บทที่ 12 บทที่3.การเผชิญฟน้ากับผู้ชายใจโหด 5
“เชิญครับคุณ” แจ่มจันทร์ถูกต้อนออกไปจากห้อง เธอได้รับกระดาษชิ้นเล็กๆ แต่มูลค่าสูงเป็นสิ่งตอบแทน จนนางยิ้มไม่หุบหลังจากเห็นตัวเลขบนกระดาษชิ้นนั้น “บัวเอ๋ย...แกวาสนาดีขนาดนี้ อย่าลืมบุญคุณของฉันก็แล้วกัน” นางยิ้มปากแทบฉีก ยัดกระดาษชิ้นนั้นลงในกระเป๋าสะพาย...แล้วรีบสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วบึ่งทะยานออกไป แหม...ค่าตัวอีเด็กก้นครัวนี้เกือบๆ เท่าจำนวนหนี้ที่นางค้างไว้ หากมันเกิดถูกตาต้องใจ นางคงลอยลำ
ภายในห้องรับรองเงียบสนิท หากมีเข็มสักเล่มตกลงไป คงมีใครบางคนได้ยิน
“ชื่อใบบัวเหรอ?” ฟาบริซถามเหมือนชวนคุย
“ค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างเสียไม่ได้ เธอก้มหน้างุดๆ
“ทำอะไรเป็นบ้างล่ะ?” เสียงทุ้มๆ ยังซักต่อ
“บัวทำได้ทุกอย่างค่ะ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ล้างจาน หรือว่าทำกับข้าว” หล่อนบรรยายสัพคุณมากมายล้นเหลือ แต่เขาไม่ได้ต้องการคนใช้ เวลานี้ฟาบริซต้องการใครสักคนไปอุ่นเตียงนอนของเขาให้ระอุร้อน...และคนๆ นั้นคือแม่เด็กสาวใสซื่อคนนี้
“ทดลองงานเลยดีกว่า...จะได้รู้ว่าเธอทำอะไรเป็นบ้าง” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินลิ่วๆ ขึ้นบันไดด้วยความใจร้อน แต่เมื่อเสียงทุกอย่างรอบตัวยังเงียบฉี่เหมือนเดิม ชายหนุ่มจึงหันกลับมามองพร้อมกับเลิกคิ้ว เมื่อเจ้าหล่อนยังนั่งอยู่ที่เดิม
“ตามมาสิ...นั่งทำบื้ออะไรอยู่ตรงนั้น!” น้ำเสียงของฟาบริซเริ่มจะหงุดหงิด
“เอ่อ...คุณจะให้บัวทำอะไรคะ” หญิงสาวเปิดปากถามเสียงขาดห้วง เธอรู้สึกแปลกๆ จนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
“ฉันไม่ได้ต้องการคนรับใช้ส่วนตัว ฉันต้องการผู้หญิงที่จะมาให้ความสุขฉันได้ และเธอคือผู้หญิงคนนั้น”
ใบบัวผงะ เธอหน้าซีดและมือสั่น ผู้ชายคนนี้หมายความถึงอะไร? ใครให้ความสุขเขา... และใครคือคนๆ นั้น สมองเธอสั่งงานช้า... มันเบลอเพราะความสับสน ปนเปกับความกลัว! ที่กำลังตีกันวุ่นวายอยู่ในความคิดของตัวเอง
“อย่าทำเป็นไร้เดียงสาน่า เธอไม่รู้หรือว่าเธอมาที่นี่เพราะอะไร!” ชายหนุ่มเดินย้อนกลับมา เขายกมือขึ้นท้าวเอว พร้อมกับพูดเสียงเข้มๆ
“บัว บัวไม่รู้ คุณป้าแค่ให้บัวมารับใช้คุณ”
“ฉันไม่ชอบคนเล่นตัว และไม่สนใจความรู้สึกของเธอด้วยสิ ฉันไม่ได้ข่มขู่เพื่อให้ได้ผู้หญิงสักคนหนึ่งมาอยู่ใกล้ๆ เธอไม่มีค่ามากพอขนาดนั้นหรอกนะ”
ชายหนุ่มพูดเสียงเย็นชา เขาทอดสายตาคมกริบมองใบบัวนิ่งๆ
ใบบัวอกสั่น เธอพึ่งตะหนักถึงความโง่งมของตัวเอง...
ฟาบริชเดินย้อนกลับมาที่เดิมพร้อมกับทรุดตัวลงนั่ง
“มานั่งนี่สิ...ใบบัว” เขาสั่งเสียงดังๆ หากแต่ใบบัวกลับรู้สึกเหมือนถูกคำพิพากษา แม้ไม่อยากทำ...แต่สายตาที่มีอำนาจของเขา กลับสะกดหล่อนให้ขยับเข้าไปใกล้ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจชายหนุ่ม เพราะเขาคว้าร่างของหล่อนขึ้นไปนั่งซ้อนตัก กอดไว้เบาๆ
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันไม่กินเธอหรอก...”
“บัว...” ริมฝีปากของหล่อนสั่นระริก ด้วยความหวาดหวั่น
ร่างแข็งทื่อของใบบัว ทำให้ฟาบริชอารมณ์เสีย เขาผลักหล่อนลงจากหน้าตัก และผุดลุกขึ้นยืน ทอดสายตาขุ่นขวางมองใบบัวเหมือนกำลังตึกตรอง
“นี่ไง... ความหมายชัดเจนที่สุด และเวลานี้ฉันต้องการให้เธอรับใช้” ชายหนุ่มเดินหมุนไปหมุนมา เขาหงุดหงิดและเริ่มอารมณ์เสีย ‘ยัยคุณนายนั่นหลอกผู้หญิงคนนี้มาหรอกหรือเปล่าหว่า?’ เขาไม่ชอบถูกขัดใจและหากเป็นความจริง คงได้เห็นดีกัน
“บัว...บัว เอ่อ...” หน้าซีดลงไปทุกที เธอหายใจหอบๆ จนทรวงอกสะท้อน และคนมองแทบลุกเป็นไฟ
“ปีเตอร์! จัดการยัยคุณนายแจ่มจันทร์ให้ด้วย หากฉันไม่ได้เงินของฉันคืนวันนี้! เอาอีคุณนายนั่นถ่วงด้วยหิน แล้วทิ้งก้นแม่น้ำโขงได้เลย” ประกาศิตของฟาบริซแทบทำให้คนฟังแทบสิ้นสติ เรื่องร้ายแรงขนาดนี้เพราะว่าเธอขัดใจเขา มิน่าคุณป้าถึงย้ำนักหนาให้เธอนึกถึงบุญคุณของท่าน ข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด ที่เธอเมตตาหยิบยื่นให้ เธอจะใจดำขนาดนั้นเชียวหรือ หากสิ่งที่เธอสามารถทำได้คือหยุดความหายนะให้ครอบครัวสุขแสวง
“เดี๋ยวคะ...เดี๋ยว” ใบบัวกระทดตัวเข้าไปใกล้ๆ ปลายเท้าของฟาบริซ เธอโน้มตัวลง ก้มลงกราบกราน พร้อมกับพูดเสียงแผ่วปร่า เมื่อรู้สึกขื่นขมกับโชคชะตาตัวเอง “ให้บัวทำอะไรก็ได้ค่ะ บัวยอมแล้ว...”
“ดี! ทำหน้าที่ของเธอสะ...มันจะดีกับคนของเธอด้วย”
ไม่มีคำตอบจากใบบัว เธอหยัดกายลุกขึ้นนั่งหลังตรงเผง แต่กลับก้มหน้าลงเพื่อซ่อนรอยน้ำตา
“ฉันจะขึ้นไปรอข้างบน หากเธอพร้อมก็ตามขึ้นไป...”
ฟาบริซพูดลอยๆ เขาเดินตัวปลิวขึ้นไปรอบนห้องนอน ด้วยความกระหยิ่ม...เลือดลมวิ่งพลุ่งพล่าน เมื่อจวนเจียนจะได้ลิ้มรสนางสมันแสนสะอาดและบริสุทธิ์ผุดผ่อง...
