้วย”

เปมิศาอ้าปากหวอ คำพูดที่เตรียมจะพูดหลุดหายไปจากสมอง เพราะเรื่องใหม่ที่หนุ่มรุ่นน้องบอกเรียกความสนใจได้มากกว่า พลางนึกขัดใจ เพชรพญาพูดจบก็เดินหนีไปทันที ไม่ไว้หน้าเธอสักนิด อย่างน้อยเธอก็เคยเป็นคนสนิทของรุ่นพี่ที่เขาเคารพนะ

ตรีนุชอาศัยจังหวะที่ทั้งสองคุยกันดึงกรณิการ์เข้าไปในห้องพักคนไข้ทันที หลบเลี่ยงการถูกเปมิศาซักไซ้ไล่เลียงเอาอีก

ช่วงเวลาลำบากอย่างแท้จริงของตรีนุชกับกรณิการ์ก็ตามมาติดๆ หลังคุณกอบเกื้อเสียชีวิต ทุกอย่างในบ้านถูกจำกัดแม้กระทั่งอิสรภาพ กรณิการ์นั้นลำบากกว่าเพราะถูกเปมิศากลั่นแกล้งไม่เว้นแต่ละวันทำให้ตรีนุชอดไม่ได้ต้องเข้าไปช่วย ทั้งช่วยต่อล้อต่อเถียงกับเปมิศาแบบที่กรณิการ์ไม่เคยกล้าทำ ช่วยทำงานบ้าน และหารายได้เสริมมาแบ่งกันไปโรงเรียน เพราะเปมิศาจำกัดค่าขนมของพวกเธอไปด้วย ในความลำบากยังมีความโชคดีของเธอทั้งสองคนอยู่บ้าง ที่คุณกอบเกื้อได้เอาเงินค่าเรียนของพวกเธอฝากเพชรพญาจัดการให้ ไม่อย่างนั้น ตรีนุชไม่รู้ว่าจะได้เรียนจนจบ ปวส.หรือเปล่า แต่... ในความโชคดีก็มีความหงุดหงิดใจ เมื่อถูกคนหน้าหล่อร้ายแต่ใจหินใจทมิฬข่มขู่เธอสารพัด

“ห้ามกินเหล้า ห้ามเที่ยวกลางคืน ห้ามพาอ้อนไปทำเรื่องเสียหาย ห้าม...”

“แต่นี่มันเงินของพ่ออ้อนนะ” ตรีนุชเถียงคนหน้านิ่งในวันหนึ่งที่เขาเรียกเธอเข้าไปพูดคุยด้วย

เพชรพญาคอยดูแลเธอและกรณิการ์ห่างๆ แต่ตรีนุชคิดเหมาเอาว่า เขาคอยดูแลกรณิการ์มากกว่า

ใบหน้าดุคมเงยขึ้นจากเอกสารบนโต๊ะ เอนหลังพิงเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ ขณะสายตาจับจ้องหน้าสาวน้อย

“แน่นอน เงินของคุณกอบ แต่ฉันอยู่ในฐานะผู้ปกครองพวกเธอตอนนี้ และเธอ...คือคนที่มีแนวโน้มจะเสียคนมากกว่าอ้อน เธอจะเป็นเด็กใจแตกยังไงฉันไม่สน แต่ถ้าพาอ้อนไปเสียคนเสียอนาคตด้วย ฉันจะงดค่าเรียนเธอกับอ้อน”

“ไม่ยุติธรรมสักนิด”

คนบ้านี่ ตัดสินเธอจากอะไรกันมาว่าเธอเป็นเด็กใจแตก หึ! ตรีนุชเชิดหน้า ตาวาววับด้วยความโกรธบ้าง

“นี่แหละยุติธรรมแล้ว ถ้าเธออยากให้อ้อนได้เรียนจนจบก็ทำตัวดีๆ”

“ฉันไม่ได้ทำตัวเสียหายนะ”

“ใช่เร้อ จากประสบการณ์ที่ฉันเจอมาเมื่อเดือนก่อนไม่บอกอย่างนั้น” เพชรพญาโน้มตัวยื่นหน้ามากลางโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แววตาคมมีแววหยามเหยียดถึงเหตุการณ์ที่ตรีนุชอยากจะลืม เธอเม้มปากแน่น ขุ่นเคืองจนแทบจะเก็บปากเก็บมือไม่ไหว “เธอกับพี่สาวเธอจะเป็นยังไง ฉันไม่สนสักนิด...ตรีนุช แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเธอทำร้ายอ้อน ฉันไม่อยู่เฉยแน่”

“คุณจะทำอะไรได้ล่ะเสี่ยเพชรถ้าฉันกับพี่สาวรังแกอ้อนจริงๆ”

ตรีนุชไม่เคยนึกคิดเรื่องทำร้ายกรณิการ์ที่อายุน้อยกว่าเธอหลายเดือน เธอมองอีกฝ่ายเป็นน้องสาวที่เธอต้องปกป้องมากกว่า และปกป้องจากเปมิศาที่คอยรังแก แต่เธอทำหน้าทำตาตีรวนถามเสี่ยหนุ่มที่คอยจิกกัดเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึมแบบนั้นเพราะความหมั่นไส้

“ทำอะไรดีล่ะ...” เพชรพญาลากเสียง กระตุกยิ้มตรงมุมปาก หากแววตากลับไม่มีร่องรอยความรื่นรมย์ “เนื้อตัวสาววัยกระเตาะ ถึงจะมีอกนิด ก้นหน่อย แต่ความขาวของเธอก็พอใช้ได้”

“คุณ! ทุเรศที่สุด คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย”

เขาแกล้งเธอ และจงใจพูดถึงคืนบ้าๆ นั่น เอามันมาเย้ยหยันเธอ เขามันผู้ชายชนิดไหนกัน ตรีนุชเดือดดาล

“ใช่คนทุเรศๆ คนนี้ไหมที่ช่วยให้เธอไม่ต้องมีประวัติเสพยา ใช่คนทุเรศแบบฉันมั้ยที่ทำให้เธอไม่ต้องถูกไอ้พวกเด็กเกรียนนั่นรุมโทรม รึเธอขัดใจล่ะตรีนุช รึที่จริงก็อยากไประเริงสวาทกับพวกมันอยู่แล้วแต่ถูกฉันขวางทางซะก่อน บอกไว้ตรงนี้เลยนะ ฉันไม่อยากแตะเธอนักหรอก ความเหลวแหลกที่พี่เธอทำ ตัวเธอมันก็คงไม่ต่างกันนัก บอกตรงๆ ฉันแตะเธอไม่ลงด้วยซ้ำ แต่ถ้าเธอเสี้ยนเงี่ยนง่านขนาดนั้นล่ะก็ ไอ้พวกลูกน้องที่โรงงานฉัน บางคนมันเพิ่งขึ้นจากเรือประมง รอนแรมกลางทะเลแรมเดือนก็มี ได้เด็กเอ๊าะๆ ผิวขาวๆ หน้าตาพอใช้ได้แบบนี้ไปฟัด มันคงยิ่งกว่าถูกหวย แบบนั้นก็อาจจะถูกใจเธอก็ได้นะ สนมั้ยล่ะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป