บทที่ 8 กฎอาหารเย็น
“แด๊ดดี้ขา หนูอยากกินเนื้อค่ะ หนูอยากกินเนื้ออร่อย ๆ” มีอาซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของแฮร์ริสัน พลางบอกความต้องการของเธอสำหรับมื้อค่ำดี ๆ
แฮร์ริสันไม่ลังเลเลยสักวินาที “ถ้าลูกอยากกินเนื้อ สุดที่รัก ก็แค่ให้หม่ามี้หรือคนในบ้านเตรียมให้สิ มันไม่ใช่ปัญหาเลย”
มีอาเบะปากน้อย ๆ และทำหน้าหวาดกลัว พลางเหลือบมองไปทางแมนดี้
ในชั่วขณะนั้น เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับสื่อสารทุกอย่างออกมาได้
“ไม่เป็นไรค่ะแด๊ดดี้ หนูไม่กินเนื้อก็ได้ค่ะ หนูไม่อดตายหรอก” เธอพูดเสียงแผ่ว
แฮร์ริสันเข้าใจในทันที เขาเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปยังแมนดี้
“แมนดี้ นี่คุณไม่ให้ลิลลี่กินเนื้อเหรอ ฟรอสต์อินดัสตรีส์จะล้มละลายวันพรุ่งนี้หรือไง เราไม่มีปัญญาหาอาหารดี ๆ ให้ลูกสาวผมกินแล้วเหรอ”
แมนดี้ตัวแข็งทื่อโดยสัญชาตญาณเมื่อได้ยินคำพูดของแฮร์ริสัน
เธอรีบอธิบาย “แฮร์ริสันคะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันแค่เป็นห่วงสุขภาพของลิลลี่ค่ะ แกยังร่างกายอ่อนแออยู่เลย การกินเนื้อตอนเย็นอาจจะส่งผลต่อระบบย่อยอาหารของแกได้ ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะทำยังไงคะ อีกอย่าง ฉันก็แนะนำข้าวต้มโอ๊ตมีลไปแล้ว มันดีต่อกระเพาะของแกนะคะ”
มีอาเบะปากอีกครั้งและปฏิเสธอย่างแข็งขัน “หนูไม่อยากกินข้าวต้มโอ๊ตมีลค่ะ คุณหมอบอกว่าหนูต้องกินโปรตีนเยอะ ๆ ถึงจะตัวสูง!”
แฮร์ริสันไม่ค่อยปฏิเสธคำขอของลูกสาว โดยเฉพาะคำขอที่สมเหตุสมผลเช่นนี้
สีหน้าของเขาขรึมลง “นาน ๆ ทีลิลลี่จะอยากอาหาร ถ้าแกอยากกินเนื้อ ก็ให้แกกินไปเถอะ แค่เล็กน้อยไม่น่าจะทำให้เกิดปัญหาอะไร”
เขาเสริมว่า “แน่นอน ถ้าคุณไม่อยากเตรียมให้เอง ก็ให้คนในบ้านทำ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธแก”
แฮร์ริสันอุ้มมีอาเดินผ่านแมนดี้และมุ่งหน้าลงไปชั้นล่าง
แมนดี้เดินตามหลังพวกเขาไปอย่างเดือดดาล โกรธจนแทบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เป็นไปได้อย่างไรที่แค่ไปโรงพยาบาลครั้งเดียว ลิลลี่ก็ดูเหมือนกลายเป็นคนละคนไปเลย สมกับเป็นลูกสาวของเอเลน่า นังแพศยาคนนั้นจริง ๆ หาเรื่องมาทำให้ชีวิตเธอตกต่ำได้ตลอด
ตามคำสั่งของแฮร์ริสัน ไม่นานบนโต๊ะอาหารก็เต็มไปด้วยเมนูเนื้อน่าอร่อยหลายอย่างที่ปรุงอย่างพิถีพิถันและน่ารับประทาน
แฮร์ริสันยังคงอยู่ในห้องทำงานชั้นบนเพื่อจัดการเอกสาร ทันทีที่อาหารถูกนำมาเสิร์ฟ ความหิวของมีอาก็รุนแรงขึ้น อาหารบนเครื่องบินรสชาติแย่มาก และหลังจากลงจอด เธอก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงกับเอเลน่าระหว่างการผ่าตัด ถึงตอนนี้ท้องของเธอก็ว่างเปล่าไปหมดแล้ว
การใช้ชีวิตอยู่กับเอเลน่าที่มักจะยุ่งอยู่กับงานแพทย์เสมอ ทำให้เวลากินอาหารของพวกเขามักจะไม่แน่นอน เด็ก ๆ คุ้นเคยกับการกินเมื่อมีอาหาร หลังจากที่ตักแบ่งส่วนของแม่ไว้ให้แล้ว
ด้วยความหิวโหย มีอาจึงไม่คิดอะไรมาก เธอเดินเตาะแตะไปที่โต๊ะอาหาร หยิบส้อมขึ้นมา และเอื้อมไปจิ้มสเต๊กชิ้นหนึ่ง
ก่อนที่เนื้อจะเข้าปากเธอ แมนดี้ก็เห็นเข้าพอดี เธอโกรธจัด ปรี่เข้ามาตบมือของมีอาอย่างไม่ลังเล
ส้อมหลุดจากมือของมีอา และชิ้นสเต๊กก็ร่วงลงบนพื้น
ถึงกระนั้น แมนดี้ก็ยังไม่พอใจ
เธอดุด่าอย่างเกรี้ยวกราด “ลิลลี่! นี่แกกำลังทำอะไรอยู่ ลืมกฎของบ้านฟรอสต์ไปแล้วหรือไง พ่อของแกยังไม่ลงมาที่โต๊ะเลย แต่แกกลับเริ่มกินก่อนแล้ว!”
สีหน้าของแมนดี้ขณะตำหนิมีอานั้นดุร้าย แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังราวกับอยากจะทำลายเด็กคนนี้ให้สิ้นซาก
ตอนนี้มีอาแน่ใจอย่างที่สุดแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอเลยว่าแมนดี้ไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดของลิลลี่
เพราะไม่มีแม่คนไหนที่จะมองลูกตัวเองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้
แม่ของเธอเอง เอเลน่า ไม่เคยแม้แต่จะมองเธอแบบนั้นสักครั้งเดียว
คนรับใช้ในบ้านยืนเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ระหว่างที่แมนดี้กำลังอาละวาด ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง
ภาพเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในคฤหาสน์หลังนี้ แมนดี้เป็นแม่ของลิลลี่และอาจเป็นภรรยาในอนาคตของแฮร์ริสัน—คุณผู้หญิงคนต่อไปของบ้าน คนรับใช้ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับวิธีการของเธอ
ถึงกระนั้น การที่แมนดี้ปฏิบัติต่อลิลลี่อย่างรุนแรงก็ทำให้แม้แต่คนรับใช้รู้สึกอึดอัดใจในบางครั้ง
แมนดี้คาดว่าหลังจากที่เธอดุไปแล้ว มีอาจะก้มหน้าขอโทษอย่างว่าง่ายเหมือนที่ลิลลี่ทำเสมอ แต่เธอคิดผิด
เด็กที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่ลิลลี่ และเธอก็จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
เมื่อแมนดี้ดุจบ เสียงร้องไห้แหลมเล็กของมีอาก็ดังลั่นไปทั่วทั้งคฤหาสน์ทันที
ในห้องทำงาน แฮร์ริสันขมวดคิ้วมุ่น
แมนดี้เป็นอะไรของเธอ ดูแลเด็กคนเดียวยังทำไม่ได้เรื่อง ทำไมลิลลี่ถึงต้องร้องไห้ทุกครั้งที่แมนดี้อยู่ใกล้
เธอไม่เข้าใจหรือไงว่าสุขภาพที่เปราะบางของลิลลี่ไม่สามารถทนต่อความกระทบกระเทือนทางอารมณ์ได้
ด้วยความโกรธ แฮร์ริสันปิดแล็ปท็อปและเดินลงไปชั้นล่าง ขณะที่เขาลงมา เขาก็เห็นมีอากำลังทำหน้าเจ็บปวดและขอโทษแมนดี้
“หนูขอโทษค่ะหม่ามี้ หนูผิดเอง หนูไม่น่าหิวเลย หนูไม่น่าพยายามจะกินสเต๊กเลยค่ะ คราวหน้าหนูจะรอให้แด๊ดดี้กับหม่ามี้มาที่โต๊ะก่อนแล้วค่อยกินค่ะ”
เมื่อได้ยินมีอาขอโทษ แมนดี้ก็รู้สึกเหมือนได้รับชัยชนะ เด็กบางคนก็แค่ต้องการการสั่งสอน ไม่ใช่หรือไง
สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ แฮร์ริสันได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และใบหน้าของเขาก็เย็นชาด้วยความโกรธ
แมนดี้กล้าดียังไงมาทำกับลิลลี่แบบนี้ ต่อให้เธอเป็นลูกในไส้ของตัวเองก็ตาม
ถึงอย่างไร ลิลลี่ก็เป็นลูกสาวของแฮร์ริสัน เป็นทายาทในอนาคตของฟรอสต์อินดัสตรีส์
แฮร์ริสันเดินเข้าไปหามีอาที่กำลังร้องไห้และรวบตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขน
“สุดที่รัก บอกแด๊ดดี้สิว่าเกิดอะไรขึ้น”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของแฮร์ริสัน มีอาก็ไม่พูดอะไร เธอเกาะคอเขาไว้แน่น สะอึกสะอื้นจนน้ำตาและน้ำมูกเปียกโชกปกเสื้อของเขา
หัวใจของแฮร์ริสันเจ็บปวดแทนเธอ เขากอดเธอไว้แน่น พยายามปลอบโยน
“แมนดี้ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมคุณต้องทำให้ลิลลี่ร้องไห้ตลอดด้วย”
แฮร์ริสันสาดความโกรธใส่แมนดี้โดยตรง
แมนดี้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอรีบอธิบาย “แฮร์ริสันคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้แกรร้องไห้นะคะ ลิลลี่ไม่มีมารยาท คุณยังไม่มาที่โต๊ะเลย แต่แกก็เดินมาแล้วก็เริ่มกินสเต๊กคนเดียว ครอบครัวฟรอสต์มีกฎนะคะ เด็ก ๆ จะไม่เริ่มกินจนกว่าผู้ใหญ่จะนั่งพร้อมหน้า มันเป็นเรื่องของความเคารพนะคะ! ฉันก็แค่พยายามจะสอนมารยาทที่ถูกต้องให้แกเท่านั้นเอง”














































































































































