บทที่ 3 พวงกุญแจของเธอที่หายไป

ปีเตอร์รู้สึกตกใจกับความคิดของตัวเองที่ตอนนี้ออกมานั่งที่โซฟาที่เธอใช้เป็นที่พักผ่อนก่อนหน้านี้ ว่าเพียงแค่เก็บพวงกุญแจและเห็นเจ้าของพวงกุญแจในยามหลับ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากเป็น ‘เจ้าของเธอ’ และเก็บเธอไว้เป็นของเขา เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีและเกิดขึ้นแม้กับเจซี เขาจ้องมองตุ๊กตาพวงกุญแจในมืออย่างกับมันสามารถทดแทนใบหน้าที่นอนหลับอยู่ในห้องข้างๆได้ “ของขวัญวันเกิดปีนี้ช่างดีจริงๆ” และเผลอหลับไปตรงนั้น

“ฮื้ม...!” หนูนาค่อยๆบิดและขยับตัว เมื่อรู้สึกตัวน่าจะเช้าแล้ว และเมื่อค่อยๆลืมตามองไปรอบๆ “เอ๊ะ!!!...ที่นี่มัน....มานอนในนี้ได้ไงเนี่ย!!!” คำถามซึ่งไร้คำตอบ เพราะมองไปรอบๆในห้องมีแค่เธอ  หนูนารู้สึกตกใจตื่นตาสว่างรีบลงจากเตียงหมุนรอบตัวเอง มองไปที่เตียงอย่างกับเห็นสัตว์ประหลาด ถึงแม้จะตกใจแต่เธอก็จำได้ว่านี่คือห้องนอนในสตูดิโอที่เธอเข้ามาเมื่อคืน และรีบสำรวจตัวเองก็ยังอยู่ในชุดเมื่อวานนี้เหมือนเดิม

เมื่อสติเริ่มกลับมาเกือบปกติ ก่อนจะออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะเก็บเตียงให้เรียบร้อย และค่อยๆแง้มประตูแอบมองว่าข้างนอกมีใครบ้าง แต่ทุกอย่างว่างเปล่าไม่มีใคร จึงค่อยๆเดินออกมาตรงที่โซฟา เธอเห็นเป้พร้อมพวงกุญแจวางไว้ข้างๆ แต่มีบางสิ่งหายไป คือ ตุ๊กตาที่แทนตัวเธอที่นีออนทำให้ก่อนเดินทางมาอเมริกา มันหายไป แต่ลูกกุญแจอยู่ครบ หนูนาคงต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อน เพราะตอนนี้เธอต้องรีบออกจากที่นี่  เพราะอีกสองชั่วโมงเธอมีเรียนถึงเที่ยง และช่วงบ่ายเธอต้องมารายงานตัวกับกลุ่มศิลปิน ที่ต่อจากนี้เธอต้องเข้ามาดูแลพวกเขาตามหน้าที่

หนูนาไม่รู้ตัวเลยว่าพฤติกรรมท่าทางทุกอย่างของเธอ อยู่ในสายตาของใครบางคนที่ซ่อนตัวไม่อยากให้เธอได้เห็น และเมื่อเธอออกจากห้องไปปีเตอร์ก็เดินออกมาพร้อมที่ในมือมีตุ๊กตาที่ขโมยมาจากพวงกุญแจของเธอ

“บ้าหรือเปล่าว๊ะเรา นี่ถ้าเธอรู้คงคิดว่าเราโรคจิตแน่ๆ ที่โดนขโมยทั้งตุ๊กตาและ...จูบ” คิดไปก็ยิ้มกับตัวเองแบบที่ไม่เคยยิ้มมาก่อนเลยในความรู้สึกดีแบบนี้ และออกจากห้องไป โดยทิ้งระยะเวลาให้เธอล่วงหน้าไปก่อน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก  เสียงเคาะประตูนำพร้อมกับประตูที่ถูกผลักเข้ามา อย่างไม่ต้องรอเสียงขออนุญาตต่อบุคคลภายในห้อง เพราะเป็นธรรมเนียมรู้กันอยู่แล้ว เมื่อมีไฟดวงเล็กๆสว่างที่หน้าประตู แสดงว่ามีเจ้าของห้องกลุ่มศิลปินกำลังทำงานอยู่ หนูนาค่อยๆเดินเข้าไปพร้อมปิดประตูเบาๆ และกวาดสายตามองไปรอบๆ ตอนนี้ทุกคนในวงอยู่ที่ตำแหน่งเครื่องดนตรีของแต่ละคน ทุกคนหยุดกิจกรรมทุกอย่าง และหันมามองที่สาวเอเชียร่างบางที่ยืนอยู่ใกล้ประตู ด้วยสีหน้าที่บอกความรู้สึกกันไปคนละแบบ

สำหรับหนูนาทราบดีอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาคือกลุ่มศิลปินที่ดังมาก และไหนจะโปสเตอร์รูปพวกเขาที่ติดตามฝาผนังในห้องนี้อีก ถึงแม้ว่าเธอพึ่งจะรู้จักพวกเขาในนามเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แต่พอมาเห็นตัวจริงไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกอย่างไร  ถึงแม้เธอจะเป็นนักเขียนนิยายก็ตาม

“สวัสดีค่ะ! ฉันนีน่าค่ะ พวกคุณเรียกฉันเหมือนกับที่คนที่นี่เรียกได้เลย...คิดว่าพวกคุณคงพอจะทราบแล้วว่าฉันมีหน้าที่ดูแลพวกคุณที่นี่...”เงียบ!!!หลังจากที่หนูนาพูดจบก็ยังเกิดความเงียบภายในห้อง หนูนาเห็นสายตาของทุกคนที่ยังจ้องมาที่เธอโดยไม่มีใครได้เอ่ยอะไรเลย

“ฮะ..แอ้ม!”เสียงกระแอมของนักร้องนำดังขึ้นมา เพื่อทำลายความเงียบที่กำลังสร้างความอึดอัดให้สาวน้อยเพียงหนึ่งเดียวในห้องนี้ เรียกสติเพื่อนๆเขาที่ยังจ้องเธอตาไม่กะพริบกัน ซึ่งเขารู้สึกไม่ชอบสักเท่าไหร่ และทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นหนูนามองตามต้นตอของเสียงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ

“อืม...สวัสดีครับ ผมไรอัลเป็นตัวแทนของทุกคนยินดีต้อนรับครับ และหลังจากนี้รบกวนด้วยครับ” ไรอัลเป็นผู้กล่าวทักทายและต้อนรับหนูนาอย่างเป็นทางการและให้เกียรติสาวน้อยเพียงหนึ่งเดียว ณ ห้องแห่งนี้ และทุกคนก็กล่าวทักทายพร้อมแนะนำชื่อตัวเอง และคนสุดท้าย..

“ปีเตอร์...เรียกว่า ‘พีท’ แล้วกัน” หลังจากสิ้นเสียงไร้อารมณ์ของปีเตอร์เหล่าสมาชิกในวงได้หันและย้ายสายตามาที่ปีเตอร์ อย่าง งงๆ และอึ้งๆด้วยความประหลาดใจ เพราะต่างคนคงคิดไปทางเดียวกันว่าหญิงสาวตรงหน้าคง...ซึ่งทุกคนเข้าใจความหมายกันชัดเจนแค่เพียงสบตากันเอง

“พูดยาวแฮะ...” พอลพึมพำเบาๆและหันไปขยิบตากับไรอัล

หนูนาหันมายิ้มพยักหน้ารับกับคำทักทายกลับพร้อมแนะนำชื่อของทุกคนและจนมาถึงคนสุดท้ายนักร้องนำ ที่แนะนำตัวกับเธอแบบเย็นชาไร้ซึ่งรอยยิ้มหนูนาหุบยิ้มทันทีเมื่อได้สบตาคุณชายชาเย็น แต่แล้วจู่ๆเธอก็กลับยิ้มอีกครั้งทั้งใบหน้า เพราะทันทีที่เธอได้เห็นตัวจริงพร้อมกับได้ยินน้ำเสียงของเขาครั้งแรกพร้อมตั้งฉายาให้เพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม ไอเดียร์นิยายเรื่องใหม่ก็เกิดขึ้นทันทีซึ่งรอยยิ้มและแววตาของหนูนาไม่ได้รอดพ้นไปจากสายตาของปีเตอร์ได้เลย

“น่าจับมาชิมจริงๆ” เขาคิดได้ทันทีที่เห็น โดยไม่รู้ถึงเหตุผลเลยว่าการที่เธอแสดงสีหน้าและอารมณ์แบบนั้นเกิดจากอะไร เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งเขาอยากรู้จริงๆ อะไรในความคิดของเธอถึงทำให้เธอดูสดใสน่ามองมากมายขนาดนี้  ตาจ้องตากันจนไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป