บทที่ 6 เขาเสียใจที่ไม่ได้ฉวยโอกาส
ณ ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล
เจนจิราสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างกาย จนแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว
กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ลอยจางๆ ในอากาศ และการตกแต่งภายในที่ดูขาวโพลนไปหมด ทำให้เจนจิรารู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อวานเธอเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก จนเป็นลมหมดสติไปที่ข้างถนน...
"ลูกแม่!"
เจนจิราผุดลุกขึ้นนั่งพรวดพราดพร้อมอุทานออกมาด้วยความตกใจ สองมือรีบกุมไปที่หน้าท้องของตัวเอง
ตอนที่ล้มลงไปเมื่อวาน เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปกป้องลูกในท้องเอาไว้ แต่สติก็ดับวูบไปเสียก่อน ไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถ้าลูกของเธอเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว เธอจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด!
เธอพยายามใช้มือสัมผัสเพื่อรับรู้ถึงความปลอดภัยของลูกน้อย แต่อายุครรภ์ยังน้อยเกินไป ลำพังแค่การใช้มือลูบคลำ จึงไม่สามารถสัมผัสถึงความเคลื่อนไหวใดๆ ได้เลย
เจนจิรากำลังจะเอ่ยปากเรียกหมอ แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัว ก็เห็นร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำเสียก่อน
ชัยวัฒน์กวาดสายตาคมกริบพิจารณาเธอ ในมือของเขายังถือผ้าขนหนูที่ชุบน้ำหมาดๆ เอาไว้
สายตาของเขาจับจ้องไปที่หน้าท้องของเธอ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเคลือบแคลงใจว่า
"ลูกอะไร?"
เมื่อครู่ตอนที่เขาเข้าไปชุบน้ำผ้าขนหนูในห้องน้ำ เหมือนแว่วเสียงเธอตะโกนเรียกหาลูก
"ลูก... ลูกอะไรคะ? ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร"
เจนจิราพยายามควบคุมสติทำตัวให้ดูไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
เธอคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าชัยวัฒน์จะมาอยู่ที่นี่ แถมยังมาได้ยินเข้าพอดี โชคดีที่เมื่อกี้เธอไม่ได้พูดอะไรออกไปมากกว่านั้น
"เมื่อกี้เธอตะโกนคำว่าลูกออกมา"
ชัยวัฒน์กล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
ถ้าเป็นเมื่อกี้เขาอาจจะคิดว่าตัวเองหูฝาด แต่พอเห็นท่าทีของเจนจิราแบบนี้ มันชัดเจนมากว่าผู้หญิงคนนี้กำลังปิดบังอะไรบางอย่าง
พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปี นิสัยเล็กๆ น้อยๆ เวลาเธอโกหก เขาย่อมดูออก
"คุณหูฝาดไปเองแล้วล่ะ!"
เจนจิราปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างแข็งขัน "แล้วทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้? มาหาฉันแบบนี้ไม่กลัวคนรักแรกของคุณจะหึงเอาเหรอคะ?"
เธอจงใจใช้น้ำเสียงแดกดันและวาจาเชือดเฉือน หวังจะไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปให้พ้นหน้าโดยเร็ว
แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม
ใบหน้าของชัยวัฒน์ทะมึนลงทันที เขาเหวี่ยงผ้าขนหนูทิ้งไปด้านข้าง แล้วเดินตรงเข้ามาที่ข้างเตียงของเจนจิรา มองลงมาที่เธอด้วยสายตาของผู้ที่อยู่เหนือกว่า
มือหนายื่นออกไปบีบปลายคางมนสวยของเธอไว้แน่น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า
"ฉันไม่ชอบให้เธอใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับฉัน และยิ่งไม่ชอบให้เอาเรื่องเด็กมาสร้างเรื่อง เธอไม่มีทางท้องลูกของฉันได้เด็ดขาด"
เมื่อได้ยินคำพูดที่มั่นใจขนาดนั้นว่าเธอจะไม่มีวันท้องลูกของเขา ความรู้สึกอันซับซ้อนก็ตีตื้นขึ้นมาในอกของเจนจิรา
ใจหนึ่งก็รู้สึกโล่งอก ที่ความลับเรื่องลูกยังคงถูกรักษาไว้ได้
แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกสมเพชตัวเองเหลือเกิน
ผู้ชายคนนี้ ช่างเลือดเย็นกว่าที่คิดไว้เสียอีก
เจนจิราฝืนยิ้มแล้วพูดเออออไปตามน้ำ "นั่นสิคะ ฉันจะมีลูกของคุณได้ยังไง? ในเมื่อสิทธิ์ในการเป็นแม่คนถูกคุณพรากไปกับมือเองนี่นา"
น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังและความคับแค้นใจที่ปิดไม่มิด
ย้อนกลับไปในคืนแรกที่เธอแต่งงานเข้าตระกูลอนุสรณ์ ลูกน้องของชัยวัฒน์ก็นำยาเม็ดหนึ่งมาให้เธอ
คนคนนั้นบอกว่า ชัยวัฒน์ไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัย ดังนั้นเธอจึงต้องกินยาคุมกำเนิด
ตอนนั้นเธอก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมากพออยู่แล้ว แต่มารู้ทีหลังว่ายาเม็ดนั้นมีผลทำให้เธอมีลูกยาก
ดังนั้นเมื่อเจนจิรารู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เธอจึงรู้สึกว่านี่คือของขวัญจากสวรรค์ ต่อให้ต้องหย่า เธอก็จะคลอดเด็กคนนี้ออกมาให้ได้
ถ้าเสียลูกคนนี้ไป เธอคงไม่มีโอกาสได้เป็นแม่อีกแล้วตลอดชีวิต
ความรู้สึกในใจของเจนจิราปั่นป่วนราวกับคลื่นพายุ ขอบตาเริ่มแดงระเรื่อและชื้นไปด้วยน้ำตา
ชัยวัฒน์มองดูท่าทางที่สวยสง่าแต่แฝงไว้ด้วยความดื้อรั้นของเธอ และประกายน้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ในดวงตาคู่นั้น ความเย็นชาในแววตาของเขาก็ละลายหายไปในพริบตา มือหนาเผลอคลายออกจากคางของเธอโดยไม่รู้ตัว
แต่ทว่าวาจาที่เอ่ยออกมายังคงแข็งกระด้าง "อย่ามาบีบน้ำตา ตอนบีบคางฉันไม่ได้ออกแรงขนาดนั้นสักหน่อย"
"นี่ฉันต้องขอบคุณคุณด้วยหรือเปล่าคะ?"
เจนจิราตอกกลับอย่างไม่เกรงใจ
ท่าทีพยศของเธอ ทำให้ไฟโทสะที่ไร้ที่มาลุกโชนขึ้นในใจของชัยวัฒน์
เขาขมวดคิ้วมองผู้หญิงตรงหน้า พบว่าผู้หญิงที่เคยอ่อนหวานและขี้อ้อนคนนี้ บัดนี้กลับจ้องมองเขาตอบด้วยสายตาที่เย็นชาไม่แพ้กัน
ไฟแห่งความโมโหในใจของชัยวัฒน์ยิ่งลุกโชนรุนแรงขึ้น
"ถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้ ฉันคงเสียใจมากที่เมื่อคืนอุตส่าห์เฝ้าไข้เธอทั้งคืน แทนที่จะฉวยโอกาสตอนที่คุณหมดสติลิ้มรสความสาวของคุณซะให้รู้แล้วรู้รอด"
"..."
เจนจิราเงียบไปชั่วอึดใจ
เธอคิดว่าชัยวัฒน์เพิ่งจะมาถึงห้องพักผู้ป่วย ไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะดูแลเธอมาตลอดทั้งคืน
นี่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับเลยนับตั้งแต่แต่งงานกันมา
แต่แล้วมันจะยังไงล่ะ?
ต่อให้เขาเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็เปลี่ยนความจริงที่ว่าทั้งสองกำลังจะหย่ากันไม่ได้อยู่ดี
เจนจิรากระตุกยิ้มมุมปาก "งั้นที่คุณพูดมาตอนนี้ คืออยากให้ฉันซาบซึ้งใจเหรอคะ? หรือว่าเราจะมาหาเรื่องตื่นเต้นบนเตียงคนไข้กันหน่อยไหมล่ะ?"
เธอไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางของเธอในตอนนี้ มันยั่วยวนแค่ไหน
ทั้งที่ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอาง และสวมชุดผู้ป่วยอยู่แท้ๆ แต่กลับมีความงามแบบคนป่วยที่ดูเปราะบางเหมือนพร้อมจะแตกสลาย
ชวนให้รู้สึกน่าทะนุถนอม และในขณะเดียวกันก็น่าดึงเข้ามากอดแล้วบดขยี้ให้แหลกคามือ
สายตาของชัยวัฒน์ค่อยๆ เลื่อนต่ำลง
ความคุ้นเคยตลอดหลายปีทำให้เขาสามารถจินตนาการถึงสัดส่วนโค้งเว้าภายใต้ร่มผ้าของเจนจิราได้อย่างแม่นยำ แม้เธอจะสวมเสื้อผ้าอยู่ก็ตาม
เขาลอบกลืนน้ำลาย รู้สึกลำคอแห้งผาก ต้องยอมรับเลยว่าเขาไม่เคยรู้สึกพอใจกับผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ
ชัยวัฒน์โน้มตัวลงมาหาเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการครอบครอง
ฝ่ามือที่ร้อนผ่าว นาบลงบนต้นขาของเจนจิราผ่านเนื้อผ้า
มือซุกซนลูบไล้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะแตะต้องจุดสงวน เจนจิราก็หัวเราะเบาๆ
มือเล็กที่ขาวเนียนนุ่มนิ่มของเธอ จับนิ้วมือของชัยวัฒน์เอาไว้เบาๆ นิ้วก้อยกรีดกรายเขี่ยที่กลางฝ่ามือของเขาเหมือนเป็นการหยอกเย้า
เจนจิราม้องหน้าเขาด้วยแววตาขี้เล่น "คิดจะเปิดศึก 300 ยกกับฉันที่โรงพยาบาลจริงๆ เหรอคะ? เรื่องดังในโรงพยาบาลน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าเรื่องรู้ไปถึงหูหมอหรือพยาบาล แล้วลือไปถึงหูคุณสาริณีเข้า ไม่รู้ว่าเธอจะคิดยังไงนะ?"
พอเอ่ยชื่อสาริณีขึ้นมา ก็เหมือนโดนน้ำเย็นสาดโครมใหญ่ใส่ ดับไฟราคะของชัยวัฒน์จนมอดสนิท
เขาชักมือกลับทันที จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ
"คุณนี่มันทำลายบรรยากาศเก่งจริงๆ"
"ก็พอกันแหละค่ะ" เจนจิราจ้องตอบอย่างไม่เกรงกลัว
ชัยวัฒน์ลุกออกจากเตียง บรรยากาศกดดันอันมหาศาลก็จางหายไปพร้อมกับตัวเขา
เจนจิราถอนหายใจด้วยความโล่งอก นึกว่าพอปั่นหัวชัยวัฒน์เล่นแบบนี้แล้ว เขาจะโมโหแล้วเดินหนีไป
แต่ผิดคาด เขากลับไม่ยอมไป
เธอจึงถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า "ยังไม่ไปอีกเหรอคะ หรือกะจะนอนค้างที่นี่?"
"..." คิ้วของชัยวัฒน์ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
เมื่อก่อนทำไมเขาไม่เคยรู้เลยนะ ว่าแม่สาวน้อยคนนี้จะมีวาจาเชือดเฉือนได้เจ็บแสบขนาดนี้?
"ดูท่าทางเธอจะหายดีแล้ว งั้นก็กลับบ้านกับฉัน คุณย่าอยากเจอเธอ"
"ฉัน..."
เจนจิราเริ่มลังเล
ถ้าเป็นคนอื่นอยากเจอ เธอคงปฏิเสธไปแล้ว แต่สำหรับคุณย่าเปมิกานั้นต่างออกไป
ท่านดีกับเธอมาก เปรียบเสมือนเธอเป็นหลานในไส้จริงๆ
แต่ว่า...
