บทที่ 2 บทที่ 2

โอ้... พระเจ้า นี่เขาเป็นมนุษย์เดินดิน หรือเทพบุตรบนฟ้ากันเนี่ย หัวสมองน้อยๆ เบลอไปหมด ฝัน… หล่อนต้องกำลังฝันอยู่แน่ ผู้ชายอะไรหล่อเป็นบ้า

“นี่เธอ จะยืนมองหน้าฉันไปอีกนานแค่ไหนไม่ทราบ”

เสียงทุ้มต่ำ แต่ทว่าดุดันดังขึ้น ทำให้ดลลดารู้สึกตัว สาวน้อยมองไปยังประตูที่เปิดออกตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ป้ายบอกชั้นบอกว่าเป็นชั้นที่ 25 แล้ว ดลลดาหันไปมองที่ร่างสูงอีกครั้ง ก่อนกะพริบตาปริบๆ

อย่าบอกนะว่า เทพบุตรคนนี้คือ...

ดลลดากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ อย่างฝืดๆ

“ขอโทษค่ะ”

“จะหลีกทางให้ฉันได้รึยัง”

เสียงทุ้มเมื่อสักครู่ เริ่มเปลี่ยนเป็นกระด้าง ตามอารมณ์ของผู้พูด ดลลดาหลีกทางให้ร่างสูงใหญ่ เป็นสง่างามในชุดสูทสีดำทันที

ชวนนท์ต้องถอนหายใจไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ ที่ต้องมาพบกับแม่สาวหน้าใสนี่  แววตาดุดันปรายตามามองดล-ลดาเพียงแวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะก้าวขายาวๆ ผ่านหน้าหล่อนไป

ดลลดาเดินตามชายหนุ่มไปอย่างคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวดีนัก เมื่อชวนนท์เข้าห้องไปเรียบร้อยแล้ว อรอนงค์ที่เห็นหญิงสาวเดินมา ก็ถาม

“ดรีมทำไมวันนี้มาสายล่ะจ๊ะ”

แต่คำถามของอรอนงค์กลับเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของดลลดาไป สาวน้อยไม่ได้ยินที่อรอนงค์พูด ทำให้อรอนงค์ต้องเรียกดลลดาซ้ำอีกครั้ง

“ดรีม  ดรีมได้ยินที่พี่พูดรึเปล่า”  ด้วยเสียงของอรอนงค์ที่ดังขึ้นกว่าเดิม ทำให้ดลลดาสะดุ้งนิดๆ

“คะ พี่อรว่าอะไรนะคะ”

“พี่ถามว่าทำไมวันนี้มาสายล่ะจ๊ะ เป็นอะไรไปไม่สบายรึเปล่า”

“เอ่อ... เปล่าค่ะเปล่าดรีมไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เพียงแต่วันนี้รถติดก็เลยมาสายค่ะ สงสัยพรุ่งนี้ต้องเผื่อเวลามากกว่านี้ จะได้ไม่สาย”

“ดีจ้ะ คุณฌอห์น เอ่อ... คุณชวนนท์ไม่ชอบคนมาสาย เมื่อกี้พี่เห็นเราเดินตามหลังคุณฌอห์นมา ขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันมาเหรอจ๊ะ”

“ใช่ค่ะ ดรีมวิ่งเข้าบริษัทมาเจอเขาในลิฟต์อยู่ก่อนแล้ว”

ดลลดาไม่ได้เล่าเหตุการณ์หลังจากนั้นให้อรอนงค์ฟัง ยังไม่ทันที่สองสาวจะสนทนากันต่อ เสียงอินเตอร์คอมก็ดังขึ้น

“คุณอร เดี๋ยวคุณเข้ามาหาผม พร้อมเด็กฝึกงานคนใหม่ด้วยนะ”

เสียงทุ้มๆ ของชวนนท์ดังขึ้น

“ค่ะเจ้านาย”  อรอนงค์ตอบรับ แล้วหันมาบอกให้ดลลดาทราบ ก่อนจะพากันเข้าไปหาชวนนท์  อรอนงค์เคาะประตูห้องที่มีป้ายชื่อบอกไว้ว่าเป็นห้องท่านประธาน และได้ยินเสียงทุ้มตอบอนุญาตให้เข้าไป

“เชิญ”

ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังอย่างดีสีน้ำตาล หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เขานั่งพิงพนักเก้าอี้สบายๆ สายตาคมกริบดุจมีดโกนกำลังจ้องมาที่สองสาว

“คุณอร แนะนำเด็กฝึกงานใหม่หน่อยสิ”

ริมฝีปากบางเฉียบ ได้รูปสวยของเขาเรียกร้องให้ดลลดามองตาม

“เจ้านายคะ นี่คือ ดลลดา ฤทธาภิวัฒน์ค่ะ ดรีมเขาจะมาช่อยอร 3 เดือนค่ะ”

“อืม... แล้วคุณได้บอกเขาเกี่ยวกับกฎระเบียบของพนักงานบ้างไหม อยู่ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นเด็กฝึกงานหรือพนักงานชั่วคราว ก็ต้องปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดเหมือนกันทุกคน”

น้ำเสียงที่เข้มงวดนั้น ทำให้อรอนงค์ก้มหน้าลงเล็กน้อย ดลลดาชำเลืองมองที่อรอนงค์ แอบเห็นพี่อรของหล่อนกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนตอบ

“อรยังไม่ได้บอกค่ะ ก็ไม่คิดว่าวันนี้น้องเขาจะมาสาย”

“งั้นวันนี้คุณเอากฎระเบียบพนักงานของบริษัทมาให้เขาอ่านด้วย”

“ค่ะเจ้านาย”

“คุณออกไปได้แล้ว และเตรียมรายงานการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องของมิสเตอร์ราฟให้ผมด้วย แล้วผมจะเรียกอีกที ส่วนเธอ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”

ชวนนท์บอกกับอรอนงค์ ก่อนจะหันมาบอกดลลดาให้อยู่ต่อ อรอนงค์ตอบรับเบาๆ และเดินออกไป

เมื่อต้องอยู่กับชายหนุ่มสองต่อสอง ใจของดลลดาก็เริ่มเต้นผิดปกติ

“ทำไมถึงมาสาย”

สาวน้อยปรายตามองสบดวงตาคมกริบของชายหนุ่ม

“รถติดค่ะ”

คำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความของเธอ ทำให้คิ้วเข้มๆ ของชวนนท์เลิกขึ้น

“บ้านเธออยู่ไหน กรุงเทพฯ รึเปล่า”

“ใช่ค่ะ”

“แล้วทำไมเธอถึงไม่เผื่อเวลาให้มากกว่านี้ ในเมื่อเธอก็ต้องรู้ว่ากรุงเทพฯ รถติดขนาดไหน” ชวนนท์เสียงดังขึ้นกว่าเดิม

“ดรีมขอโทษค่ะ คราวหลังดรีมจะเผื่อเวลาให้มากกว่านี้ค่ะ” ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อกล่าวขอโทษเขาเบาๆ

ชวนนท์ ไล่สายตาคมตั้งแต่เส้นผมสีดำเป็นเงางามของเธอ ที่ตอนนี้ถูกรวบไว้เป็นหางม้าอยู่ด้านหลังศีรษะสวยได้รูป ดวงหน้ารูปหัวใจหวานล้ำ แก้มเนียนใสที่ไม่ได้ถูกแต่งเติม ดวงตากลมโต ที่ซ่อนอยู่ใต้แพขนตางอนยาว จมูกโด่งเล็กได้รูป รั้นขึ้นนิดๆ จนมาถึงริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อ ชวนนท์ไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองแอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอได้ลำบากขึ้นกว่าเดิม ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่มาหยุดอยู่หน้าหญิงสาว สายตาคมมองกราดไปที่ชุดนักศึกษาที่ดลลดาสวมอยู่

“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอไม่จำเป็นต้องสวมชุดนักศึกษามาทำงาน เพราะฉันไม่ชอบเห็นเด็กนักเรียนที่ไม่มีประสบการณ์มาทำงานในบริษัทของฉัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น สาวน้อยจึงเงยหน้าขึ้นสบตาคมของเขา และได้พบกับสีหน้าบึ้งๆ ของชายหนุ่ม เหมือนเขาไม่พอใจที่เธอมายืนอยู่ตรงนี้ แต่ทำไมล่ะ ในเมื่อเขาเป็นคนเรียกเธอเข้ามาเองนี่นา

“แต่ถ้าบริษัทไม่ให้โอกาสเด็กจบใหม่เข้ามาทำงาน เด็กที่จบใหม่ก็จะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเลยนะคะ แล้วอย่างนี้จะเอาประสบการณ์มาจากไหน”  ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงกล้าเอ่ยปากออกไป ทั้งที่ไม่ได้คิดจะพูดเลยสักนิด

ดลลดาสังเกตเห็นมุมปากของเขากระตุกขึ้นเล็กน้อย สีหน้าเหมือนจะเยาะหยันในคำพูดของหล่อน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป