บทที่ 9 ตอนที่ 9
“เธอ... ห้องน้ำอยู่ทางไหน”
เสียงทุ้มกังวานร้องถามมาจากทางด้านหลัง และทันทีที่คนถูกถามหันกลับมาเจอใบหน้าหล่อเหลาขั้นเทพของพยัคฆ์ ดวงตาสีสนิมเหล็กชวนเคลิบเคลิ้มของเขาทำเอาหล่อนแทบละลาย
“ถามไม่ได้ยินหรือยังไง”
พยัคฆ์ดุ สืบเท้าเข้ามาใกล้ พลอยขวัญใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นใบหน้าของเขาแบบใกล้ชนิด เรียกได้ว่าในระยะที่มองเห็นรูขุมขนกันเลยทีเดียว
“เอ่อ... เดินตรงไป... อยู่ทางมุมขวามือค่ะ”
พลอยขวัญตอบตะกุกตะกัก ที่หล่อนรู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องเป็น ‘พยัคฆ์’ ลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวธนาอย่างแน่นอน ก็เพราะว่าเขามีรูปร่างสูงใหญ่และใบหน้าฝรั่ง ผิวสีแทนเข้มอย่างคนละตินอเมริกา
“เธอเป็นคนใช้หรือ”
พยัคฆ์ถามขณะเดินรูดซิปกางเกงออกมาจากห้องน้ำ
“ใช่ค่ะ... แม่ขวัญเพิ่งเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ที่นี่ค่ะ”
หญิงสาวตอบ เมื่อร่างสูงใหญ่เข้ามาใกล้ พลอยขวัญจึงเห็นชัดๆ ว่าพยัคฆ์หล่อมาก และในจังหวะที่กำลังจะเดินออกมา เสียงโทรศัพท์มือถือของพยัคฆ์ก็ดังขึ้น ทำให้เขาจำต้องนั่งลงบนเก้าอี้ในครัว ตรงข้ามกับโต๊ะที่พลอยขวัญกำลังจัดเตรียมเครื่องดื่มตามที่ป้าชื่นสั่งเอาไว้
“คุณเองหรือ... คิดถึงผมละสิ”
พยัคฆ์ทักทายคนที่อยู่ต้นสาย หยอดคำหวานไปเรื่อย แต่ใช้เวลาพูดคุยไม่นาน จากนั้นก็กดวางสายด้วยประโยคที่ทำให้พลอยขวัญรู้ว่าเขาต้องเจ้าชู้มากถึงขั้นเป็นเสือผู้หญิง
“ครับ... แล้วเจอกัน... คิดถึงนะ... จุ๊บๆ”
พลอยขวัญเผลอจ้องใบหน้าคมคร้ามของพยัคฆ์ด้วยความลืมตัว เป็นจังหวะเดียวกับที่คนถูกมองเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือพอดี
ดวงตาของทั้งคู่ประสานเข้าด้วยกันอย่างจัง พลอยขวัญยอมรับหัวใจของหล่อนกำลังละลาย พยัคฆ์เป็นผู้ชายที่มากไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ เซ็กส์แอพพีลของเขาแผ่ออร่ามหาศาล ทำให้หล่อนรู้สึกร้อนผ่าววูบวาบ เลือดในกายฉีดแรงราวจะเดือดปุดๆ ขึ้นมาได้
ความร้อนแรงของผู้ชายคนนี้แผ่รังสีหื่นออกมาทางแววตาดูลึกลับน่าค้นหา ใครจะเชื่อว่าเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา... ก็ทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า เกิดอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวราวจะเป็นไข้ เพียงแค่เขายิ้มให้ ก่อนจะเดินออกไปจากครัว
ในเวลาต่อมา ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน งานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของพยัคฆ์ได้เริ่มขึ้นแล้ว
“เริ่มเสริฟอาหารได้แล้วจ้ะ”
ป้าชื่นสั่งคนรับใช้ เมื่อเห็นว่าทุกคนนั่งพร้อมเพรียง แยกเป็นโต๊ะผู้ใหญ่และโต๊ะของบรรดาเพื่อนสนิทพยัคฆ์
“ค่ะ... ”
คนางค์พยักหน้านอบน้อมรับคำสั่ง รีบนำอาหารมาเสริฟลงบนโต๊ะใหญ่ที่แลเห็นเจ้าสัวธนานั่งอยู่กับภรรยาและลูกๆ ส่วนพยัคฆ์แยกไปทักทายเพื่อนๆ อีกโต๊ะ
เพื่อนๆ ของพยัคฆ์มาด้วยกันทั้งหมดหกคน พยัคฆ์พาเพื่อนๆ เดินเข้ามาทักทายทำความรู้จักกับครอบครัว จากนั้นก็แยกย้ายออกไปนั่งดื่มกินกันอีกโต๊ะที่เตรียมเอาไว้
ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่กับเพื่อนๆ โทรศัพท์มือถือของพยัคฆ์มีเสียงเรียกเข้ามาหลายครั้ง ทำให้เขาต้องคว้าโทรศัพท์แล้วเดินหลบออกมาคุยที่เก้าอี้ด้านหลังสวน
“ไอ้เสือมันเนื้อหอม... สงสัยกิ๊กโทรมา”
เพื่อนคนหนึ่งของพยัคฆ์เอ่ยแซว เรียกเสียงฮาดังลั่น
“ก็มันหล่อขั้นเทพขนาดนี้... มีสาวคนไหนบ้างวะที่ไม่อยากกินไอ้เสือ”
“ใช่ๆ... เมื่อก่อนเพื่อนๆ ขนานนามไอ้เสือว่ายังไงรู้ไหมวะ”
“ว่า... ?”
เพื่อนอีกคนถาม
“เพื่อนๆ ตั้งฉายาให้ไอ้เสือว่า... ‘รูปหล่อ... พ่อรวย... แถมยัง - - - ใหญ่’ อิอิ”
“อะไรของมึงวะ”
เสียงหัวเราะดังลั่น แต่ก็มีคนแทรกขึ้นมาเพราะคิดตามไม่ทัน
“รูปหล่อ พ่อรวย กล้วยใหญ่... มั้ง คริคริ”
เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาอีก คราวนี้ทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วว่าอะไรใหญ่
ช่างน่าแปลกที่บรรดาเพื่อนแต่ละคนของพยัคฆ์ล้วนทะลึ่งและหื่นสุดๆ แต่ก็เป็นธรรมดาของพวกผู้ชาย เพราะว่าเวลาอยู่ในวงเหล้าก็มักจะหนีไม่พ้นเรื่องพรรค์นี้
เสียงเม้าท์มอยสนุกปากลอยตามหลังขณะพยัคฆ์เดินออกมา เขาใช้เวลาพูดคุยโทรศัพท์พักใหญ่ๆ และในตอนที่กำลังจะเดินกลับมาที่โต๊ะก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
“ว้าย... ”
พลอยขวัญอุทานด้วยความตกใจ ร่างบอบบางเซถลาเกือบล้มพับลงกับพื้น
หญิงสาวมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ท่อนแขนกำยำของคนที่หล่อนเดินชนเข้าอย่างจัง เอื้อมออกมาโอบเอวเอาไว้ได้ทัน
“คุณพยัคฆ์”
พลอยขวัญอุทานด้วยความตกใจ ด้วยรู้ว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ซุ่มซ่าม เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเพราะมัวเพลินชมความงดงามของโมกสีขาวบานสะพรั่งอยู่สองข้างทางเดินจนไม่ทันระมัดระวังว่าอาจจะมีคนเดินสวนทางมา
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ถาม
“ไม่เป็นไรคะ... ขอโทษนะคะ”
