บทที่ 4 - ความสิ้นหวัง

เอลล่า

มือฉันสั่นขณะกดเบอร์โทรศัพท์ของเคท ฉันเคยโกรธขนาดนี้ไหมนะ ถ้าเคย ตอนนี้ฉันจำไม่ได้เลยจริงๆ

“ฮัลโหล?” เคทรับสายแทบทันที ด้วยน้ำเสียงหวานเลี่ยนที่บ่งบอกความจอมปลอมอย่างชัดเจน

“เคท?” ฉันถามห้วนๆ “เธออยู่กับไมค์รึเปล่าตอนนี้?”

ปลายสายเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนที่เธอจะตอบเสียงอ่อย “อะไรนะ? เปล่าซะหน่อย”

“เลิกเล่นละครได้แล้วเคท คิดว่าฉันไม่รู้เรื่องทุเรศๆ ของเธอรึไง” ฉันตวาด “ฉันไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้นนะ”

“เอลล่า ฟังนะ–” เธอเริ่มพูด เห็นได้ชัดว่าเตรียมจะแก้ตัวอะไรบางอย่าง

“ไม่ ฉันไม่สนเรื่องชู้สาวเล็กๆ น้อยๆ ของเธออีกแล้ว – แต่ฉันต้องคุยกับเขาเดี๋ยวนี้” ฉันประกาศกร้าว

เงียบไปอีกครั้ง แล้วน้ำเสียงของเคทก็ทิ้งความไร้เดียงสา “เธอไม่สน?” เธอทวนคำ ฟังดูตกใจจริงๆ “เธอรู้ไหมว่าฉันท้องแล้ว?”

ฉันไม่ได้เตรียมใจรับข่าวชิ้นนี้เลย ฉันกำหมัดแน่น รู้สึกโกรธจัดจนคิดว่าอาจจะบีบโทรศัพท์แตกคามือ “แล้วไง คิดว่านั่นเป็นชัยชนะรึไงยะ?” ฉันพูดกระแทกเสียง

“เขารู้รึเปล่าว่าเธอท้อง?” ฉันถามเสียงเข้ม “เพราะผู้ชายที่กลัวความรับผิดชอบขนาดวางยาฉันมาหลายปีน่ะ คงทำกับใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ”

“เอ่อ ไม่ แต่เขารักฉัน เขาไม่มีวัน–” เธอพยายามอธิบาย

“เขาก็เคยรักฉันเหมือนกัน” ฉันตัดบท “อย่างน้อยเขาก็พูดแบบนั้น น่าทึ่งนะที่เขามีเสน่ห์ได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเลวชาติขนาดไหน เธอคิดว่าเขาจะเลี้ยงดูเธอกับลูกได้ยังไง ในเมื่อเขายังไม่มีงานทำเลย”

“เขามีงานทำสิ!” เธอเถียง “เขาแค่ไม่ได้บอกเธอเพราะไม่อยากให้เธอมาสูบเลือดสูบเนื้อเขา เขาเป็นโบรกเกอร์หุ้น”

“โอ้ เคท” ฉันถอนหายใจ “เคทผู้น่าสงสาร โดนหลอกง่าย โง่เง่าจริงๆ เขาเป็นโบรกเกอร์หุ้นพอๆ กับที่ฉันเป็นแม่มดนั่นแหละ”

“อย่ามาพูดกับฉันแบบนี้นะ! เขามีเงิน เขาเปย์ฉันตลอดเวลา!” เธอยืนกราน

“ด้วยบัตรเครดิตปลอมที่เขาเอาชื่อฉันไปทำน่ะสิ!” ฉันตะโกน สติแตกโดยสิ้นเชิง

“อะไรนะ?” เธอร้องเสียงหลง

“ใช่แล้วล่ะ ฉันเพิ่งรู้เรื่อง เขาทำให้ฉันล้มละลายหมดตัว ฉันกำลังจะแจ้งตำรวจ และถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะรีบเช็คเครดิตของตัวเองด่วนเลย เพราะฉันพนันได้เลยว่าเธอคือรายต่อไป” ฉันตวาดกลับ

“ไม่” เธอพูดซ้ำเสียงแผ่ว “เธอเข้าใจผิด มันไม่เหมือนกันสำหรับฉัน”

เสียงฉันเริ่มสั่นเครือด้วยอารมณ์ แต่ฉันก็อดไม่ได้ “และเอาจริงๆ นะเคท ฉันไม่สนหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ แต่ถ้าเธอท้องจริงๆ ลูกของเธอก็สมควรได้รับการเลี้ยงดูที่ดีกว่าการต้องไปโตในสถานสงเคราะห์คนไร้บ้าน และนั่นแหละคือที่ที่ไมค์จะพาเธอไปอยู่”

ฉันวางสายก่อนที่จะเริ่มร้องไห้ ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ตอบ ทำไมฉันถึงหลงเชื่อคำโกหกของเขาเรื่องหางานทำมาตั้งนานนะ เขาบดขยี้ฉันทีละน้อย ทีละน้อย ตลอดเวลาที่แสร้งทำเป็นดีนักหนา และฉันก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น

ไม่มีวันอีกแล้ว ฉันตัดสินใจ ฉันจะไม่มีวันยอมให้ตัวเองโดนหลอกแบบนั้นอีก

ฉันยังอยากจะแก้แค้นไมค์อยู่ แต่ก่อนอื่นฉันต้องพยายามกอบกู้สิ่งที่เหลืออยู่ในชีวิตของฉัน ฉันต้องไปแจ้งตำรวจ และดูว่าฉันจะแก้ไขปัญหาทางการเงินเหล่านี้ได้ไหม… ฉันมีลูกไม่ได้ถ้าฉันล้มละลาย และฉันก็ได้แต่ภาวนาให้ตำรวจช่วย


“ผมเสียใจมากครับคุณเรน่า แต่ถ้าอดีตคู่ของคุณหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว เราก็ทำอะไรมากไม่ได้” นายตำรวจแจ้งข่าวนี้กับฉันอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ราวกับกำลังจะเหยียบมดสักตัวให้ตายคาส้นรองเท้าบู๊ต “ผมจะให้ใบแจ้งความไปยื่นกับบริษัทบัตรเครดิต แต่นั่นคือความช่วยเหลือมากที่สุดที่คุณจะได้รับจากเราแล้วครับ”

ความโกรธมันพุ่งปรี๊ดขึ้นมาจนจุกอก ฉันรับรองได้เลยว่าเขาคงไม่จัดการเรื่องของฉันแบบไม่ใส่ใจหรือไม่ให้เกียรติกันขนาดนี้ถ้าฉันไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กจนๆ คนหนึ่ง ถ้าฉันเป็นคนรวยอย่างโดมินิก ซินแคลร์ เขาคงจะประจบประแจงแทบเท้าฉัน เสนอตัวทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ปัญหาให้ฉัน ฉันรีบเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาจากสถานีก่อนที่จะคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้วเผลออาละวาดใส่ผู้ชายคนนั้น จากนั้นก็รีบโทรหาบริษัทบัตรเครดิตทันที

ทีละบริษัทๆ พวกเขาก็บดขยี้ความหวังของฉัน บอกฉันอย่างชัดเจนว่าถ้ายังจับคนร้ายในคดีของฉันไม่ได้ ฉันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

พอวางสายสุดท้าย ฉันรู้สึกเหมือนแผ่นดินกำลังถล่มลงใต้ฝ่าเท้า มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไงนะ ฉันไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ ไม่มีใครจ้างฉันถ้าไม่มีจดหมายแนะนำจากนายจ้างคนก่อน นั่นหมายความว่าฉันจะไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าหรือหาอาหารประทังชีวิตได้ ปกติเวลาแบบนี้ฉันอาจจะหันไปพึ่งคอร่า แต่ฉันไม่อยากเอาเรื่องนี้ไปเป็นภาระให้เธอ ในเมื่อเธอก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

พรุ่งนี้ฉันจะรู้ผลเสียทีว่าฉันท้องหรือไม่ท้อง และจนถึงตอนนี้ ความรู้สึกแปลกๆ ที่ฉันประสบมาสองสามวันมานี้มันเป็นทั้งสิ่งที่ปลอบประโลมและเป็นแหล่งของความหวัง ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง มันเหมือนกับว่าจู่ๆ ฉันก็เปลี่ยนไป – ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ฉันก็มีความรู้สึกรุนแรงอยู่ข้างในว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมเหมือนเมื่อสัปดาห์ก่อนอีกต่อไปแล้ว

ฉันคิดว่ามันเป็นสัญญาณว่าการผสมเทียมสำเร็จผล แต่ตอนนี้ฉันกลับภาวนาให้มันเป็นแค่จินตนาการที่เตลิดเปิดเปิงของฉันเอง

ตอนแรกฉันพยายามเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง เปิดทีวีแล้วก็ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นโดมินิก ซินแคลร์ ออกข่าว พูดถึงโครงการดีๆ ที่เขาริเริ่มเพื่อชุมชน “เมื่องานของเราเสร็จสิ้น บ้านเด็กมูนวัลเลย์จะเป็นสถานที่แห่งความรักและชุมชน ที่มุ่งมั่นจะหาบ้านที่ดีที่สุดให้กับเด็กทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ โครงการริเริ่มของเราไม่เพียงแต่จะทำให้มั่นใจว่าเด็กที่อาศัยถาวรในบ้านจะมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด แต่ยังมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องกับเด็กที่ไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเติบโตอย่างดีในบ้านใหม่”

นี่สินะ พ่อคนใจบุญสุนทาน ฉันคิดอย่างขมขื่น ทำเป็นมองไม่เห็นชีวิตคนที่เขาทำลายอย่างเห็นแก่ตัว ขณะเดียวกันก็เสแสร้งทำเป็นมิตรกับผู้ด้อยโอกาส เมื่อสัปดาห์ก่อนฉันอาจจะซาบซึ้งกับการออกข่าวแบบนี้ ฉันโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนกับที่เขากำลังพูดถึง และฉันรู้ดีว่าสภาพมันเลวร้ายได้แค่ไหน แต่ตอนนี้ ฉันไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความหน้าไหว้หลังหลอกของเขา คอร่าก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน เธอไม่ได้ทำอะไรผิด – แล้วความเมตตาของเขาที่มีต่อเธออยู่ไหนล่ะ เห็นได้ชัดว่ามันมีไว้สำหรับกล้องทีวีเท่านั้น น่าเสียดายนะ เขาดูน่าเชื่อถือมาก… แต่ก็นั่นแหละ ไมค์ก็เคยเป็นแบบนั้นเหมือนกัน

แน่นอนว่าไมค์ไม่เคยหล่อเท่าโดมินิก ซินแคลร์ และเขาก็ไม่เคยมีเสน่ห์ดึงดูดหรือบุคลิกที่น่าเกรงขามเท่า ฉันไม่รู้ว่าเคยเจอใครเหมือนเขาหรือเปล่า แม้แต่ตอนที่เขาปฏิเสธที่จะช่วยฉัน ดุด่าฉัน และสั่งให้โยนฉันออกมา ส่วนหนึ่งในใจฉันก็ยังคงหลงใหลในหน้าตาหล่อเหลาและแรงดึงดูดอันบริสุทธิ์ของเขา

ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านแล้วปิดทีวี ฉันเป็นบ้าอะไรไปแล้วเนี่ย ผู้ชายคนนั้นเป็นมหาเศรษฐีใจดำ แต่ฉันก็ยังมานั่งเพ้อฝันถึงเขาเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสา

สุดท้ายฉันก็เข้านอนแต่หัวค่ำ พยายามจะไม่คิดถึงวันพรุ่งนี้ แน่นอนว่าฉันก็ยังนอนตาค้างจนดึกดื่น – ฉันรู้ดีว่าการเติบโตมาเป็นเด็กกำพร้ามันเป็นยังไง และฉันไม่สามารถทนเห็นการนำเด็กคนหนึ่งมาสู่โลกนี้เพียงเพื่อทอดทิ้งเขาให้เผชิญกับชีวิตที่มืดมนแบบนั้นได้ ยิ่งชีวิตของฉันพังทลายลงเท่าไหร่ ทางเลือกของฉันก็ยิ่งชัดเจนและจำกัดมากขึ้นเท่านั้น

ถ้าฉันท้อง... ฉันจะทำแท้งเด็กคนนี้เหรอ ทั้งๆ ที่มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องการมาทั้งชีวิต!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป