บทที่ 3 ดั่งต้องมนต์

“บอกนางไปว่าเจ้ากำลังนอนไม่มีอะไร ผิดปกติ”

“ข้ากำลังหลับสบายพวกเจ้าส่งเสียงดังรบกวนข้า”

หวางปาหยางอ้าปากค้างกับเสียงใสราวกับระฆังแก้ว ชายารองอ๋องไร้พ่ายผู้นั้น ไหนใครบอกว่าอัปลักษณ์ยิ่งแล้ว เขาเลือกเอาวันแต่งเพราะทุกคนมัวยุ่งๆ จึงอาศัยโอกาสนี้แต่ที่เห็นห้องหับของนางล้วนไม่น่าดู เก่าคร่ำคร่านี่หรือห้องของชายารอง

“เจ้าค่ะ พวกเจ้าได้ยินไหม”

องครักษ์ประสานมือจากไป เจิ้งอ้ายฉิงผลักอกกว้างดิ้นรน ให้หลุดพ้นจากอ้อมกอด แต่กับถูกรัดไว้แน่น

“ชายารอง 555เหมาะสมยิ่งแล้ว”

สะบัดมือเพียงนิด แสงสว่างจากเปลวเทียนสว่างขึ้นที่ข้างแท่นนอน หวางปาหยางอ้าปากค้างใบหน้านวลใยงดงามใต้ร่างของเขา แสงเทียนส่องกระทบมองเห็นชัดเจน อ้ายฉิงรีบยกมือปิดบังใบหน้าซีกขวาด้วยความตกใจลืมไปว่าจะต้องปิดบังใบหน้าซีกซ้าย

“เทพีสวรรค์หรือไร”

เอาแต่ตกตะลึงอ้ายฉิงสะบัดตัวลุกขึ้น คว้ากระบี่ข้างกายมากำไปข้างหนึ่งมืออีกข้างปิดบังใบหน้าไว้

“ไปเสีย ท่านไปเสียไม่ว่าจะเป็นใครท่านจะโชคร้ายเมื่อพบหน้าข้าอาจจะไม่อาจรักษาชีวิตไว้ด้วยซ้ำ”

ไม่ได้กลัวแค่เพียงมือสั่นที่กำกระบี่ แต่ด้วยเหมือนมีมนตร์ขลังกับใบหน้างามที่เขาจ้องมองในครั้งแรกอีกทั้งร่างอ้อนแอ้นของอ้ายฉิงที่ทำเอาเขากลืนน้ำลายด้วยความรู้สึกเสียดายอย่างยิ่งสิ่งไหนกันเวทมนตร์หรือว่าใบหน้ากับร่างอรชรนั้น ที่ทำให้เขายอมทำตามคำพูดของนางง่ายดาย ค่อยๆถอยออกจากห้องไปแต่สายตายังจับจ้องใบหน้างามไม่ลดละ อ้ายฉิงตวัดกระบี่ตัดไส้เทียน ความมืดปกคลุมอีกครั้งโยนกระบี่ไปตรงหน้า หวางปาหยางคว้ามันไว้ในมือแล้วรีบทะยานออกจากห้องไปทั้งๆ ที่ ไม่อยากจากไปแม้เพียงน้อยนางงดงามดังเทพีสวรรค์ หญิงงามอันดับหนึ่งยังน้อยไปหากจะเปรียบกับนาง

“ค้น ค้นให้ทั่ว”

เสียงดังโวยวายด้านนอกอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นเสียงของ หวงเฉิงอู๋ ที่นำคนกลับมาอีกครั้ง

“เจียวหยูเปิดห้องของชายารอง”

ด้านในเงียบงันเจียวหยูลังเล

“เปิดประตู”

บานประตูเปิดออกช้าๆ ใบหน้าอัปลักษณ์ต้องแสงเทียนในมือ องครักษ์ต่างก้มหน้าไม่มีใครกล้ามอง ดวงหน้าอัปลักษณ์เกินทน ก่อนหน้านั้นเจิ้งอ้ายฉิง รีบลนลานคว้าแผ่นหนังใต้หมอนมาปิดบังใบหน้าไว้ดึงผ้าห่มมาคลุม ร่างกายที่มีเพียงอาภรณ์บางเบา เผยให้เห็นเรือนร่างชัดเจน

“เจ้าอาจซุกซ่อนคนร้ายไว้ด้านใน ข้าจะให้คนค้นห้องเจ้า”

อ้ายฉิงยิ้ม

“เชิญท่านอ๋อง”

ผายมือเชิญ หวงเฉิงอู๋ก้าวเท้าเข้าไปรื้อค้น สิ่งของในห้องไม่เว้นแม้กระทั่งบนแท่นนอน

“พวกเจ้าแน่ใจหรือ”

“แน่ใจ ขอรับ”

“บัดซบ วิ่งมาทางนี้ แต่กลับหายตัวไปง่ายดาย”

หันมาเผชิญหน้ากับอ้ายฉิงสายตา จ้องจับผิด

“ข้า เอาผิดเจ้าไม่ได้ แต่อย่าคิดว่าข้าจะวางใจ”

อ้ายฉิงย่อกายลงอ่อนหวาน

“ท่านอ๋องค้นดูอีกรอบจึงดี หากยังไม่วางใจ”

น้ำเสียงอ่อนหวาน จนคนฟังใจอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่อป้ายหยกเนื้อดีบ่งบอกฐานะใช้สำหรับของใครบางคนที่ร่วงบนพื้น

หวงเฉิงอู๋ก้มลงเก็บ ป้ายหยกมาขึ้นมายื่นไปตรงหน้า อ้ายฉิง

“สิ่งนี้เจ้าจะอธิบายว่าอย่างไร”

มือบางคว้าป้ายหยกอย่างรวดเร็วแต่ ร่างสูงกลับไวกว่าคว้ามือดึงตัวของอ้ายฉิงกระแทกมาที่อกของเขา

“นอกจากใบหน้าอัปลักษณ์แล้ว เจ้ายังทำเรื่องปิดบังชั่วช้า เจ้ารวมหัวกับใคร”

อ้ายฉิงยิ้มหวาน

“ท่านอ๋องกลัว หรือกลัวว่าสิ่งที่ทำไว้จะเปิดเผยออกมาใช่หรือไม่”

ผลักร่างบางให้ลงไปกองกับพื้น

“กลับ”

อ้ายฉิงกำป้ายหยกไว้ในมือแน่น ไม่ยอมปล่อย ดีที่หวงเฉิงอู่คิดว่าป้ายหยกนี่เป็นของคนร้าย

"องค์หญิงสามกับองค์หญิงเก้า มาร่วมดื่มชาพระชายาเอกเชิญนายหญิงที่เรือนบุปผา"

"ข้าได้ยินแล้ว"

"นายหญิงเจียวหยูห่วงใยนายหญิงยิ่งนัก นายหญิงพอจะได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับนายหญิงชายาเอกบ้างไหม"

อ้ายฉิงยิ้มบางๆ

"ไม่ต้องกังวลบอกนางว่าข้ากำลังแต่งหน้า ไปช้าหน่อยคงไม่เป็นไร"

"ให้เจียวหยูช่วย"

"ไม่ต้อง ข้าลงมือเองจนชินแล้วเจียวหยู เจ้าเองก็คงเคยได้ยินเรื่องของข้าหากใครเกี่ยวข้องกับข้ามักจะถูกดึงดูดโชคดีไปเสียสิ้น ข้าชอบเจ้ามากไม่อยากให้เจ้าต้องโชคร้าย”

เจียวหยูยิ้มนึกสงสารอ้ายฉิง แต่งหน้าหรือ….

เรือนบุปฝาในจวนอ๋อง

"ฮะๆๆๆ แต่งหน้า อย่างนางอัปลักษณ์สิ้นดียังกล้าอ้างว่าแต่งหน้าความจริงไม่อยากพบพวกเราละสิไม่ว่า"

องค์หญิงเก้าที่วัยไล่เลี่ยกับอ้ายฉิงยิ้มหยันก่อนจะพูดอย่างดูแคลน

"น้องสาว เป็นหญิงมักจะห่วงหน้าตา สวยงามหรืออัปลักษณ์ก็ย่อมจะรักสวยรักงาม"องค์หญิงสามปรามน้องสาวร่วมบิดา

"ลืมไปเสียสิ้น ข้าพูดจาแบบนี้เกรงว่านางจะร่ายมนตร์ดำนำความโชคร้ายมาให้ข้า555น่ากลัวจริงๆ "

หลุนฟางหลินยกชาขึ้นจิบช้าๆ

"นางแต่งเข้ามาเป็นชายารองเช่นไรจึงกล้าทำตามใจ หากนางทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรฟางหลินในฐานะชายาเอกดูแลทุกข์สุขในจวนอ๋องจะลงโทษนางเอง"

องค์หญิงเก้ายิ้มสาใจ

"เจิ้งอ้ายฉิงคารวะองค์หญิงสามองค์หญิงเก้า และชายาเอก"

เสียงใสของนางฉุดความคิดขุ่นมัวให้มลายไปได้ องค์หญิงสามยิ้มอย่างเป็นมิตร

"เงยหน้าเจ้าขึ้นไม่ต้องอาย ไหนบอกว่าแต่งหน้ามาดูสินั่นงดงามเพียงใด"

พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"พี่สาวหากไม่กลัวว่ารสชาดีจะแย่ลงก็มองหน้านางเสียหน่อยแต่ข้าไม่เอาด้วยหรอก น่าเกลียดน่ากลัว หากท่านอาเฉิงอู๋อ๋องมีลูกกับนาง ลูกของนางมีใบหน้าอัปลักษณ์เหมือนแม่คงเป็นที่ขบขัน"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป